มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้จัดโครงการพัฒนาบุคลากรด้าน VIRTUAL PRODUCTION โดยใช้ Unreal Engine เพื่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสู่ระดับโลก ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดประตูสู่อุตสาหกรรมบันเทิงยุคใหม่ สร้างโลกเสมือนจริงด้วย Unreal Engine ยกระดับภาพยนตร์ไทยสู่มาตรฐานโลก

งานครั้งนี้ ดำเนินงานโดยคณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ร่วมกับ บริษัท กันตนา โพสท์ โปรดักชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด, Epic Games (ผู้พัฒนา Unreal Engine) และบริษัทด้าน Virtual และ Immersive Technology ชั้นนำของไทย พร้อมการสนับสนุนโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
จัดขึ้นในช่วงวันที่ 23, 25–27 กรกฎาคม 2568 และ 29–30 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 6 วัน ซึ่งใช้สถานที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และบริษัทกันตนาโพสท์ โปรดักชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด

จุดมุ่งหมายสำคัญของโครงการ
- สร้างมาตรฐานสากลให้กับบุคลากรไทย
- ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
- ผลักดัน Soft Power ของไทยผ่านการเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงผู้ชมทั่วโลก
ซึ่งเราจะพาไปดูในวันแรก (Day 1) ว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง
โดยวันแรก จะเป็นการเปิดตัวโครงการ และ Special Talk Session ที่ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมภาพยนตร์, โฆษณา, ซีรีส์, มิวสิกวิดีโอ แอนิเมชัน มาร่วมเสวนาให้ความรู้ โดยแบ่งเนื้อหาของงาน เป็น 2 ช่วงหลัก ได้แก่
- หัวข้อ “Opportunities of Unreal Engine”
- หัวข้อ “Introduction to Virtual Production & Unreal Engine”
Session 1 : เสวนากับมืออาชีพในอุตสาหกรรมภาพยนตร์, โฆษณา, ซีรีส์, มิวสิกวิดีโอ
หัวข้อ: The Unreal Advantage : เทคโนโลยีเสมือนจริง และ Unreal Engine สามารถขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยอย่างไร

สาระสำคัญ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการ อุตสาหกรรมภาพยนตร์, โฆษณา, ซีรีส์, มิวสิกวิดีโอ ได้มาแชร์ประสบการณ์การใช้งาน Unreal Engine ในวงการทำสื่อต่างๆ
Unreal Engine (UE) คือเอนจินหรือซอฟต์แวร์สำหรับพัฒนาเกมและสร้างภาพกราฟิก 3D แบบเรียลไทม์ ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Epic Games จุดเด่นของ Unreal Engine คือความสามารถในการสร้างภาพที่สวยงาม สมจริงระดับภาพยนตร์ (photorealistic) พร้อมระบบฟิสิกส์ แสงเงา และการจัดการองค์ประกอบต่าง ๆ ของเกมหรือสื่อดิจิทัลได้แบบครบวงจร โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือภายนอกมากนัก
ปัจจุบัน เราแทบไม่ต้องอธิบายกันมากแล้วว่า Unreal Engine คืออะไร เพราะเทคโนโลยีเรียลไทม์ (Real-Time Technology) ได้เข้ามาอยู่รอบตัวเราอย่างกว้างขวาง เรามักได้ยินคำว่า Immersive Experience อยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญจึงไม่ใช่เพียงการชื่นชมความเจ๋งของเทคโนโลยี แต่คือการตั้งคำถามว่า เราจะนำเทคโนโลยีนี้มาสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเราได้อย่างไร
