ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ลงนามขายหุ้น และส่งมอบอำนาจในการดำเนินงานกับกลุ่มนักลงทุนในสหรัฐฯ ซึ่งนำโดย Oracle เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังยืดเยื้อและคาราคาซังกับปัญหาเสียงถูกแบนแอปฯ ในสหรัฐอเมริกามานาน

ดีลใหม่พร้อมสัดส่วนการถือหุ้นที่เปลี่ยนไป

ภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้ จะเป็นข้อตกลงในรูปแบบของสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฏหมาย (Binding agreements) ร่วมกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ TikTok USDS โดยมีกลุ่มนักลงทุนจากสหรัฐอเมริการถือหุ้นเป็นสัดส่วนที่มากกว่า ByteDance

  • กลุ่มนักลงทุน ได้แก่ Oracle, Silver Lake และ MGX ถือหุ้นรวมกันเป็น 45% (รายละ 15%)
  • กลุ่มนักลงทุนเดิมของ ByteDance ถือหุ้นรวมกันเป็น 30%
  • บริษัท ByteDance จะถือหุ้นด้วยตนเองเป็น 20%
  • นักลงทุนรายอื่น ๆ ถือหุ้นรวมเป็น 5%

ถึงแม้จะไม่มีการรายงานตัวเลขของดีลในครั้งนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มีการคาดการณ์กันว่าบริษัทร่วมทุนจัดตั้งใหม่นี้ จะมีมูลค่าที่มากถึงราว ๆ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.4 แสนล้านบาท)

บทบาทของ TikTok ในสหรัฐอเมริกา

Shou Zi Chew ซีอีโอของ TikTok เปิดเผยข้อมูลต่อพนักงานผ่านอีเมลถึงเรื่องของ “อัลกอริธึม” ว่าจะมีการปรับให้ทำงานร่วมกับข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ไปจนถึงบทบาทของ TikTok ในการตรวจสอบเนื้อหาต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มก็จะยังคงทำภายใต้เงื่อนไขของทางสหรัฐฯ เท่านั้น

โดยบทบาทที่โดดเด่นขึ้นมาก็จะเป็น Oracle ที่รับหน้าที่เป็นพันธมิตรด้านความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ (Trusted Security Partner) ในการคอยตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินงานของ Platform

ปัจจุบันผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐอเมริกามีมากกว่า 170 ล้านคน และเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันยอดฮิตที่มีอิทธิพลกับกลุ่มผู้ใช้งานทุกช่วงวัยเป็นอย่างมาก นี่จึงนับว่าเป็นข่าวที่น่าพึงพอใจอยู่พอสมควรครับ เพราะชาว US จะได้นอนไถฟีด TikTok กันแบบเพลิน ๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีอะไรให้เล่นแล้ว

ที่มา : Reuters