ต้องบอกเลยว่าในปี 2023 นี้โน้ตบุ๊คที่วางขายกันโดยส่วนมากมักจะมาพร้อมกับช่อง USB-C กันอยู่แล้ว แน่นอนว่านอกจากการเชื่อมต่อเพื่อถ่ายโอนข้อมูล หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ อย่าง Flash drive มือถือ เมาส์ คีย์บอร์ด ในหลาย ๆ รุ่นยังมีความใช้ทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย เช่น การต่อจอภาพ DP และอีกหนึ่งฟังก์ชันหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นมาตรฐานใหม่ในยุคนี้เลยคือ รองรับการชาร์จไฟแบบ PD ผ่านช่อง USB-C นั่นเอง
โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักพร้อมแนะนำอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C ของโน้ตบุ๊ค ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจวิธีการใช้งานหรือวิธีการเลือกซื้ออยู่บ้าง เพราะเห็นช่อง USB-C เหมือนบนโทรศัพท์มือถือ เลยคิดว่าใช้ที่ชาร์จมือถือก็ได้ แต่ความจริงโดยส่วนใหญ่จะใช้ไม่ได้นะ
สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ชาร์จไฟโน้ตบุ๊คผ่านช่อง USB-C หลัก ๆ คือเทคโนโลยี PD หรือ Power Delivery เป็นเทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่พัฒนาโดย USB-IF Association มีแรงดันไฟ (Voltage) ได้ตั้งแต่ 5V ถึง 20V กล่าวคือเวลาเราออกไปข้างนอก เราสามารถใช้หัวชาร์จอะแดปเตอร์เล็ก ๆ แบบนี้ชาร์จไฟผ่านอะแดปเตอร์ใหญ่ ๆ หนา ๆ หนัก ๆ แบบนี้เลยได้นั่นเอง แต่ต้องก่อนว่าถ้าจะใช้โน้ตบุ๊คแบบเต็มประสิทธิภาพหรือเอามาตัดต่อ เล่นเกม ยังไงก็ต้องใช้อะแดปเตอร์ใหญ่ ๆ อยู่ดีนะ เพราะมันจ่ายไฟแรงกว่าหัวชาร์จเล็ก ๆ แบบนี้
3 สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะซื้อหัวชาร์จ PD โน้ตบุ๊ค
1. โน้ตบุ๊ค
ก่อนอื่นเราต้องตรวจสอบก่อนว่าโน้ตบุ๊คของเรารองรับการชาร์จไฟผ่านช่อง USB-C หรือไม่ โดยวิธีที่ง่าย และชัวร์ที่สุดคือ
- ดูที่เว็บไซต์ผู้ผลิตแบรนด์โน้ตบุ๊ค ในหน้าสเปคจะมีบอกเลยว่ารองรับช่องไหนบ้าง กี่วัตต์ และใช้ทำอะไรได้บ้าง
- เช็คสัญลักษณ์ที่พอร์ต USB-C ว่ามีรูปสายฟ้า หรือสัญลักษณ์รูปแบตเตอรี่ ก็มีโอกาสที่จะชาร์จได้เหมือนกัน
2. หัวชาร์จ
หัวชาร์จหรืออะแดปเตอร์ชาร์จ PD มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะชาร์จโน้ตบุ๊คได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกำลังไฟที่ปล่อยออกมาของหัวชาร์จเลย ส่วนวิธีการเลือกหัวชาร์จที่ควรนำมาใช้กับโน้ตบุ๊คมีตามนี้
- ต้องเลือกที่จ่ายไฟแบบ PD ได้ โดยสังเกตได้จากฉลากข้างกล่อง หรือลองอ่านจากสเปคของหัวชาร์จก็ได้ จะมีบอกเลยว่ารองรับหรือไม่รองรับ แต่กำลังไฟที่แนะนำเป็นขั้นต่ำคือ 65W ขึ้นไป หรือในโน้ตบุ๊คหลาย ๆ รุ่น บางตัวก็รองรับได้ถึง 100W 140W ก็มี
