หลังจากที่ก่อนหน้ามีข่าวหนูแทะแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD ATTO 3 ไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดก็ลามมาที่ BYD Dolphin เป็นที่เรียบร้อย โดนกัดแบบเดียวกันเลย หลังจากที่เจ้าของเพิ่งจะถอยรถออกมาใหม่ได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์เอง

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ก็ได้มาข่าวหนูเข้าไปแทะฝาครอบแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อดังอย่าง BYD รุ่น ATTO 3 ซึ่งก็ทำเอาว้าวุ่นใจทั้งเจ้าของรถเองและผู้ใช้งานหลาย ๆ ท่าน และล่าสุดประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย รุ่นใหม่ก็ใช่ว่าจะรอด น้องหนูได้เข้าไปกัด BYD Dolphin ซึ่งคันนี้เจ้าของพึ่งจะถอยมาได้ไม่นานนัก

ผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของ BYD Dolphin ได้โพสต์ภาพและข้อความลงกลุ่ม Facebook ที่ชื่อว่า BYD DOLPHIN THAILAND โดยระบุว่า ” รถ dolphin extended ออกมา 2 อาทิตย์โดนหนูกัดฝาครอบแบตเตอรี่ใต้ท้องรถ บริษัท BYD มีอะไรแก้ไขได้ไหมครับถ้าต้องเปลี่ยนแบตใหม่เดี๋ยวโดนอีกจะทำยังไงครับเพื่อน ๆ ในกลุ่มลองดูกันด้วยนะครับ”

ซึ่งโพสต์นี้ก็ได้มีคอมเมนต์ตอบกลับมากมาย บ้างก็ให้รีบไปเคลม บ้างก็เป็นกังวลว่ารถที่ตนซื้อใหม่จะโดนด้วยมั้ย ซึ่งล่าสุดทางเจ้าของรถก็ได้มีอัปเดตกับทางศูนย์มาว่า

ศูนย์แจ้งว่าถ้าเกิดจากหนูกัดต้องแจ้งประกันอย่างเดียวแล้วจะให้ตรวจสอบว่าทะลุรึยัง ก็ต้องยกแบตลงมาต้องเสียค่าบริการตรวจสอบเองอีก ทางเจ้าของก็ถามว่า BYD ไม่ช่วยมีส่วนช่วยในการดูแลเรื่องนี้เลยหรอ ในเมื่อมันเกิดจากวัสดุแข็งแรงไม่พอแล้วถามอีกว่า ถ้าเคลมประกันแล้วใช้ไปอีก 2 อาทิตย์ แล้วโดนอีก ประกันจะจ่ายให้อีกหรอ?

แล้วปีต่อไปเบี้ยประกันก็ขึ้น ลูกค้าก็โดนผลกระทบเองทั้งหมด สรุป BYD โยนให้ประกันรับผิดชอบทั้ง ๆ ที่บริษัทแม่เองก็รู้ว่ามีปัญหานี้แจ้งเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่มีนโยบายออกมาแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า และถามไปอีกว่าถ้าเอารถไปเอาแบตลงมาแล้วไปทำที่ครอบเองจะมีปัญหากับประกันแบตหรือไม่? ซึ่งทาง BYDแจ้งว่าได้แต่เงื่อนไขแจ้งไว้ว่าถ้าสิ่งที่แต่งเพิ่มหรือใส่เพิ่มทำให้ระยะยาวมีผลกับรถก็หลุดประกัน สรุปป้องกันเองก็ไม่ได้ บริษัทก็ยังไม่มีนโยบายแก้ไขลูกค้าก็ต้องทนเจอปัญหานี้ต่อไป…

อย่างไรก็ต้องรอติดตามความคืบหน้ากับทาง BYD อีกทีว่าจะหาทางออกให้กับเคสแบบนี้ยังไงบ้าง เหตุการณ์ดังกล่าวมาหลายปัจจัยมาก ๆ ทั้งเรื่องของวัสดุ ตลอดจนสิ่งแวดล้อมเลยก็ว่าได้ แต่หากใครที่กังกวล ลองปรึกษากับทางศูนย์โดยตรงเลยว่ามีวิธีแก้ไขหรือป้องกันเบื้องต้นมั้ย

ที่มา : Facebook