สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีน ไต้หวัน และสหรัฐฯ กำลังเป็นประเด็นที่ทั้งโลกต้องหันมาให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงอุตสาหกรรมไอทีที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งปัจจุบันไต้หวันถือเป็นยักษ์ใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดเกินกว่า 60% หากที่สุดแล้วเรื่องราวบานปลายจนเกิดภาวะสงครามขึ้นมา สินค้าไอทีมีโอกาสสูงที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ชิป (อาจ) หายไปค่อนโลก
เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจใส่ชื่อ HUAWEI เข้าไปไว้ในบัญชีดำหรือ Entity List โดยให้เหตุผลว่าอุปกรณ์ของบริษัทฯ จากจีนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ส่งผลให้ HUAWEI ไม่สามารถติดตั้ง Google Mobile Services ในโทรศัพท์, ชิป Kirin ไม่มีคนผลิตให้, เข้าถึงอุปกรณ์ผลิตสมาร์ทโฟนได้ไม่เพียงพอ ฯลฯ...
แม้ว่าจะปลีกวิเวก ประกาศอิสรภาพจาก HUAWEI ไปแล้วเมื่อช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมา สำหรับ HONOR แต่ล่าสุดมีสิทธิ์ที่จะมีชะตากรรมจะเดียวกับรุ่นพี่ซะแล้ว เพราะเหมือนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาใส่ชื่อ HONOR เข้าไว้ใน Entity List ของกระทรวงพาณิชย์เหมือนกับ HUAWEI ที่เคยโดนในลักษณะเดียวกันเมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้ว
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้ว่าของกรุง Washinton D.C. เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศว่า เด็กอายุระหว่าง 12 – 17 ปี จะได้รับหูฟังไร้สาย AirPods ของ Apple ไปแบบฟรี ๆ เมื่อมาฉีดวัคซีนเข็มแรกที่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ อีกทั้งยังได้ลุ้นทุนการศึกษาเป็นมูลค่ากว่า 25,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ...
ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ ณ ตอนนั้นแม่ทัพยังเป็น Donald Trump ได้เซ็นคำสั่งแบนแอปจีนหลากหลายตัว อาทิ TikTok และ WeChat ห้ามไม่ให้นักลงทุนไปลงเม็ดเงินกับบริษัท เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ แต่ล่าสุดตอนนี้คำสั่งดังกล่าวก็ได้ถูกยกเลิกโดยรัฐบาลชุดปัจจุบันของ Joe Biden เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Donald Trump ทิ้งทวนวันท้าย ๆ ของตัวเองในทำเนียบรัฐบาล ด้วยการแบน Xiaomi ห้ามนักลงทุนสหรัฐฯ ไปถือหุ้นในบริษัท ด้วยเหตุผลที่ว่า Xiaomi นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์ในจีน ล่าสุดโทษแบนดังกล่าวถูกเผิกถอนแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม นักลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท Xiaomi ได้ตามเคย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปี 2020 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีที่ค่อนข้างจะสาหัสสำหรับทุกฝ่าย โดยเฉพาะ HUAWEI ที่นอกจากจะโดนพิษ COVID-19 เล่นงานแล้ว ยังเหมือนว่าจะเมาหมัดจากโทษแบนของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใส่ชื่อพวกเขาเข้าไปไว้ในบัญชีดำ (Entity List) ไม่หาย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เหมือนจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะล่าสุดพวกเขาออกมาประกาศผลประกอบการประจำปี 2020 เผยรายได้เข้าบริษัทเข้าบริษัทเรื่อย ๆ มากกว่าปีกลายเสียอีก
หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ออกมาเฉลยว่าสาเหตุที่แบน Xiaomi ห้ามไม่ให้นักลงทุนอเมริกันลงเม็ดเงินให้กับบริษัทจีนดังกล่าว ก็เพราะว่าผู้ก่อตั้งของ Xiaomi ไปได้รับรางวัลจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ทำให้สหรัฐฯ คิดว่า Xiaomi ต้องมีส่วนได้ส่วนเสียกับพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนเป็นแน่ แต่ล่าสุดเหมือนการแบนดังกล่าวจะโดนกีดกันซะแล้ว
ย้อนกลับไปกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลชุดเก่าของสหรัฐฯ นำโดย Donald Trump ได้ทิ้งทวนด้วยการใส่ชื่อ Xiaomi เข้าไปในบัญชีดำ ข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน ห้ามให้บริษัทและนักลงทุนสัญชาติอเมริกันไปลงทุน ให้เม็ดเงินกับบริษัทจากแดนมังกรนี้ ก่อน Xiaomi จะออกมาปฏิเสธภายหลัง ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ออกมาไขข้อกระจ่างแล้วว่าทำไมอยู่ดีๆ พวกเขาถึงตั้งแง่กับ Xiaomi ว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับกองทัพจีนดังกล่าว
แม้ว่าจะเปลี่ยนแม่ทัพมาเป็น Joe Biden แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะมีนโยบายเกี่ยวกับข้อพิพาทสงครามการค้า (Trade War) เหมือนกับชุดก่อนหน้าที่นำโดย Donald Trump ส่งผลให้เหล่าสาวก HUAWEI ที่แอบหวังว่าบริษัทจากแดนมังกรนี้ อาจจะกลับมาใช้งาน GMS และติดต่อค้าขายกับบริษัทสัญชาติอเมริกันได้เหมือนเมื่อก่อนต้องฝันสลายไปกับตา
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า