ขอเริ่มมหากาพย์การรีวิว Galaxy Note 4 vs iPhone 6 Plus ด้วยเรื่องของการถ่ายภาพก่อนเลยแล้วกัน เพราะน่าจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนให้ความสำคัญมากที่สุด และที่ผ่านมา iPhone 6 ก็ได้รับคำชมมากมายจากสื่อหลายสำนัก ทำให้ Galaxy Note 4 ถูกจับตามองว่ากล้องจะสู้กันไหวรึเปล่า ดังนั้นเดี๋ยวเรามาวัดกันดูสักที เปรียบเทียบให้เห็นกันสักหน่อย แน่นอนว่าจะมีภาพตัวอย่างมาให้ชมกัน แต่เช่นเดิมว่าส่วนสำคัญที่ทำให้กล้องดียังมีส่วนอื่นๆประกอบด้วย เช่น การวัดแสง, สมดุลแสงขาว, ความเที่ยงตรง, ฯลฯ
ไปดูภาพตัวอย่างเปรียบเทียบ Galaxy Note 4 vs iPhone 6 Plus ได้ที่ – ตัวอย่างภาพจากกล้อง Samsung Galaxy Note 4 vs Apple iPhone 6 Plus , ตัวอย่างภาพจากกล้อง Samsung Galaxy Note 4 vs Apple iPhone 6 Plus (2)
จากการใช้ทั้งสองตัวถ่ายรูปมาราวๆ 1 สัปดาห์ ได้ข้อสรุปมาประมาณนี้ครับ
Galaxy Note 4 | iPhone 6 Plus | |
ความละเอียด | 16 ล้านพิกเซล | 8 ล้านพิกเซล |
สัดส่วนภาพ | 16:9 | 4:3 |
ความเร็วในการเข้ากล้อง (cold start) | เร็ว | เร็วกว่าหน่อยนึง |
ความเร็วในการเข้ากล้อง (standby) | พอๆกัน | |
ความเร็วในการโฟกัส | เร็วกว่า | เร็ว |
การวัดแสง | ควบคุมยาก วัดเพี้ยนในบางสภาพแสง ปรับแสงไม่สะดวก | ใช้ง่าย วัดแสงแม่นยำ แตะตรงไหนตรงนั้นสว่าง |
การชดเชยแสง | ทำได้ | ทำได้ง่าย |
สมดุลแสงสีขาว | ดี // ปรับเองได้ | ดี // ปรับเองไม่ได้ |
ความถูกต้องของสี | ดี // สดเกิน,มีเพี้ยนนิดหน่อย | ดี // จืดๆเพี้ยนๆไม่มาก |
การปรับแต่ง | ปรับแต่งได้เยอะ ดูใช้งานยาก | ทำได้น้อย ดูใช้ง่ายง่าย |
ฟีเจอร์ | Time Lapse / Slomo 120fps / HDR / Panorama / Beauty / Shot & more / Photosphere / Dual Camera / Selective Focus / Virtual tour / Wide Selfie | Time Lapse / Slomo 240fps / HDR / Panorama |
กล้องหน้า | ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล | ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล |
ขนาดไฟล์ | 5-10 MB | ~2 MB |
ความเสถียร | ยังไม่เจออาการเอ๋อ | เอ๋อ 1-2 ครั้ง |
เพิ่มเติม
- ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล บน Galaxy Note 4 มันเจ๋งจริง ซูมเข้าไปดูรายละเอียดได้มากขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องแลกกับขนาดไฟล์ที่ใหญ่กว่า iPhone 6 Plus ถึง 3-5 เท่า