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมโลกได้ปรับวิธีทำงานด้วย Virtual Production จากการใช้จอ LED และเครื่องมือเรียลไทม์ ซึ่งไม่จำกัดแค่การผลิตภาพยนตร์ แต่ยังครอบคลุมไปถึงเกม แอนิเมชัน โฆษณา และคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์อื่น ๆ การใช้ Unreal Engine ทำให้สามารถสร้างภาพ Photorealistic แบบเรียลไทม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นแบบไฮบริดระหว่างเกมกับภาพยนตร์
ปัญหาและความท้าทายในไทย
- Ecosystem ด้าน Virtual Production ในไทยยังไม่ครบวงจร มีเพียงไม่กี่บริษัทที่พร้อมผลิตในระดับสากล
- จำนวนบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะทางยังจำกัด การพัฒนาคนยังต้องอาศัยความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา
- สิทธิประโยชน์ด้านนโยบาย (เช่น Tax Rebate) ยังต้องปรับเพื่อดึงดูดงานจากต่างประเทศและสนับสนุนงานไทย
โอกาสและแนวทางพัฒนา
- ใช้ Virtual Production เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มคุณภาพการผลิต (เช่น การถ่ายฉากรถในสตูดิโอแทนถนนจริง ลดค่าใช้จ่ายด้านสถานที่ ความปลอดภัย และเวลา)
- เตรียมงานตั้งแต่ต้นทาง (Pre-Production) โดยใช้ Previsualization เพื่อให้ผู้กำกับและทีมงานเห็นภาพงานล่วงหน้า ลดปัญหาการแก้ไขระหว่างถ่ายทำ
- สนับสนุนให้สถาบันการศึกษามีอุปกรณ์และซอฟต์แวร์พร้อมใช้งานจริง เพื่อปั้นบุคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรม
- สร้างมาตรฐานการคิดต้นทุนและวางแผนการผลิตแบบ Per Shot เพื่อนำไปสู่การเปรียบเทียบและเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่า
- ขยายการใช้เทคโนโลยีสู่หลายอุตสาหกรรม เช่น การศึกษา การแพทย์ การท่องเที่ยว และงานแสดงเชิงดิจิทัล (Immersive Experience)
แนวโน้มอนาคต
ในอนาคต Virtual Production, เกม, แอนิเมชัน และภาพยนตร์ จะมีการบรรจบกันมากขึ้น เทคโนโลยีจะพัฒนาไปจนกระบวนการทำงานเรียลไทม์ สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างเต็มรูปแบบ และเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอื่นๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยากรรม การศึกษา การแพทย์ การท่องเที่ยว มี AI เข้ามาเสริม และสิ่งสำคัญที่สุดคือ การคิดสร้างสรรค์ (Creativity) จะเป็นหัวใจในการสร้างความแตกต่างให้คอนเทนต์ไทยก้าวสู่ระดับโลก
ผู้ร่วมเสวนา
- คุณสิทธิชัย เทพไพฑูรย์ – ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกม
- คุณลี ชาตะเมธีกุล – ผู้อำนวยการฝ่ายโพสต์โปรดักชันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้/ไตัหวันของ Netflix
- หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ สารคดี และอนิเมชั่น
- คุณณยศ มังคโลดม (CEO of Teapot Studio)
- คุณโร่ กิตติพัฒน์ จินะทอง (CEO of Verse Media Technology)
- Moderator : คุณนพ ธรรมวานิช – อาจารย์ประจำคณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ ม.กรุงเทพ
Session 2: เสวนากับมืออาชีพในอุตสาหกรรมงาน Animation
หัวข้อ: How Virtual Production is reshaping the filmmaking business : Virtual Production และ Unreal Engine เปลี่ยนบทบาทการผลิตภาพยนตร์อย่างไรในทุกขั้นตอน

สาระสำคัญ
Unreal Engine เข้ามามีบทบาทยังไง?
