ก่อนอื่นมารู้จักกับ Adsense กันก่อนละกันว่ามันคืออะไร?
จากภาพด้านบนนี้ android ทั้งสามเครื่องกำลังเข้าหน้าเว็บต่างประเทศเว็บหนึ่ง ซึ่งเพื่อนๆน่าจะสังเกตเห็นว่าอยู่ดีๆดันมีข้อความโฆษณาหรือว่าลิงก์เป็นภาษาไทยขึ้นมา และมักจะเจออย่างงี้ตามเว็บต่างๆที่เราแวะเวียนเข้าไปอ่านอยู่เสมอๆ เหล่านี้เป็นบริการโฆษณาของ Google ที่เปิดให้เจ้าของเว็บต่างๆเอา script ไปแปะเพื่อช่วย Google โฆษณาหารายได้นั่นเองครับ โดยทาง Google ก็จะมีเจ้าของเว็บมากมายมาเอา script เหล่านี้ไปติดตั้งจนกลายเป็นเครือข่ายโฆษณาที่ใหญ่มโหฬาร ทำให้มีเจ้าของกิจการมากมายอยากที่จะมาขอทาง Google โฆษณาผ่านเครือข่ายนี้เอง บริการนี้เรียกว่า Adsense
อ้าว…แล้วเจ้า Adsense มันจะช่วยทายลักษณะนิสัยของคนได้อย่างไรล่ะ
สังเกตมั้ยเอ่ยว่าโทรศัพท์ทั้งสามเครื่องมันแสดงโฆษณาไม่เหมือนกัน? นั่นเป็นเพราะว่า Google Adsense มันมีความพิเศษกว่าการโฆษณาแบนเนอร์ทั่วไป ที่มันสามารถวิเคราะห์ผู้ใช้งานก่อนแล้วจึงเลือกโฆษณามาแสดง เช่น ผมชอบดูฟุตบอล ดูหนัง หาร้านอาหารอร่อยๆ มันก็จะหาโฆษณาว่า “บินลัดฟ้าไปดูผีตีหงส์” หรือ “สุดยอดร้านอาหารอร่อยที่สุดในสามโลก” อะไรประมาณนี้ขึ้นมาแสดง เพื่อให้การโฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุดนั่นเอง
ถึงบางอ้อแล้วใช่มะว่า Adsense มันจะช่วยเรารู้จักคนๆนึงได้อย่างไร…
ใช่ครับ เราก็ดูจากโฆษณาที่โผล่ขึ้นตามเว็บต่างๆนั่นเอง อย่างโฆษณาที่ขึ้นมาบนโทรศัพท์สามเครื่องนี้ไม่เหมือนกันเลยซักเครื่อง เพราะมันเป็นคนละเจ้าของกัน แต่ว่าเจ้าของเครื่องไหนมีลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร เราก็น่าจะดูได้คร่าวๆจากโฆษณาเหล่านี้เอง โดยโทรศัพท์ทั้ง 3 เครื่องนี้เป็นของ Mod Droidsans เนี่ยแหละ ฉะนั้นลองทายกันดูครับว่าแต่ละเครื่องเป็นของใครกันมั่ง 😀
เอ๊ะๆ มีคนทำคิ้วขมวด…สงสัยล่ะสิว่า Google มันรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นยังไง ชอบอะไร
หะหะ นั่นเป็นเพราะว่า Google มีการเก็บข้อมูลของเราทั้งหมดเอาไว้ ทั้งคำค้นหาของเรา แอพที่ใช้ประจำ อีเมลล์ ที่ไปบ่อย ฯลฯ แล้วนำไปวิเคราะห์เพื่อนำมาแสดงผลนั่นเองครับ จนเป็นที่มาของคำว่า “Google รู้จักตัวเราดีกว่าตัวเรารู้จักตัวเองอีก” แต่อย่างไรก็ดี ข้อมูลเหล่านี้เราสามารถไปสั่งล้างทิ้งทั้งหมดได้นะครับที่ Google.com/accounts (ลองเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ AdChoice)
เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาปั๊บก็แอบคิดถึงแคมเปญ scroogled ที่ทาง Microsoft พยายามทำขึ้นมาเพื่อด่า Google เลยทีเดียว แต่ยังไงเรื่องนี้มันก็เป็นดาบสองคม การที่ Google รู้จักเราดีทั้งหมดก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแย่ซะทีเดียว เพราะมันทำให้เค้าสามารถคัดสรรเนื้อหาและข้อมูลที่ตรงใจเราที่สุดมาให้เราถึงที่ได้…แต่ก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวที่ถูก Google ติดตามไปซะทุกๆเรื่องหน่อยละกัน แต่ถ้าเกิดไม่คิดว่าข้อมูลส่วนตัวเราสำคัญหรือหวงตัวเองขนาดนั้นก็แนะนำให้เปิดๆไปเพื่อความสะดวกสบายครับ เพราะจริงๆที่น่าห่วงกว่าคือกรณีเครื่องหาย ซึ่งผู้ไม่หวังดีก็อาจจะเอาข้อมูลเหล่านี้มาทำให้เราปวดหัวได้
และเช่นเดิม ผมก็ของให้ทุกท่านไปเปิดใช้บริการติดตามเครื่องหาย และการสั่งล้างข้อมูลระยะไกลจากเว็บของยี่ห้อตัวเองกันตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยนะครับ 😉
ปล. ส่วนเฉลยว่าเครื่องไหนเป็นของใครเดี๋ยวให้ท่านพัดมาเป็นคนบอกละกัน ผมขอหนีไปเข้าวัดก่อนละ ไม่เจอกันสามวันจ้า
สวัสดี
ผมไม่แน่ใจ เครื่องอื่นเป็นของใคร แต่เครื่องแรก ต้องเป็นของ คุณเก่ง แน่เรยครับ ฟันธง ฮาๆ
เครื่องซ้ายสุดนี่โฆษณาชัดเจนมากครับ – –
ซ๊ายเฮียพัด กลางคูณเก่ง ขวาพี่กิม
ทำไมมองพี่พัดแบบนั้นหละครับ 😉 อาจ ซ้ายคุณเก่ง กลางคุณกิม ขวาคุณพัด ก็ได้น่ะ 🙂
ห๊ะ ไม่จั่ยสิ
เครื่องแรกไม่แน่ใจ เครื่องกลางน่าจะ htc one ของพี่พัด เครื่งสุดท้ายน่าจะ s4 ของพี่กิมมี่ แต่ถ้าให้เดาๆ…จอใหญ่..ไม่รู้นึกไม่ออกครับบบ >o<
คลิปใหม่สาวญี่ปุ่น?? จะเป็นใครดีล่ะ
พี่พัดสิครับ ดูจากข่าวที่เคยเขียนมา :p
สะพรึง…….คลิปใหม่สาวญี่ปุ่น !!!!!!
พี่พัฒ พี่กิม พี่เก่ง
ทายว่า เนย ภัทร กิม
Asus padphone2 = พี่พัฒน์ , HTC one = พี่เนย , S4 = พี่กิม ?? รึเปล่้า …อิอิ
ใหม่คลิปสาวญี่ปุ่น – ใช้แค่ single core 500 MHz ก็รู้ได้ทันทีว่าใคร คิคิ^^
พี่ภัทร พี่เนย พี่กิม