จากที่ ขสมก.เริ่มทดลองรับชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ไปเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ก็ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ แล้ว ที่สายรถประจำทางสาย 510 ให้บริการมา ซึ่งดูจะประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อยเพราะหลายความคิดเห็นออกมาในทางที่ดี และต้องการให้พัฒนาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ล่าสุดมีคนได้รับแจ้งทางพี่กระเป๋าฯว่า ขสมก. เตรียมจะขยายไปใช้สายอื่นด้วยในอนาคตแล้ว
ยังไม่มีบัตรก็ซื้อได้ทันทีจากกระเป๋าฯ พร้อมโปรลด-แถมเรียกลูกค้าใหม่เพียบ
ถ้าใครที่ยังไม่มีบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. สามารถหาซื้อบัตรได้บนรถเลย เพียงจ่ายเงิน 50 บาท คุณก็จะได้บัตรมาหนึ่งใบพร้อมเงินในบัตร 50 บาท สำหรับเอามาใช้ชำระค่าโดยสารกับกระเป๋ารถเมล์ได้แล้ว ซึ่งถ้าใครซื้อทันเป็น 10,000 ใบแรก นับตั้งแต่วันที่ 3 – 30 เมษายน ที่ผ่านมา สามารถซื้อบัตรได้ในราคา 40 บาทเท่านั้น แถมถ้าเกิดว่าเอาไปเติมเงินที่เคาน์เตอร์ของธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป จะได้เงินในบัตรเพิ่มอีก 50 บาทกันไปเลย แต่ว่าจำกัดเพียง 2,000 ใบเท่านั้น เข้าใจว่าป่านนี้น่าจะหมดไปแล้วค่ะ
เติมเงินง่ายๆ 3 ช่องทาง
เราสามารถเติมเงินเข้าบัตรที่ซื้อมาได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปที่ตู้ หรือวุ่นวายกับเจ้าหน้าที่อะไรทั้งสิ้น โดยทำได้ผ่านช่องทางต่างๆดังนี้
- แอป Mobile Banking << แนะนำ วิธีนี้ง่ายสุดละ
- ตู้ ATM ของทุกธนาคาร
- หรือเคาน์เตอร์ของธนาคารกรุงไทย
ไม่ใช่แค่บัตรโดยสารแต่ใช้เป็นบัตรเดบิตได้เลย
ถ้าใครสังเกตเครื่องอ่านของพี่กระเป๋าดีๆ จะเห็นว่าเครื่อง EDC ที่ใช้อยู่นี้มีลักษณะเหมือนเครื่องรูดบัตรเครดิตตามร้านค้าที่เราเคยใช้งานเลย นั่นก็เพราะเค้าใช้แบบเดียวกันจริงๆค่ะ แต่เป็นแบบไร้สาย สามารถรับจ่ายเงินแบบเคลื่อนที่ได้เลย ซึ่งนั่นหมายถึงว่าบัตรโดยสารที่เราซื้อมานี้ จริงๆมันใช้งานเป็นบัตรเดบิตใช้จ่ายที่ร้านค้าอื่นๆได้เช่นเดียวกันนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ดี ตัวบัตรจะยังไม่สามารถใช้งานเป็นบัตรเดบิตได้นะ เพราะถูกล็อคเอาไว้อยู่ เราต้องถือบัตรประชาชนกับบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์นี้ไปลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทยเสียก่อน จากนั้นคุณก็จะสามารถฝาก ถอน โอน จ่าย ที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยได้ นอกจากนี้ยังสามารถชำระบริการหรือสินค้าได้ หรือพูดง่ายๆ คือเป็นบัตรเดบิตที่ใช้งานได้แบบบัตรเดบิตของธนาคารต่างๆ ได้เลย โดยบัตรจะมีอายุการใช้งานถึง 5 ปี โดยไม่ต้องจ่ายธรรมเนียมรายปีเพิ่มเติมด้วยนะคะ
ไม่ใช่บัตรขสมก. ก็ใช้จ่ายเงินได้ แค่รองรับ Contactless
ถ้าใครไม่อยากพกบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. เพิ่มอีกใบนึง แต่ว่ามีบัตรเดบิตหรือเครดิตที่รองรับการจ่ายเงินแบบ Contactless อยู่แล้ว ก็สามารถนำเอามาใช้ในการจ่ายค่าโดยสารแทนได้ทันทีเหมือนกันนะ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นคือเครื่องรับชำระเงินของพี่กระเป๋า คือ EDC ที่เหมือนตามร้านค้าทั่วไป มันรองรับการชำระเงินตามมาตรฐาน EMV (Europay, Mastercard, VISA) ซึ่งหมายถึงบัตรเครดิตหรือเดบิต ไม่ว่าจะ VISA หรือ Master ที่พกๆกันอยู่เนี่ย จ่ายเงินพี่กระเป๋าได้เหมือนกันหมดเลย นอกจากนี้ยังมีบัตรอื่นๆ ที่สามารถใช้ได้อีกไม่ว่าจะ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ก็มี Contactless เหมือนกัน หรือจะเลือกชำระผ่าน QR CODE ก็ทำได้ ส่วนบัตรโดยสารล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็นตั๋วรายเดือน รายสัปดาห์ หรือบัตรนักเรียนนักศึกษา ก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกตินะ
เห็นอย่างนี้แล้วพอจะนึกภาพของอนาคตการเดินทางด้วยรถประจำทางได้เลยว่าเตรียมจะไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบเร็วๆนี้ ส่วนจะถึงขั้นที่จะพัฒนาให้ใช้บัตรเดียวขึ้นได้ทั้ง 3 ขนส่ง รถเมล์, BTS, MRT ได้หรือไม่นั้นก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าเขาจะสามารถคุยรวมเพื่อพัฒนาบัตรให้มีทิศทางเดียวกันได้รึเปล่า เพราะปัจจุบัน MRT ก็มีความสัมพันธ์กันดีกับ MRT อยู่แล้ว มีบัตรที่ทำมาเพื่อใช้งานร่วมกับ MRT อยู่ การจะรวมให้เป็นใบเดียวกันก็อาจจะไม่ยากนัก
ที่มา : กรุงไทย , องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
ดีตรงใช้บัตร Contactless ยี่ห้อไหนก็ได้
แต่จะยกเลิกการใช้เงินสดนี่คงต้องอีกสิบปี+ ขนาดเจ้าพ่อขนส่งมวลชนอย่างยี่ปุ่นยังมีเครื่องรับแบงค์/เหรียญอยู่ในรถบัสเลย
ทำเป็นเล่นไป เรื่อง Cashless นี่บ้านเรานำญี่ปุ่นไปเยอะละครับ ฝั่งนั้นยังเน้นเงินสดอยู่มากจริงๆ
ตาสี ยายมา จะรู้เรื่องไหมหละนั่น
ถ้าบ้านไหนเมืองไหนมี hacker เยอะ แล้วผมเป็นรัฐบานบ้านเมืองนั้น
ก็คงคิดทบทวนหลายตลบล่ะครับ ว่าจะทำสังคมไร้เงินสดในรัฐบาลผมจริง ๆ เหรอ
โคดแฮกเกอร์อย่างเมืองจีนตอนนี้ก็ cashless กันเยอะแล้วครับ ยิ่งร้านสะดวกซื้อนี่ไม่ค่อยมีใครจ่ายเงินสดกันเลย
บ้านเรา Cashless ผมว่าไม่แพ้ชาติอื่นๆนะ มันติดอะไรใครๆก็รู้ แค่นั้นเองงงง ถึงได้ง่อยไปง่อยมาตลอด เอาจริงจัง ผมว่า สามปีก็ใช้ได้สบายแล้วครับ ไม่ต้องรอ10+
อันดับแรกเลย เอา สว ออกไปก่อน แล้วมีนายก แค่นี้นังช้าเลย 555 ล้อเล่นนนนนนนนนนนนนนน
ไหนบอกแมงมุมใช้บริการได้ครบหมดไง…
สรุป…ต้องพกบัตรเพิ่ม ?
+1
BMTA Card น่าสนใจ แปลงร่างเป็นบัตร Debit ไม่มีค่าธรรมเนียมได้ด้วย
น่าสนใจมากครับ
เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยพกเงินสดแล้ว โทรศัพท์เครื่องเดียวเอาอยู่ 55
แต่ก็ต้องคอยชาร์ตมือถือไม่ให้แบตฯหมด หรือพกพาวเวอร์แบงค์ไว้ด้วย เพราะถ้าแบตฯหมดเมื่อไรก็ง่อยเลย ไม่มีเงินใช้
ถ้าระบบมันล่ม จะทำยังไง หัวอ่านสามารถเก็บข้อมูลการหักเงินได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ
ต้องทําระบบแบ็คอัพด้วย ไม่งั้นถ้าระบบล่มมาจะแย่ ใจจริงอยากใช้นะ แต่ก็หวั่นว่ามันจะเหมือน Internet Banking ที่ยังวางใจไม่ได้ 100%
แทนที่เราจะจ่ายค่ารถให้กับกระเป๋าแล้วจบแบบง่ายๆ เราต้องมาเปลี่ยนเป็น
– ใช้แอป Mobile Banking << แนะนำ วิธีนี้ง่ายสุดละ, เวลาขึ้นรถเมล์แน่นๆ, มือหนึ่งถือของหรือกระเป๋า อีกมือโหนรถเมล์ คงไม่ใช่ง่ายที่จะยกมือถือขึ้นมา จ่ายค่ารถเมล์หรอก ไม่หาที่เกาะให้ดี มีเซ
– วิ่งไปตู้ ATM ของทุกธนาคาร, เพิ่มภาระมั๊ย ทำให้เสียเวลาเพิ่มอีกมั๊ย แล้วต้องเสียค่าธรรมเนียมมั๊ย
– ไปเคาน์เตอร์ของธนาคารกรุงไทย, ยิ่งยุ่งกว่าไปตู้ ATM มั๊ย เพราะต้องมาต่อคิวรอคนอื่นๆที่มาก่อนเราอีกเพื่อเติมเงิน 100.- บ. ยิ่งมีการลดสาขาของ ธนาคารลง เคาน์เตอร์ธนาคารก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ ปกติสาขาของธนาคารกรุงไทยก็ค่อนข้างน้อยกว่าธนาคารอื่นอยู่แล้ว
"Cashless นี่บ้านเรานำญี่ปุ่นไปเยอะ" – การที่เค้ายังใช้เงินสด อาจเป็นเพราะเค้ามองเห็นปัญหาและความยุ่งยากของ Cashless 100% เค้าถึงไม่ใช้ ปล่อยให้มีทางเลือกไว้บ้าง แต่เรามองไม่เห็น….