- องศาของภาพที่รับได้ทั้ง iPhone 6 Plus และ Galaxy Note 4 จะพอๆกัน แต่ภาพทั้งสองดูต่างกันเพราะสัดส่วนของเซนเซอร์ Galaxy Note 4 ทำมาเป็น 16:9 ส่วน iPhone 6 Plus ทำมาเป็น 4:3
- ความเร็วในการเข้ากล้อง หากไม่ได้ใช้งานนานๆ หรือปิดแบบหมดจดไป (Cold Start) ทั้งคู่ทำออกมาได้ดี ไม่ได้ถือว่าช้าอะไร แต่ว่า iPhone 6 Plus ยังเข้าไปเร็วกว่าอยู่หน่อยนึง
- แต่ถ้าเพิ่งใช้งานไปไม่นานแล้วเข้ากล้องไปอีกที (ยังค้างอยู่ใน RAM) จะเปิดได้เร็วพอๆกัน มีแค่บางครั้งที่ iPhone จะเข้าได้เร็วกว่าอยู่
- Galaxy Note 4 ทำได้เร็วกว่า iPhone 6 Plus ในเรื่องการโฟกัส
- Samsung ดูท่าจะไม่ยอมแก้ไขเรื่องการวัดแสงให้เปลี่ยนไปตามจุดโฟกัสสักที ทำให้วัดแสงยากและเพี้ยนอยู่ และดูมืดๆตุ่นๆในหลายๆครั้ง ต้องเรียนรู้วิธีการชดเชยแสง
- ชดเชยแสงกล้องของ Samsung มีอยู่นานมากแล้ว แต่ว่า iPhone ที่เพิ่งทำตามมาใน iOS 8 ออกแบบการใช้งานมาได้ใช้ง่ายกว่าเยอะมาก แตะวัดแสงจุดที่ต้องการปุ๊บก็เอานิ้วลากเลื่อนปรับแสงเพิ่ม-ลดตรงจุดโฟกัสได้ทันที
- สมดุลแสงสีขาวทั้งคู่ทำมาได้พอๆกัน แต่ Galaxy Note 4 จะดีกว่าตรงที่เวลาที่สีสันของสภาพแวดล้อมมันหลอกระบบ W/B เครื่อง เช่น เวลาเจอสีเหลืองทองตอนถ่ายพระพุทธรูป หรือต้นไม้เขียวๆ จะยังสามารถปรับ manual เองให้ตรงได้
- ความถูกต้องของสีรวมๆทำออกมาได้ดีพอกัน มีหลุดๆบ้างนิดๆหน่อยๆทั้งคู่โดย Galaxy Note 4 จะสดเว่อร์ในบางลีลา ส่วน iPhone 6 จะดูธรรมชาติกว่า แต่ก็จะดูจืดๆไปในบางขณะเช่นกัน
- การปรับแต่งแม้ฝั่งผู้ใช้ iOS บอกว่าออกแบบมาให้ใช้งานง่าย UI จะเรียบสุดๆเพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดี แต่ในทางกลับกัน มันก็จำกัดความต้องการของผู้ใช้พอสมควร เช่น อยากถ่ายรูปที่เล็กว่า 8 ล้านพิกเซลทำก็ไม่ได้, เลือกขนาดวิดีโอที่เหมาะสมก็ไม่มี, จะปรับ W/B ที่เพี้ยนเองก็ไม่ให้ทำ, ฯลฯ
- ส่วนทางฝั่งของ Samsung แม้จะมีให้เลือกปรับแต่งเยอะแยะมากมาย แต่เมนูก็ออกแบบมาได้ดูซับซ้อนและใช้งานยาก จนหลายๆคนที่เพิ่งเริ่มใช้ Samsung เป็นครั้งแรกถึงกับปวดเศียรเวียนเกล้าบ่นว่าใช้งานไม่เป็นกันเลยทีเดียว
- ฟีเจอร์ของฝั่งซัมซุงมีการปรับเปลี่ยนหลักๆคือโหมดต่างๆต้องใช้วิธีโหลดเพิ่มเอง ไม่ลงเป็นค่าตั้งต้นในเครื่องให้เหมือนเดิม ซึ่งก็ดีที่ไม่หนักและเปลืองพื้นที่ในเครื่อง และถ้ายังติดใจอยากใช้อยู่ก็กดเข้า Store เพื่อโหลดเพิ่มได้ทันที
- แม้ว่าหน้าจอ iPhone 6 Plus จะมีความละเอียดทีสูงขึ้น (1920×1080) แต่ทาง Apple กลับไม่ยอมเพิ่มความละเอียดกล้องหน้าให้ ทำให้ถ่ายมาภาพจะดูแตกๆไม่คมชัดเท่าไหร่นัก
