Canva แอปแต่งรูปทำสไลด์ขวัญใจนักศึกษา ประกาศเข้าซื้อ Affinity creative software suite โปรแกรมตัดต่อรูปชื่อดังงบประหยัด เพื่อเสริมกำลังท้าชนกับ Adobe Creative Cloud ในตลาดดิจิทัลกราฟิกดีไซเนอร์ ทำให้ตอนนี้ Canva กลายเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์ 3 ตัวอย่าง Affinity Designer, Affinity Photo และ Affinity Publisher อย่างเป็นทางการ

Affinity Designer

ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา Canva เรียกได้ว่าโตโดดจนน่าตกใจ เพราะปัจจุบันมีผู้ใช้งานรวมทั่วโลกกว่า 175 ล้านราย และมีมูลค่าบริษัทรวมกว่า 2.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการได้ Affinity เข้ามาอยู่ภายใต้ชายขาเดียวกัน จะช่วยขยายธุรกิจของ Canva เข้าไปในกลุ่มผู้ใช้งานระดับโปรมากขึ้น เพราะ ณ ปัจจุบันตัวแพลตฟอร์ม Canva เน้นออกแบบให้ใช้งานง่าย เหมาะกับคนที่ไม่มีพื้นฐานกราฟิก

Canva

ซึ่งฝั่ง Affinity เองก็มีชื่อเสียงในด้านโปรแกรมกราฟิกระดับมืออาชีพ ที่มีฟีเจอร์ครบครัน ใช้ทดแทน Adobe Photoshop, Illustrator และ InDesign ได้ แถมยังมากับวิธีการขายแบบดั้งเดิมอย่าง “การซื้อขาด” ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีพ แถมยังมาในราคาที่ถูกกว่าโปรแกรมในกลุ่ม Adobe พอสมควร จึงกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มกราฟิกดีไซเนอร์เบี้ยน้อย จนมีผู้ใช้งานกว่า 3 ล้านรายทั่วโลก

ทั้งนี้ทาง Canva ไม่ได้เปิดเผยว่าเข้าซื้อ Affinity ด้วยมูลค่าดีลเท่าไหร่ แต่สื่ออย่าง Bloomberg คาดการณ์ว่าดีลครั้งนี้น่าจะมีมูลค่ามากกว่าหลายร้อยล้านปอนด์ โดยทีมงานในฝั่ง Affinity ทั้งหมดกว่า 90 ราย จะถูกย้ายเข้ามาทำงานใน Canva ทันที และยังคงพัฒนา และซัพพอร์ตตัวซอฟต์แวร์ให้ต่อไป

ส่วนใครที่กลัวว่า เมื่อ Affinity เข้ามาอยู่กับ Canva แล้วจะเทิร์นตัวเองกลายเป็นโปรแกรมจ่ายเงินเช่าใช้งานรายเดือนแบบ Canva หรือ Adobe ด้วยรึเปล่า Affinity ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่า จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนดำเนินงานใด ๆ ทั้งสิ้นในตอนนี้ โปรแกรมยังคงเป็นแบบซื้อขาด ใครที่ซื้อไปแล้วจะยังใช้งานได้เหมือนเดิม และแผนอัปเดตโปรแกรมยังคงดำเนินงานไปตามแผนเดิม

เช่นเดียวกับผู้ร่วมก่อตั้ง Canva อย่าง Cameron Adam ก็ได้ออกมายืนยันเช่นกันว่า โปรแกรมต่าง ๆ ในเครือ Affinity จะยังแยกตัวจาก Canva ไม่รวมเข้าเป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน แต่ในอนาคตก็มีแผนหยิบฟีเจอร์เล็ก ๆ บางอย่างมาใช้งานร่วมกันได้

ใครสนใจตอนนี้แพ็ก Affinity แบบ Universal ลดราคา 30% อยู่ด้วยนะ

ถึงแม้ว่า Affinity จะยังมีโปรแกรมที่ไม่ยังไม่ครอบคลุมในกลุ่มทำเพลง หรืองานโปรดักชันตัดต่อวิดีโอ และยังมีผู้ใช้งานน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับโปรแกรมในกลุ่ม Adobe Creative Cloud แต่ทาง Canva ก็มั่นใจว่า Affinity จะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายเพื่อเข้าไปแย่งผู้ใช้งานระดับโปรที่เหนื่อยกับการจ่ายเงินจำนวนมากให้กับ Adobe ทุกเดือนนั่นเอง

ที่มา: Canva, Affinity, The Verge