สงคราม Tech War ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กำลังคุกรุ่นขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ฝั่งสมาร์ทโฟนที่มีการแบนกันไปกันมา เพราะฝั่งพีซีก็มีความเคลื่อนไหวที่จริงจังมากขึ้นเช่นกัน ล่าสุดสื่อ South China Morning Post รายงานว่ารัฐบาลจีนกำลังผลักดัน OS ที่มีชื่อว่า Kylin ออกสู่ตลาดองค์กรจีนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อหวังแทนที่ Windows และ macOS ให้ได้เร็วที่สุด พร้อมงัดกลยุทธ์ใหม่ที่ไม่ได้มีดีแค่ตัว OS แต่ผลักดันไปถึงการออกแบบโค้ดโอเพ่นซอร์สของตัวเองเพื่อดึงดูดนักพัฒนาด้วย

จริง ๆ แล้ว Kylin ไม่ใช่ OS ใหม่ แต่ถูกพัฒนามานานแล้วตั้งแต่ปี 2001 โดยบริษัท Kylinsoft ร่วมกับนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ในเวอร์ชันแรกจะพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของ FreeBSD ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นพื้นฐาน Linux ในปี 2010 และก็มีเวอร์ชันพื้นฐาน Ubuntu ตามออกมาอีกในปี 2014

ก่อนหน้านี้ Kylin ถูกใช้งานเฉพาะในด้านการทหารและหน่วยงานรัฐบางแห่งของจีนเท่านั้น ปัจจุบันพัฒนามาถึงเวอร์ชันที่ 10 แล้ว มีความทันสมัยยิ่งขึ้น รองรับซอฟต์แวร์มากขึ้น และกำลังจะถูกต่อยอดให้กลายเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สในชื่อ “openKylin” เพื่อดึงดูดเหล่าโปรแกรมเมอร์และนักพัฒนาให้มาช่วยต่อยอดตัว Kylin OS ให้สมบูรณ์กว่าเดิม

นอกจากส่วนเคอร์เนลที่ก็ต้องยอมรับว่าออกแบบมาด้วยไส้ในของชาติตะวันตกเกือบหมด ตัว UI ของ Kylin เองก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Windows และ macOS ค่อนข้างมากไม่แพ้กัน แม้แต่ชื่อเวอร์ชันล่าสุดที่ออกมายังเป็น “Kylin V10 Service Pack 1” ซึ่งคล้ายกับชื่อที่ Microsoft ชอบตั้งในสมัย Windows XP ยังไงอย่างงั้นเลย

ปัจจุบัน Windows ยังคงครองส่วนแบ่งในจีนสูงถึง 85% ตามด้วย macOS อีก 6% จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่รัฐบาลจีนจะสามารถเอาซอฟต์แวร์สัญชาติอเมริกันเหล่านี้ออกจากประเทศได้หมดภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งจริง ๆ ก็พยายามมาหลายปีมากแล้วด้วย แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที ต้องมารอดูกลยุทธ์รอบนี้ของจีนกันว่าจะช่วยผลักดันให้สำเร็จขึ้นมากน้อยแค่ไหน

 

 

ที่มา : South China Moring Post, TechSpot