1. การเปลี่ยนวิธีคิดการผลิต
- Virtual Production เปลี่ยนจากการ “แก้ปัญหาหน้ากอง” เป็น “การแก้ปัญหาตั้งแต่ Pre-Production”
- การวางแผนฉากและภาพตั้งแต่ต้น ช่วยให้ลดเวลาแก้ไขใน Post-Production
2. ข้อดีของ Virtual Production
- ประหยัดต้นทุน: ลดค่าเดินทาง ค่าขนส่งอุปกรณ์ ค่าจัดฉาก
- ประหยัดเวลา: ลดการรอฤดูกาล/สภาพอากาศ เช่น ฝน หิมะ พระอาทิตย์ตก
- ควบคุมคุณภาพ: ทุกองค์ประกอบ (แสง สี พื้นหลัง) ควบคุมได้ในสตูดิโอ
- เพิ่มความยืดหยุ่น: รองรับการปรับ Script ระหว่างถ่ายทำ
3. ความท้าทายในไทย
- บุคลากร : ต้องมีคนที่เข้าใจ Workflow Virtual Production อย่างครบวงจร ทั้งทีม Art, Camera, Unreal Engine และ Technical
- อุปกรณ์และระบบ : LED Wall, ระบบ Tracking, Hardware ต้องได้มาตรฐานสากล
- Ecosystem : ต้องมีการสนับสนุนจากทั้งสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และนโยบายภาครัฐ เพื่อดึงงานต่างชาติเข้ามาในไทย
4. โอกาสในอนาคต
- Virtual Production จะเป็นเครื่องมือสำคัญของงานโฆษณา ซีรีส์ และภาพยนตร์ไทย โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมต่อกับ Soft Power ไทย (เช่น การสร้างเรื่องราวไทยให้เข้าถึงตลาดโลก)
- ความสามารถของ Unreal Engine ทำให้ไทยสามารถผลิตคอนเทนต์ระดับสากลได้ หากพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานให้เพียงพอ
เทคนิคการใช้ Unreal Engine
Unreal Engine เป็นหัวใจของการสร้างฉากเสมือนจริงแบบ Photorealistic และ Real-Time มีวิธีการใช้งานหลัก 3 แบบ
- Pre-rendered Projection – เรนเดอร์ฉากล่วงหน้าแล้วฉายบนจอ LED (เหมาะกับงานที่คงที่)
- Hybrid – ใช้ฉากที่ผสมระหว่างภาพเรนเดอร์ล่วงหน้าและการควบคุมบางส่วนแบบ Real-Time
- Full Real-Time – ซิงค์กล้องกับจอ LED ให้ภาพเปลี่ยนไปพร้อมมุมกล้อง (ใช้ทรัพยากรมาก แต่ยืดหยุ่นสูง)
ผู้ร่วมเสวนา
- คุณเชาว์ คณาวุฒิกานต์ ผู้กำกับภาพยนตร์
- คุณ ดนุวัฒน์ เจตนา ผู้กำกับภาพ
- คุณธนวัฒน์ วัฒนาจินดา ผู้เชี่ยวชาญด้าน VFX
- Changjoo Yang (CJ) Business Development Director / Virtual Production บ.กันตนา โพสต์โปรดักชัน
- คุณปริญญ์ นิมมานนิตย์ Co-Founder บ.ฉายา พิคเจอร์
- Moderator: อ.กัลย์ยุทธพงศ์ นพคุณ ผู้จัดการโครงการการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาวิชาการ ม.กรุงเทพ
ได้ลงมือปฏิบัติจริง
นอกจากการได้ฟังเสวนาเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์จริงในสายงานที่เกี่ยวกับ Virtual Production และ Unreal Engine แล้ว ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ยังได้ร่วมเวิร์กช็อปใช้งานจริง ทดลองใช้ ทดลองทำในขั้นตอนขบวนการผลิตต่างๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ตลอด 6 วัน ของโครงการ
คำกล่าวเปิดงานของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
กล่าวว่า “ถ้าเราต้องการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ให้ได้คนนำต้องเป็นเอกชนและรัฐต้องเป็นคนสนับสนุน อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนและโดดเด่นอย่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ อุตสาหกรรมเกมเพราะทุกท่านลงมือทำและรัฐต้องทำหน้าที่เข้าไปสนับสนุนลงทุนในสิ่งที่ทางเอกชนยังขาดเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนควบคู่ไปด้วยกัน สิ่งสำคัญคือการรุกออกสู่ตลาดโลก โครงการฝึกอบรมในวันนี้ถือเป็นจิกซอว์ตัวนึงที่บอกถึงว่าเราทำต้นน้ำให้ดี