ฟีเจอร์ Autofill เป็นหนึ่งในตัวชูโรงของเว็บเบราว์เซอร์ Chrome สำหรับ Android มีความสามารถในการกรอกข้อมูลต่าง ๆ ที่เราเคยบันทึกไว้โดยอัตโนมัติ เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต ที่อยู่ และเบอร์โทร ฯลฯ ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ จะได้ไม่ต้องมาคอยจำหรือคอยกรอกข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ให้วุ่นวายบ่อย ๆ และในตอนนี้ Google ก็ได้อัปเกรดฟีเจอร์ดังกล่าวให้สามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิตของตัวเองได้ ผ่านการยืนยันตัวตนด้วย biometric เช่น สแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าได้แล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้การกรอกเลข CVC

ยืนยันตัวตนด้วยระบบ biometric ก่อนชำระเงินด้วยบัตรเครดิต/เดบิต

ปกติแล้วการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ บนเบราว์เซอร์ Chrome สำหรับ Android จะต้องมีการกรอกเลขบัตร, ชื่อผู้ถือบัตร, วันหมดอายุ และตบท้ายด้วยเลข CVC ถึงจะชำระเงินได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะถูกบันทึกเอาไว้บน Chrome (หากเรากดอนุญาต) โดยเราสามารถกรอกข้อมูลเหล่านั้นได้แบบอัตโนมัติผ่านฟีเจอร์ Autofill เมื่อเราต้องการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตในครั้งถัดไป แต่ถึงแม้ว่าจะกรอกข้อมูลอัตโนมัติแล้ว เราก็ยังต้องยืนยันตัวตนด้วยเลย CVC หลังบัตรอีกทีเพื่อความปลอดภัย

แต่การอัปเดต Chrome หลังจากนี้ จะเพิ่มความสามารถในการยืนยันตัวตนด้วยระบบ biometric (สแกนนิ้ว หรือสแกนหน้า) แทนการกรอกเลข CVC แต่ถ้าใครไม่ต้องการก็สามารถเลือกใช้เลข CVC เหมือนเดิมได้ โดยในตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวมีให้ใช้บน Chrome ของระบบ Windows และ Mac แล้ว ส่วนของ Android กำลังจะตามมาในอีกไม่นานนี้

ฟีเจอร์ใหม่ touch-to-fill

นอกจากการใช้งานบัตรเครดิตผ่าน biometric แล้ว Google ยังเพิ่มความสามารถใหม่ที่ชื่อ touch-to-fill ให้กับ Chrome บน Android อีกด้วย โดยจะเป็นการบันทึกรหัสผ่านของบัญชีบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ของเราเอาไว้ แยกตามแต่ละเว็บ ซึ่งหากดูเผิน ๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วมันช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ข้อมูลบัญชีและรหัสผ่านของเราได้อย่างมากจากเว็บไซต์ปลอมทั้งหลาย เนื่องจากหากเป็นเว็บไซต์ที่ปลอมซะจนเหมือนเปี๊ยบ แต่เป็นเว็บที่เราไม่เคยเข้ามาก่อน มันก็จะไม่มีตัวเลือก touch-to-fill ขึ้นมาให้นั่นเอง (ตามที่เราเคยรายงานไปก่อนหน้านี้ว่า มีเว็บไซต์ธนาคารปลอมหลอกดักข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตของผู้ใช้งาน)

ทั้งสองฟีเจอร์ใหม่ของ Chrome เตรียมจะเปิดให้ผู้ใช้งาน Android ได้ใช้งานกันภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการทยอยปล่อยอัปเดตเรื่อย ๆ เช่นเคย ส่วนทางฝั่ง iOS นั้นยังไม่มีรายละเอียดในเรื่องฟีเจอร์นี้แต่อย่างใดครับ

 

ที่มา : Chromium Blog