แม้ว่าจะเปลี่ยนแม่ทัพมาเป็น Joe Biden แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะมีนโยบายเกี่ยวกับข้อพิพาทสงครามการค้า (Trade War) เหมือนกับชุดก่อนหน้าที่นำโดย Donald Trump ส่งผลให้เหล่าสาวก HUAWEI ที่แอบหวังว่าบริษัทจากแดนมังกรนี้ อาจจะกลับมาใช้งาน GMS และติดต่อค้าขายกับบริษัทสัญชาติอเมริกันได้เหมือนเมื่อก่อนต้องฝันสลายไปกับตา
Huawei เอาอีกแล้ว หลังจากมีชุดเอกสารข้อมูลหลุดออกมาว่า พวกเขาได้ทดสอบระบบซอฟต์แวร์ AI สำหรับตรวจจับใบหน้าของชาว “อุยกูร์” เพื่อที่จะส่งแจ้งเตือนรัฐบาลจีน ให้จับตัวเข้าค่ายกักตัว โดยเผยว่า Huawei ได้แอบทดสอบซอฟต์แวร์นี้ไปในปี 2018 แต่ไม่เคยถูกใช้งานจริงๆ
ดูท่าทางว่า Huawei จะยังคงโดนมรสุมถาโถมเข้ามาอยู่เรื่อยๆ หลังจากที่โดนสหรัฐอเมริกาแบนจนไม่สามารถทำการค้าต่างๆ ด้วยได้ และยังโดนรัฐบาลอังกฤษสั่งแบนอุปกรณ์โทรคมนาคม 5G ตามไปอีกหนึ่งราย ซึ่งยังไม่หมดแค่นั้นเพราะล่าสุดทางสหภาพยุโรป (EU) ก็มีทีท่าว่าจะแบน Huawei ด้วยเช่นกัน ทำให้รัฐบาลจีนไม่สามารถนิ่งเฉย เตรียมออกมาตรตอบโต้บ้าง หาก EU จะแบน Huawei ตามสหรัฐ
งานนี้เล่นเอา Huawei Technology ถึงกับอยู่นิ่งไม่ติด ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ของ Huawei ทั่วโลกเพื่อตอบโต้และแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของรัฐบาลสหรัฐ ฯ หลังล่าสุดพวกเขาต้องพบกับประกาศฉบับล่าสุดจากทีมงาน Donald Trump ที่มีคำสั่งให้ขยายผลการแบนธุรกิจของ Huawei ออกไปอีก 1 ปีด้วยกัน ตามบัญชีดำของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ฯ หรือ “Entity List”
หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการไม่ให้บริษัทผลิตชิปเซ็ตชื่อดังจากไต้หวันอย่าง TSMC ส่งออกชิ้นส่วนให้กับ HiSilicon ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Huawei ล่าสุด The Global Times ก็รายงานว่า รัฐบาลจีนเตรียมออกมาตรการเอาคืนบ้างแล้ว โดยรอบนี้ พวกเขาเตรียมเปิด “บัญชีหน่วยงานที่ไม่น่าเชื่อถือ” (Unreliable Entity List) เพื่อแบนบริษัทสัญชาติอเมริกันไม่ให้เข้ามาทำธุรกิจในจีนบ้าง
เดิมทีนักวิเคราะห์หลายสำนักรวมถึงผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั่วโลกต่างประเมินกันไว้ว่าไตรมาสแรกของปี 2020 นี้ ยอดขายโดยรวมของสมาร์ทโฟนจะพากันหดตัวอย่างไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาความต้องการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคเอง หรือ แม้แต่สภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลให้บรรดา Tech Geeks ทั่วโลกนั้นกำลังซื้อ หดหายกันไปตาม ๆ กัน แต่งานนี้ทุกอย่างกำลังจะดูเบาไปเลยหากเทียบกับผลกระทบที่จีนได้ประเมินเอาไว้ล่าสุดว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนภายในประเทศจีนสำหรับไตรมาสแรกจะหายไปกว่า 40% ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยประเมินไว้ว่าจะลดลงราว 5% เท่านั้น
สถานการณ์ของไวรัสโคโรน่าในปัจจุบันต้องบอกว่ามีความน่าเป็นห่วงไม่น้อย โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งเราได้เห็นความพยายามควบคุมและป้องกันในหลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนที่น่าสนใจและมีการนำเอาเทคโนโลยีไปช่วยด้วยก็คือ ตำรวจใช้โดรนบินตรวจตรา หาคนที่เดินถนนแต่ไม่ใส่หน้ากาก เมื่อไหร่ที่พบก็บินเข้าหาพร้อมส่งเสียงดุผ่านลำโพงของโดรนอย่างดังให้ได้ยินกันทั่วๆไปเลย สร้างความแปลกตาแปลกใจให้แก่ประชาชนที่พบเห็นไม่น้อยเลย
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ได้มีการให้ความเห็นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไว้อย่างน่าสนใจ โดยประกาศชัดเจนถึงความเห็นของรัฐบาลเยอรมันในฐานะมหาอำนาจของสหภาพยุโรปว่า ชาติยุโรปต้องช่วยกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับศักยภาพด้านเทคโนโลยีให้เป็นของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบหลักอย่าง Chipset และ Battery เพื่อสนับสนุนให้ยุโรปมี Tech Giants เกิดขึ้นมาแข่งขันกับสหรัฐและจีนได้บ้าง
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์โป๊ะแตกของจีนอีกแล้ว หลังจากที่ทางรัฐบาลจีนนั้นมีแผนที่จะผลักดันวิทยาการและเทคโนโลยีที่เป็นของคนจีน แต่หลายครั้งกลับกลายเป็นเรื่องหลอกลวงของคนจีนเอง กรณีล่าสุดคือภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมที่ใช้ชื่อว่า Mulan ซึ่งให้เด็กๆ ได้ใช้เรียนและจะต่อยอดในอุตสาหกรรม IoT นั้นถูกจับได้ว่าจริงๆ แล้วเป็นภาษา Python
พอเข้าสู่ปีใหม่ ก็ดูเหมือนทิศทางของ Huawei กับปัญหาคารังคาซังทั้งหลายเริ่มจะดูดีขึ้นราวกับหมดปีชง ทั้งแนวโน้มการได้สิทธิ์ใช้ Android OS คืนมาสำหรับสมาร์ทโฟนของปีนี้ และล่าสุดรัฐบาลอินเดียผู้ไม่เคยแสดงท่าทีต่อการแบน Huawei มาก่อน ก็ได้ออกมาประกาศอนุมัติสนับสนุนให้มีการทดลองโครงข่าย 5G กันแล้วในเดือนนี้อย่างเสรี ซึ่งรวมถึงการอนุญาตผู้ให้บริการเครือข่าย ให้ใช้อุปกรณ์ของ Huawei ได้อย่างอิสระด้วยเช่นกัน