ทำคนให้เก่ง ด้วยการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ Unreal Engine ที่จะช่วยทำให้เราพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ แอนิเมชัน ได้มากขึ้น นี่คือจิกซอว์ตัวที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการพัฒนาคน ต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ อุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ อุตสาหกรรมด้านเกม และมหาวิทยาลัย ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในการจะนำเทคโนโลยีอย่าง Virtual Production มาพัฒนาบุคลากรด้วย Unreal Engine ซอฟต์แวร์สร้างภาพเสมือนจริงที่เป็นมาตรฐานระดับสากลในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เกม และคอนเทนต์สร้างสรรค์ ถือเป็นเรื่องที่ดีมากและสำคัญมากในการพัฒนาประเทศไทย”
วิสัยทัศน์จากผู้บริหารมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

อาจารย์ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้กล่าวเปิดงานไว้ว่า มหาวิทยาลัยกรุงเทพมีความตั้งใจและตื่นเต้นอย่างมาก ที่ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมแอนิเมชันและเกม รวมถึงพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ใหม่ ๆ ที่จะช่วยสนับสนุนคนรุ่นใหม่ของไทย โดยเฉพาะผู้มีความสามารถในสายงานครีเอทีฟ ให้สามารถก้าวไปสู่ระดับสากล
เรามี DNA ด้าน Creativity อยู่ในรากฐานของมหาวิทยาลัย และเราให้ความสำคัญกับการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เพื่อให้ความคิดสร้างสรรค์ของไทยก้าวไปสู่โลกได้อย่างเต็มศักยภาพ
สิ่งสำคัญของโครงการนี้คือ การเล่าเรื่อง (Storytelling) เราเชื่อว่าการแชร์เรื่องราวจากประเทศไทย คือหัวใจหลัก และเราพร้อมสนับสนุนผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เช่น Virtual Production และ Unreal Engine ซึ่งเป็นเครื่องมือระดับโลก ที่ช่วยให้การผลิตสื่อไทยมีคุณภาพไม่แพ้ผลงานจากต่างประเทศ ทั้งในด้านภาพยนตร์ ซีรีส์ เกม และแอนิเมชัน
เรามีความตั้งใจทำงานร่วมกับพันธมิตรจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เหมือนกับที่เกาหลีประสบความสำเร็จมาแล้ว และหวังว่าการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เหล่านี้ จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ค้นพบความภาคภูมิใจในเรื่องเล่าของตน และนำเสนอวัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก

ดร.พีรชัย เกิดสินธุ์ คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการจัดทำ โครงการพัฒนาบุคลากรด้าน Virtual Production โดยใช้ Unreal Engine เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสู่ระดับโลก ภายใต้การสนับสนุนจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ตามแผนการขับเคลื่อนและพัฒนาแห่งชาติ พ.ศ. 2568
โครงการนี้เกิดขึ้นจากความเชื่อร่วมกันว่า Soft Power ของไทยจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน หากเราสามารถพัฒนาทักษะควบคู่ไปกับการเล่าเรื่องที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซีรีส์ สารคดี และแอนิเมชัน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ยุคใหม่Virtual Production และ Unreal Engine เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการผลิตภาพยนตร์ระดับโลก และวันนี้เรากำลังเริ่มวางรากฐานเพื่อให้ประเทศไทยมีบทบาทอย่างแท้จริงในเวทีโลก”
Comment