- กรณีเอาหัวชาร์จ 65W มาชาร์จเครื่องที่รับไฟได้ 140W ได้ไหม อันนี้คือทำได้ แล้วถ้าเอาหัวชาร์จ 140W มาชาร์จเครื่องที่รับไฟได้แค่ 65W ได้ไหม ก็ทำได้เช่นกัน เพราะว่าที่ตัวโน้ตบุ๊คกับหัวชาร์จจะมีระบบเซฟตี้การปรับแรงดันไฟให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
- ควรเลือกใช้หัวชาร์จเทคโนโลยี GaN เพราะเทคโนโลยีนี้ทำให้ หัวชาร์จขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม แต่ยังได้กำลังไฟเท่าเดิม เหมาะสำหรับการพกพา และเทคโนโลยี GaN มักจะอยู่ในหัวชาร์จรุ่นใหม่ ๆ ด้วย
- ไม่ควรเลือกรุ่นที่มีราคาถูกจนเกินไป เพราะตอนใช้งานอาจไม่ปลอดภัยทั้งต่อผู้ใช้ และต่ออุปกรณ์ คือหัวชาร์จราคาถูกเกินไปพวกนี้มักจะจ่ายไฟไม่นิ่ง ซึ่งอาจทำความเสียหายให้กับโน้ตบุ๊คของเราได้ ตามหลักแล้วหัวชาร์จที่มีราคาถูกมักจะโดนลดต้นทุนในหลาย ๆ ส่วนลง ชิปควบคุมที่มักไม่ได้มาตรฐาน เพราะอุปกรณ์ภายในที่ถูกลดเกรดลง
- ถ้าเอาที่ชาร์จมือถือกำลังไฟไม่ถึง 65W มาชาร์จ ชาร์จได้ไหม ก็บอกว่ามีทั้งได้และไม่ได้ ต้องลองเป็นเคส ๆ บางเครื่องขึ้นว่าไม่ได้ชาร์จอยู่ แต่มีไฟไหลเข้าเครื่องก็มี (แต่ใช้เวลาชาร์จช้ามาก) ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งจ่ายไฟได้เยอะก็ยิ่งแพง และมีขนาดใหญ่กว่า อันนี้ก็แล้วแต่เพื่อน ๆ เลยว่าจะชอบแบบไหนเล็ก ๆ เน้นพกพาสะดวก หรือว่าเน้นจ่ายไฟแรง เผื่อชาร์จหลายอุปกรณ์
3. สายชาร์จ
ต้องบอกก่อนว่าการชาร์จไฟในรูปแบบ PD มาตรฐานของเค้าจะเป็นสาย USB-C to USB-C ซึ่งถ้าถามว่าใช้แบบ USB-A to USB-C ได้ไหม ใช้ได้ แต่ช่องจ่ายไฟพวก USB-A มักจะจ่ายไฟได้น้อยกว่า USB-C คนเลยไม่ค่อยนิยม เพราะชาร์จช้ามาก เลยแนะนำเป็น USB-C มากกว่า ส่วนวิธีการเลือกสายชาร์จมีดังนี้เลย
- ต้องเลือกสายชาร์จระบุว่ารองรับมาตรฐาน PD
- แนะนำควรเลือกสายที่รองรับกำลังไฟได้ 100W หรือ 5A เพื่อรองรับหัวชาร์จกำลังไฟได้หลากหลาย
สรุป
ก่อนที่เพื่อน ๆ จะเริ่มใช้งานการชาร์จไฟแบบ PD ผ่านช่อง USB-C สิ่งที่ต้องดูเป็นอย่างแรกคือ พอร์ตโน้ตบุ๊ครองรับ PD ไหม และรองรับกำลังไฟกี่วัตต์ ต่อมาคือการเลือกซื้อหัวชาร์จก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่ามีงบประมาณเท่าไหร่ จะเลือก 65W ที่มีราคาถูกลงมาหน่อย พอดีขั้นต่ำของตัวเครื่อง หรือเลือก 100W 140W ราคาสูง ๆ ไปเลยก็ได้ไว้ชาร์จไฟเต็ม ๆ แรง ๆ
สุดท้ายคือการเลือกสายชาร์จที่รองรับกำลังไฟสูง ซึ่งถ้าให้ดีควรเลือกที่รองรับกำลังไฟ 100W ขึ้นไป และทั้งหัวชาร์จและสายชาร์จควรเลือกของที่ดี ๆ มียี่ห้อหน่อย หลายคนมักพลาดตรงจุดนี้ จนบางคนเจออุบัติเหตุระหว่างใช้งานได้ ถ้าโชคดีหน่อยก็แค่หัวชาร์จพัง ถ้าโชคร้ายมีโน้ตบุ๊คพัง บอกเลยว่าได้ไม่คุ้มเสียเลยครับ (เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย)
Comment