หลายๆ ท่านน่าจะได้เห้นข่าวผ่านตามาบ้างแล้ว เกี่ยวกับงาน AIS Commart Digilife 2015 ที่ตอนแรกที่เปิดตัวมาผมก็แอบประหลาดใจ ที่เห็นโลโก้ AIS เด่นหรานำหน้าชื่องานขายสินค้า IT ระดับตำนาน แต่ผ่านไปไม่นาน เมื่อ Commart จัดงานแถลงข่าว ทำไปทำมาผลปรกฏว่ามีการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ AIS หายไปเฉยเลยซะยังงั้น!

ข้อมูลเบื้องต้นที่ทราบมาจาก mxphone ก็คือ ทาง AIS ได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สนับสนุนหลักงาน AIS Commart Digilife 2015 ด้วยสาเหตุที่ว่าทาง ARIP ผู้จัดงาน Commart ไม่ให้ความสำคัญกับทาง AIS ในงานแถลงข่าวจัดงาน Commart ประจำเดือนมีนาคม 2558 ที่กำลังจะถึงนี้แล้ว โดยหลังจากการประกาศถอนตัวของ AIS ทาง ARIP ได้เปลี่ยนชื่องาน Commart ครั้งนี้เป็น Commart Digilife เฉยๆ โดยตัดชื่อ AIS ออกไป กลายเป็นชื่องาน Commart 2015 Summer Sale

การที่ AIS เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักของงาน Commart ครั้งนี้เพื่อจะใช้พื้นที่ราวครึ่งหนึ่งของงาน ในการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ของบริษัทที่จะเปิดตัวภายในปีนี้ การที่ AIS ถอนตัวออกไป ย่อมส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ถูกใช้จัดงานและอาจทำให้งาน Commart ครั้งนี้มีที่ว่างกว่าครึ่งเลยทีเดียว ซึ่งจากที่เราได้ข้อมูลมา ทาง AIS ได้ขอเช่าพื้นที่หลักของงานที่เรียกกันว่าโซนเพลนน่ารี่ฮอล์ ประมาณครึ่งนึง

ลองนึกถึงภาพงาน Commart เมื่อก่อนหน้านี้ เอาสักประมาณปี 2010 ก็ได้ครับ ที่มีคนไปเดินเยอะแน่นขนัดจนห้องโถงตรงกลางหรือเพลนนารี่ฮอลล์ที่เราพูดถึงนั้นแทบจะขยับไม่ได้ พื้นที่ในงานถูกจับจองเต็มไปหมดด้วยแบรนด์ต่างๆ แผนที่ของงานออกมาดูอลังการมาก ลองดูภาพประกอบได้

แต่มาช่วงหลังๆ ผมไม่สามารถหาแผนผังในงาน Commart ได้เลย แม้แต่ที่เวปของ Commart เอง (คือไม่รู้ทำไมไม่ทำออกมา) เลยขออนุญาตเอาความทรงจำจากที่ไปเดินมาครั้งล่าสุด มาเขียนขึ้นมาเป็นภาพแผนผังแสดงพื้นที่ในส่วนที่ AIS ได้เข้ามาขอเช่าเพื่อจัดแสดงโชว์เคสครับ

คาดการณ์ว่าทาง AIS น่าจะเอาบูธโชว์เคสต่างๆ ที่เคยจัดในงาน AIS Vision เมื่อต้นปีนำมาแสดงในงานครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Super WiFi, FibreNet และ Playbox

แต่พอมาเกิดปัญหาดราม่า จน AIS ต้องถอนตัวออกไปแบบนี้ ภาพน้องๆ พริตตี้ข้างบนเราคงจะไม่ได้เห็น รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ของ AIS ก็อาจจะไม่ได้ลองได้สัมผัสกันแน่ๆ ทั้งๆ ที่ส่วนนี้จะว่าไปแล้วมันก็ถือเป็นเทคโนโลยีที่คนไทยน่าจะได้รับรู้และไปลองสัมผัส

ผมเองไม่ได้มองว่าต้องเป็น AIS ค่ายเดียว (แต่ในที่นี้เค้าคือคนที่มาร่วมเป็นสปอนเซอร์ของงาน) จริงๆ อาจจะเป็นค่ายอื่นไม่ว่า dtac, truemove หรือจะเป็น Google, Microsoft, Intel หรือ Apple นำเอาเทคโนโลยีหรืออะไรใหม่ๆ มาแสดงในงานก็ได้ หากมันน่าสนใจ ใกล้ตัวและช่วยให้คนไปงานได้สัมผัสกับสิ่งที่กำลังจะมาถึง