ประเทศเราด้อยพัฒนากว่าเค้าเพราะเราคิดไม่เป็น คิดได้ไม่เหมือนเค้า แล้วก็ไม่ชอบคิด อะไรเห็นว่าง่ายก็เฮละโลกันไป
บ้านเราด้อยพัฒนากว่าเคา้ ไม่ใช่เพราะคิดไม่เป็นไรหรอกนะครับ คิดเป็น แต่คิดไม่สร้างสรรค์ คิดแต่จะโกงกิน ซิกแซกหาทางเอาเข้าตัวเอง รวมไปถึงการคอรัปชั่น ซึ่งเห็นทุกแห่งหนแล้ว ณ เวลานี้ ทำให้ประเทศเราไม่พัฒนาอย่างเค้า
อีกอย่าง หน่วยงาน ขสมก อาจคิดไม่ครบ 360 องศา ไม่ได้มองอย่างที่คุณแจ้งเลยว่า ปัญหาจะเกิดขึ้นกับ ผดส มากแค่ไหน เค้าไม่แคร์ หากแคร์ คงมี option มากขึ้น
น่าสนใจครับ 🙂 🙂
ใช้ card paywave ไม่ยากนะ ตาสีตาสายายมาปลาทูเง้อ ก็ใช้ได้
แต่ยากตรงให้เขาไปเปิดบัตรพวกนี้
อย่าง ATM อยู่ๆให้เขาไปเปิดบัตร เสียรายปีปีละ 500 เขาจะยอมเหรอ เห็นทุกวันนี้ยังไปนั่งออมสินรอถอนเงินอยู่เลย
ส่วนบัตรเครดิตแม้ไม่มีรายปีในหลายๆบัตร แต่พวกเขาก็เปิดบัตรยาก เพราะไม่มีเงินเดือน
ถ้าใช้ app อันนี้จะยากจริง ทุกวันนี้แม่ยังไม่ยอมสนใจพวก payment app เลย 55
ที่มันจะยากคือ ตาสียายสา ไม่รู้จักนี่แหละครับ วัยรุ่นเราๆศึกษาเข้าใจง่าย แต่คนที่เกิดก่อนยุคเรา บางคนเขาก็ไม่รับรู้เรื่องพวกนี้จริงๆ เอาจริงผมทำงานไอที ยังไม่เคยได้ยิน card paywave เลย ว่าแล้ว search แป๊ป..
ไอ้บัตร MRT ที่กรุงไทยทำ ถ้าใส่ Contactless มาก็จบแล้ว ใช้ MRT + รถเมล์
สวยๆ
แต่วิสัยทัศน์สั้นไง ในเมื่อจะเอาเครื่องรับมาให้รถเมล์ใช้อยู่แล้ว ทำไมไม่วางแผนดีๆ
ทุกวันนี้กระเป๋าสตางค์ไม่ได้หนักเพราะเงินสด แต่หนักเพราะบัตรต่างๆ นี่แหละ
เห็นด้วยที่จะพัฒนาไปสู่ยุคไร้เงินสด แต่ไม่เห็นด้วยที่จะบังคับใช้บัตร 100%
เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยไม่ได้ใช้รถเมล์ประจำ ปีนึงนั่งรถเมล์เพียง 4-5 ครั้ง
อีกประการนึง รถเมล์มันคือวิถีชีวิตของชาวบ้าน บางคนไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีบัตร ATM
จะมาทำระบบอะไรแบบนี้ ผมว่ามันเหมือนอยากจะแอคท่าเจริญแต่ไม่ดูบริบททางสังคมประกอบยังงัยไม่รู้
ถ้าพี่กระเป๋ามีบัตรสำรองเอาไว้ จะจ่ายให้พี่กระเป๋าเค้าเป็นเงินสด แล้วตัดผ่านบัตรเค้าให้ก็น่าจะได้ครับ
ถ้า ขสมก. เค้าไม่ให้พี่กระเป๋าเตรียมบัตรเอาไว้ ลองจ่ายเงินให้เพื่อนร่วมชาติคนอื่นช่วยจ่ายก็น่าจะพอได้ครับ
มันก็ควรมีทางเลือกให้ใช้เงินสดบ้างครับ เผื่อหลงลืม
ตาสียายมา เดี๋ยวนี้เขามีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้วด้วยนะครับ น่าจะไม่ยาก
คงต้องค่อยเป็นค่อยไป หักดิบเลยไม่น่ารอดครับ