เปรียบเทียบกล้องเรื่องความเร็วในการเปิดหน้าจอ + ความเร็วโฟกัส + วิธีการชดเชยแสง
ไปดูภาพตัวอย่างเปรียบเทียบ Galaxy Note 4 vs iPhone 6 Plus กันต่อเลยครับ เพื่อเป็นการไม่ยาวเกินไปขอยกยอดไปอีกหน้านึงนะ – ตัวอย่างภาพจากกล้อง Samsung Galaxy Note 4 vs Apple iPhone 6 Plus , ตัวอย่างภาพจากกล้อง Samsung Galaxy Note 4 vs Apple iPhone 6 Plus (2)
หรือสามารถโหลดภาพความละเอียดสูง ไฟล์ต้นฉบับได้จาก Dropbox เลยครับ

30 Comments
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
fasiok Post on October 1, 2014 at 11:30 pm
#871409
**Samsung ดูท่าจะไม่ยอมแก้ไขเรื่องการวัดแสงให้เปลี่ยนไปตามจุดโฟกัสสักที ทำให้วัดแสงยากและเพี้ยนอยู่ และดูมืดๆตุ่นๆในหลายๆครั้ง ต้องเรียนรู้วิธีการชดเชยแสง**
เสียด่ายตรงนี้แหละครับ ให้มาหมดก็ไม่ได้ หน้ามืดประจำเลย ให้วัดแสงแบบออโต้ #'#
mrbas3 Post on October 5, 2014 at 9:19 pm
#871987
มันล๊อคค่าแสงได้นะครับ แค่แพนไปข้างๆ ให้ภาพสว่างขึ้นแล้วกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้ จากนั้นก็แพนกลับมาที่ opject ที่ต้องการถ่ายแล้วปล่อยปุ่มชัตเตอร์
Gimme Post on October 6, 2014 at 8:59 am
#872056
เข้าใจว่าทำได้ครับ แต่คือมันลำบากน่ะอะ
ยิ่งถ้าชอบถ่าย Burst วิธีนี้ก็จบทันที
mickeymoi Post on October 1, 2014 at 11:38 pm
#871411
จริงๆน่าจะลงคนละตลาดนะ
ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ น้อย กับ
ใช้งานยาก ฟีเจอร์เยอะ
อยู่ที่คนชอบ
เหมือนบ้านผมซื้อให้คนรุ่นพ่อแม่ใช้
เทรดหุ้นกับ android แม่บอกใช้โคตรยากเลย
เล่นใน ipad ง่ายกว่าเยอะ
แต่ถ้าเป็นน้องๆผมชอบ ss นะ มันมีอะไรให้เล่นเยอะดี
untimaze Post on October 1, 2014 at 11:55 pm
#871419
ios เริ่มเสถียรสู้ android ไม่ได้ ทิศทางเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
pd2002 Post on October 1, 2014 at 11:55 pm
#871418
แนะนำตอนทดสอบความเร็วการโฟกัส ควรเอาตุ๊กตาอีกตัวมาวางไว้ด้านหลัง ห่างไปซักฟุตนึง แล้วแตะโฟกัสไปมาระหว่างตุ๊กตาสองตัว แล้วจับความเร็วครับ แบบนี้จะชัดเจน มีตัวแปรที่เหมือนกันด้วย
Gimme Post on October 1, 2014 at 11:58 pm
#871424
ส่วนตัวคิดว่าควรโฟกัสไปที่ระยะอนันต์หรือไกลกว่านั้นครับ แต่ที่ติงมาก็เป็นเหตุเป็นผล ไว้ได้เครื่อง Note4 มาอีกครั้งจะลองให้นะ
HD_Mania Post on October 2, 2014 at 12:10 am
#871426
