Bluetooth 5 เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งการมาของ Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่นั้นแน่นอนว่าต้องระบส่งข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม และมีระยะทางที่ไกลกว่าเดิมด้วย ส่วนมันจะแตกต่างจาก Bluetooth 4.2 ที่เราใช้กันในตอนนี้มากน้อยแค่ไหน ลองมาดูรายละเอียดกันครับ

Bluetooth 5.0 นั้นออกมาเพื่อใช้งานกับพวก IoT (Internet of Things) เป็นหลัก และรวมถึงอุปกรณ์สวมใส่บางประเภท เช่นสมาร์ทวอทช์ด้วย เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้ต้องการการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วหรือมีปริมาณมากในคราวเดียว หากแต่เป็นการส่งข้อมูลครั้งละน้อย ๆ แบบต่อเนื่องเสียมากกว่า ดังนั้นเทคโนโลยี BLE (Bluetooth Low Energy) จึงตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในการอัปเกรดขึ้นมาจาก Bluetooth 4.2 ก็จะมีทั้งในเรื่องของอัตราบริโภคพลังงาน ระยะการเชื่อมต่อ ความเสถียร ความเร็ว และอื่น ๆ โดย Bluetooth 5.0 เริ่มมีให้เห็นบ้างแล้วกับสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวในปีนี้

 

นอกจากนี้การส่งข้อมูลแบบ connectionless ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลแบบไม่ต้องสร้าง connection (ส่งต่อๆ กันระหว่างอุปกรณ์ไปเรื่อยๆ จนถึงปลายทาง) ไม่เป็นที่นิยมสำหรับ Bluetooth 4.2 เนื่องจากขนาดในการส่งแต่ละข้อความอยู่ที่ 31 bytes ซึ่งมันเล็กเกินไป แต่ Bluetooth 5 สามารถส่งได้ถึงข้อความละ 255 bytes และด้วยระยะการเชื่อมต่อที่ไกลขึ้น ทำให้ห้างร้านต่างๆ สามารถวาง Bluetooth beacon เพื่อส่งโฆษณาสินค้าและบริการต่างๆ เข้าไปตามอุปกรณ์ของลูกค้าได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย

ตารางเปรียบเทียบความสามารถของ Bluetooth 5 และ Bluetooth 4.2

ฟีเจอร์Bluetooth 5Bluetooth 4.2
ความเร็ว (BLE)เร็วกว่าเป็นเท่าตัว, ความเร็ว 2 Mbpsช้ากว่า, ความเร็ว 1 Mbps
ระยะการเชื่อมต่อไกลกว่าถึง 4 เท่า, เชื่อมต่อได้ไกลถึง 200 เมตรในบริเวณภายนอกอาคารที่ไม่มีผนังกั้น และ 50 เมตรภายในอาคารสั้นกว่า, เชื่อมต่อได้ 50 เมตรภายนอกอาคาร และ 10 เมตรภายในอาคาร
พลังงานที่ใช้น้อยกว่ามากกว่า
ขนาดของข้อความใหญ่กว่า, ประมาณ 255 bytesเล็กกว่า, ประมาณ 31 bytes ซึ่งจริงๆส่งไปได้แค่ 17 ถึง 20 bytes เท่านั้น
ความสามารถในการทำงานในสภาวะสัญญาณแออัดสูงกว่าต่ำกว่า
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่นานกว่าสั้นกว่า
ระดับความปลอดภัยสูงกว่าต่ำกว่า
ความสามารถในการจัดการข้อมูล2 Mbps, 1.6 Mbps หากใช้ร่วมกับเสาสัญญาณ1Mbps
ความแน่นอนสูงต่ำ
การสนับสนุนชีวิตแบบดิจิตอลดีกว่าไม่ดีเท่าเวอร์ชัน 5
การรองรับอุปกรณ์ IoTรองรับไม่รองรับ
Bluetooth beaconเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากมีระยะการส่งและความเร็วที่สูงขึ้นนิยมน้อยกว่าเนื่องจากส่งข้อความที่มีขนาดสูงสุดได้เพียง 31 bytes

ข้อมูลจาก kontakt.io

Bluetooth 5 มีความจำเป็นต่ออุปกรณ์ IoT, Bluetooth beacon และสมาร์ทโฟนต่างๆมาก โปรโตคอลของ Bluetooth beacon หลักๆก็จะมี iBeacon จาก Apple ซึ่งรองรับทั้ง iOS และ Android (แต่รองรับแบบ native สำหรับ iOS เท่านั้น) และ Eddystone จาก Google ที่สามารถส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบกว่า iBeacon แต่ก็มีความยุ่งยากในการใช้งานมากกว่าเช่นกัน ประโยชน์ของ Bluetooth beacon สามารถใช้ได้ทั้งการนำทางภายในอาคารต่างๆเช่น นำทางไปยังร้านต่างๆภายในห้างสรรพสินค้า, การติดตามตำแหน่งของมีค่าต่างๆ ไปจนถึงการปลดล็อคประตูโดยไม่ต้องใช้กุญแจ

ทั้งนี้ เพื่อน ๆ ไม่ต้องตกใจกับตัวเลขความเร็ว 2 Mbps ของ Bluetooth 5.0 ไปนะครับ เพราะนี่เป็นความเร็ว BLE สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ส่วนการเชื่อมต่ออื่น ๆ ที่ต้องอาศัยการส่งข้อมูลปริมาณมากจะยังคงทำได้ที่ระดับ High Speed (HS) ไม่ต่างจาก Bluetooth 3.0 หรือที่เรียกว่า “Bluetooth Classic” นั่นแหละครับ

 

ที่มา: RF Wireless World