ยิ่งเทคโนโลยีของปัญญาประดิษฐ์ล้ำขึ้นฉลาดขึ้นมากเท่าไหร่ โลกเราก็ดูจะน่ากลัวขึ้นมากเท่านั้น หลังจากที่ปัจจุบันเริ่มมีข่าวการเอาปัญญาประดิษฐ์ไปใช้งานในรูปแบบผิด ๆ เพื่อสนองความต้องการของมิจฉาชีพและในแวดวงอาชญากรรม ล่าสุดเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในอังกฤษถูก AI ปลอมเสียงเป็น CEO ออกคำสั่งให้โอนเงินไปให้ รู้ตัวอีกทีเสียไปร่วม 7 ล้านบาท
บริษัทเก็บข้อมูลชื่อดัง Loup Ventures ได้ทำการทดสอบ Annual Digital Assistant IQ Test หรือเรียกง่ายๆ ว่าการทดสอบ IQ ของเหล่าผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Google Assistant, Siri และ Alexa ว่าใครจะมีประสิทธิภาพในการตอบคำถามได้ถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด โดยผลทดสอบปรากฎว่า Google Assistant...
ส่อแววดราม่ากันไปอีกสำหรับสหรัฐอเมริกา หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ได้ออกมาทวิตตบปากรับคำพร้อมสั่งทีมงานสอบสวน Google เป็นการด่วน จากข้อกล่าวหาสุดรุนแรงว่าแอบทำงานร่วมกันกับหน่วยข่าวกรองของจีน สืบเนื่องจากคำกล่าวอ้างของมหาเศรษฐีนักลงทุนชาวอเมริกันอย่าง Peter Thiel
ทีมนักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ชื่อ OpenAI ได้มีความพยายามศึกษาและพัฒนาซอฟแวร์ text generation ที่จะสามารถพยากรณ์คำศัพท์ต่อไปในประโยคด้วย AI ได้ด้วยความแม่นยำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้น กลับเหนือความคาดหมายไปมากเพราะปัญญาประดิษฐ์ดันสามารถเลียนแบบวิธีการเขียนอันสมบูรณ์แบบเช่นมนุษย์ได้เลย แต่พวกเขามองว่านี่มันเกินจุดประสงค์แรกไปมากและอาจจะเป็นอันตรายจึงได้ตัดสินใจทำการยุติโครงการพัฒนานี้เอาไว้จนกว่าจะหาคำตอบให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้เสียก่อน…
การเข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มรูปชนิดที่เทคโนโลยี อุปกรณ์สื่อสาร สมาร์ทโฟน หรืออินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอยู่ในทุกๆกิจวัตรของเรานั้น กลายเป็นประเด็นหลักที่โลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และสำหรับภาคธุรกิจก็เช่นเดียวกัน เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเปลี่ยนผ่านจากการเป็นของเล่นใหม่ สู่การเป็นเครื่องมือกระแสหลักชนิดที่ธุรกิจใดไม่ใช้เทคโนโลยี ธุรกิจนั้นถือว่าล้าหลัง และแน่นอนว่าผู้สร้างผลผลิตทางข้อมูลจำนวนมหาศาลให้กับภาคธุรกิจก็คือผู้บริโภคอย่างเราๆนี่เอง…
ระบบผู้ช่วยจำลอง (Virtual assistant) ทั้ง Siri (Apple), Cortana(Microsoft), Alexa (Amazon), และ Google Assistant ที่เราเห็นในปัจจุบันต่างมีหน้าที่ในการให้ข้อมูลหรือทำงานบางอย่างให้กับผู้ใช้ในแบบฉบับหุ่นยนต์ที่ไม่มีอารมณ์เป็นของตัวเองและไม่ได้สนใจว่าผู้ใช้กำลังอยู่ในอารมณ์ใด แต่ว่าล่าสุดบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลกอย่าง Huawei ประกาศว่าตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะมี AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาช่วยภายในระบบผู้ช่วยสำหรับการตอบโต้กับผู้ใช้ที่กำลังอยู่ในอารมณ์ต่างๆ ได้
Sundar Pichai, CEO บริษัท Google ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ไว้ในการสัมภาษณ์ทางทีวีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขามองว่า AI คือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่มนุษย์กำลังพัฒนาอยู่ สำคัญยิ่งกว่าไฟหรือไฟฟ้า โดยมันอาจสามารถช่วยมนุษยชาติค้นหาวิธีการรักษามะเร็งหรือแม้แต่การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนได้
ใกล้ถึงแล้วกับงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ Mate 10 จาก Huawei ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ โดยล่าสุดบริษัทได้ทำการปล่อยทีเซอร์สั้นๆออกมายั่วน้ำลายผ่านทางทวิตเตอร์ Huawei Mobile ซึ่งในวิดีโอมีข้อความที่ชวนให้หยุดสงสัยไม่ได้ว่า “This is not a smart phone.” หรือก็คือนี่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนนั่นเอง
เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีกับการพัฒนาระบบแอปพลิเคชั่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในทางการแพทย์อย่าง DeepEye ที่ช่วยตรวจคัดกรองโรคเบาหวานขึ้นตาเนื่องจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจากโรคเบาหวาน ซึ่งในระยะยาวแล้วอาจทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะตาบอดได้ และยังคว้ารางวัล Grand Prix จากงานสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก ครั้งที่ 45 (International Exhibition of Inventions) ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทุกวันนี้นอกจากเงินจะเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาแล้ว ข้อมูลก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างนึงในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ให้มีความฉลาดและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้ง Facebook, Amazon, Alphabet (บริษัทลูกของ Google), IBM และ Microsoft ต่างก็ถือข้อมูลขนาดมหึมาของโลกนี้ไว้อยู่แล้ว จึงมาจับมือกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความคืบหน้ากัน