ผมว่า iOS 8 คือ OS ที่ Bug เยอะที่สุดตั้งแต่ Apple ออก iOS มาเลย ต้องรอลุ้นว่า 8.1 ที่จะออกเร็วๆนี้จะแก้ปัญหาหมดหรือเปล่า
Padetc Post on October 2, 2014 at 12:15 am
#871428
อยากได้ข้อมูลความเร็วในการ ถ่ายรูปต่อเนื่องในหลายๆสภาพแสงครับ Samsung จะมีปัญหาประมวลผลและบันทึกภาพในสภาพแสงน้อยนานกว่าชาวบ้านอยู่เสมอ(อ้างอิง Note3) ไม่รู้ว่าตัวใหม่ปรับปรุงไปมากแค่ไหน
Gimme Post on October 2, 2014 at 12:38 am
#871433
อ้อลืมเรื่องนี้เลย
แต่ยิงรัวได้นะ แล้วก็ถ่ายภาพกลางคืนไม่ช้าเหมือน Note 3 ละ
mrbas3 Post on October 5, 2014 at 9:15 pm
#871986
ที่ note3 ประมวลผลช้าก็เพราะเปิดโหมดความเสถียรยังไงครับ เนื่องจากไม่มีระบบกันสั่นที่เป็น hardware จึงต้องใช้ software เข้าช่วย แต่ note 4 เค้ามี ois ในตัวแล้ว จุดนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน
indyend Post on October 2, 2014 at 1:06 am
#871438
ระดับการเซ็ตมันต่างกันเยอะถึงขนาดว่าแยกกลุ่มเป้าหมายกันเลย อย่างนี้การ VS ครั้งนี้ก็ไม่ค่อยตรงจุดรึเปล่า
Eka-x Post on October 3, 2014 at 1:18 am
#871557
อยากเซ็ตค่าการถ่ายรูปเพิ่มใน iPhone ลงแอปเพิ่มสิครัฟ อย่าง Camera+ ปรับได้หมดทั้งระยะโฟกัส, White Balance, การชดเชยแสง
jackzamak Post on October 2, 2014 at 2:36 am
#871449
อยากรู้เรื่อง ois ใช้ได้จริงมั้ยและขอใครทำได้ดีกว่ากัน
cirus Post on October 2, 2014 at 3:06 am
#871452
สงสัยต้องให้ท่าน Gimme เอาไวเบอเตอร์มาใช้ทดสอบแบบทางญี่ปุ่น
อยากรู้เหมือนกันว่า ois ของใครดีกว่ากัน
wisdom of social Post on October 2, 2014 at 3:12 am
#871453
แอบตกใจ ไฟล์ภาพของ Note 4 มันใหญ่มากมายขนาดนั้นเลยเหรอครับ
ถามเพิ่มเติม iPhone 6 Plus ที่ทดสอบ เป็น 8.0 หรือ 8.0.2 ครับ
ปล. เอาจริงๆ ถ้าถ่ายเดี่ยวๆ ภาพยี่ชัดเหมือนๆ กัน ไม่สิ ต้องบอกว่า ตอนนี้แต่ละแบรนด์คุณภาพกล้องไม่ค่อยต่างกันมากละ
phoenix5999 Post on October 2, 2014 at 5:41 am
#871477
ไม่รู้คิดไปเองไหม .. ดูเหมือน สวยพอกันเรยรูป แค่ หลุดๆ บางภาพ โทนสี ก้อแล้วแต่คนชอบ โอ้ววว สุดยอดจิงๆ ขอบคุณสำหรับการทดสอบครับ
LinkWii1 Post on October 2, 2014 at 9:49 pm
#871531
ส่วนใหญ่แสงเงากับสีพอๆกันนะครับ แม้บางภาพแสงสีจะผลัดกันแพ้ชนะบ้าง
แต่ความละเอียดจากภาพต้นฉบับ Note 4 ชนะขาดอยู่แล้ว
mitoona Post on October 2, 2014 at 10:19 pm
#871534
– ความเห็นส่วนตัวครับ
– คุณภาพรูปที่ได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกล้องก็ด้วย
– แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดมันอยู่ที่คนถือคนถ่าย ที่ศึกษาและใช้เป็นมากกว่าครับ ………. ไม่ว่าใช้อะไรถ่ายก้สวยได้ ทดสอบแบบนี้ก็เพื่อพิสูจน์สเปคเครื่องเท่านั้นครับ แต่ บอกไม่ได้ว่าทุกคนจะทำได้แค่ตามการทดสอบนี้เท่านั้น …. น่าจะมีคนที่ชำนาญพอที่จะรู้ว่าใช้แบบไหนถึงจะได้ภาพออกมาสวยตามที่ใจต้องการ และน่าจะมีคนที่ถ่ายได้แย่กว่านี้ด้วย คนๆนั้นก็ใช้เงินเป็นคุ้มค่าแล้วครับ
ปล.การถ่ายรูปมันเป็นศิลปะ มือถือมีกล้องทำออกมาให้ปรับแต่งได้ ไม่ได้บังคับให้ใช้ออโต้อย่างเดียว จ่ายเงินตั้งหลายหมื่นซื้อมาแล้วปรับให้เต็มที่เลยครับเพื่อให้ได้ภาพสวยตามที่ต้องการครับ…….. อย่างที่บอกครับคนถ่ายรูปได้กับคนถ่ายรูปเป็นต่างกันเยอะครับ
zipbaba Post on October 2, 2014 at 10:31 pm
#871537
ใหม่ๆคงยังมีปัญหาอยู่ ผ่านไประยะนึง น่าจะลองมา test กันอีกครั้งนะ ^_^
Djlovetoon Post on October 2, 2014 at 10:48 pm
#871544
โอ้ว ไฟล์ note 4 ใหญ่มาก 10 MB เลย iphone 6 2 MB แต่คุณภาพพอๆกัน note 4 ถ่ายสัก 1,000 รูป , หรือพันกว่ารูปนี่ 10 GB เลยอ่ะ ผมไม่ชอบใส่เมมด้วยสิ มันคือตัวปัญหาเลย! ขอ rom 32 GB ก็โอเคแล้วสำหรับมือถือ คคหสต
Eka-x Post on October 3, 2014 at 1:19 am
#871558
แต่ Android มันไม่มี Hipstamatic แล้วแอปไหนใน Android ก็แทนแอปนี้ไม่ได้ด้วย
กล้อง iPhone จึงเหนือกว่าเพราะมีแอปนี้อยู่ 555
iristoh Post on October 3, 2014 at 4:01 am
#871580
คุณกิม คืนเครื่องไปยัง วานดูเรื่องขอบจอที่กำลังฮอตหน่อยสิครับ
Gimme Post on October 3, 2014 at 8:19 am
#871606
คืนไปแล้ว แล้วก็เช็คแล้วว่าไม่มีปัญหาเรื่องขอบจอนะ
iristoh Post on October 3, 2014 at 9:47 am
#871616
Thank you
champll Post on October 4, 2014 at 3:52 am
#871754
ชอบกล้อง iphone กว่าน่ะสวยดี
ps000000 Post on October 5, 2014 at 11:29 pm
#872005
อยากถามเรื่อง หน้ากว้างเลนส์กล้องหลังครับ
เทียบกับ 35mm
คือชอบเลนส์หน้ากว้างเก็บภาพได้เยอะครับ
เช่น 22mm หรือ 26mm แบบนี้ครับ
Yoshio Post on October 6, 2014 at 6:21 pm
#872098
ผมทำ Galaxy Note 4 vs iPhone 5s เอาไว้ลองดูเล่นๆกันครับ
iristoh Post on October 7, 2014 at 4:58 am
#872172
ตามคลิป
Dynamic Range เดิมๆ(ไม่ใช่ HDR) โซนี่เอ้ยย.. ไอโฟนเหนือกว่าซัมซุงครับ
Apracha Post on October 6, 2014 at 7:30 pm
#872106
อยากให้ลองทดสอบที่ 8MP เปลียบเทียบกันครับ อันไหนดีกว่า
จะได้รู้ขนาดไฟลท์ และคุณภาพของภาพ