ตอนนี้คนที่งานเข้าเลยก็คือ Commart ยิ่งใกล้วันจัดงานเข้าไปทุกที พื้นที่ที่ว่างลงไปนั้นจะทำอย่างไร และที่สำคัญคือมันอยู่ในศูนย์กลางของงานซะด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วพื้นที่ตรงนี้ถือเป็นทำเลทอง ที่หลายๆ แบรนด์พอได้เข้ามาตั้งบูธแล้ว ไม่มีใครอยากจะย้ายหรือถอนตัวออกไปหรอก ถ้างานมันดี คนมาเดินเยอะ แล้วของขายได้

แต่จากงานครั้งล่าสุดที่ผ่านมา แบรนด์มือถืออย่าง OPPO ที่เอาจริงๆ ในงาน Commart แทบจะไม่เคยมาออกหรืออย่างมากก็จัดแค่บูธเล็กๆ สามารถเข้ามาจัดบูธในพื้นที่ตรงนี้ได้ แถมจัดใหญ่อลังการยังกับ Mobile Expo ซึ่งผมเองก็งงว่าเข้าไปจัดได้อย่างไร นั่นแปลว่าค่ายใหญ่ๆ เจ้าของพื้นที่ไม่ได้สนใจจะเช่าพื้นที่ด้านในแล้ว ทำให้พื้นที่ว่างลง จนทำให้ OPPO สามารถเหมาพื้นที่แล้วตั้งบูธสุดอลังการได้ หรือรวมถึงครั้งนี้ที่ AIS จะเช่าด้วยนั้นแปลว่าโซนข้างในไม่มีคนเช่าเหมือนเดิม แต่แผนก็ล้มครืนไปแล้วตามดราม่าที่เกิดขึ้นมาข้างต้น

คงต้องรอดูว่าทางผู้จัดงานจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร แน่นอนว่าคงจะบอกให้บูธที่เช่าพื้นที่ข้างนอก ย้ายมาข้างในนั้นไม่ได้แน่ๆ เพราะคนที่เช่าพื้นที่อยู่ก่อนโวยแน่นอน ไหนจะราคาค่าเช่าที่แตกต่างกันอีกต่างหาก

 

เกิดอะไรขึ้นกับงาน Commart ?

งาน Commart 2-3 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ใครที่ยังไปเดินก็น่าจะได้เห็นภาพวิกฤตของงานค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ บูธต่างๆ เริ่มลดน้อยถอยลง พื้นที่รอบนอกเริ่มมีส่วนทิ้งร้าง คือว่างไม่มีคนมาเช่าเลยเยอะขึ้น สินค้า IT เริ้่มหายไป กลายเป็นสินค้าประหลาดๆ อย่างเครื่องออกกำลัง หรือร้านอาหารขำๆ มาเปิดในพื้นที่โซนซีชั้นลอยได้สบายๆ แถมมีการจัดวางโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งทานได้อีกด้วย สาเหตุมันเกิดจากอะไร ทำไมงานที่เคยมีเงินสะพัดหลายล้านกลายเป็นงานร้างไปได้ในเวลาไม่นาน

1. การหดตัวของตลาด PC ส่วนนึงน่าจะมาจากตลาดของ PC และ Notebook นั้นเริ่มหดตัวลง คนไม่ได้มาวิ่งตามอัพเกรดคอมเหมือนแต่ก่อน ซื้อแล้วใช้งานนานขึ้น แล้วหันมาวิ่งตามตลาดของ Smartphone และ Tablet แทน ภาพของงาน Commart ที่เน้นขายคอมพ์เป็นส่วนใหญ่ก็เลยโดนผลกระทบโดยตรง

2. ค่าพื้นที่ในงานที่แพงมหาโหด จากที่ได้คุยกับผู้ประกอบการบางราย ค่าเช่าที่ของงาน Commart นั้นราคาสูงเอาการ และแทบจะไม่ได้ปรับราคาลงมาในวันที่ตลาดเริ่มหด คือยืนราคาใกล้เคียงของเดิมมาตลอด เพิ่งจะมาปรับลงในครั้งล่าสุดเมื่อปลายปี 2014 แบบครึ่งต่อเครื่อง คือจากที่จ่ายเท่าเดิม แต่ได้พื้นที่เพิ่มเป็น 2 เท่า แต่นั่นก็เหมือนสายเกินไปแล้ว เพราะหลายๆ แบรนด์ถอนตัวไม่เข้าร่วมงานไปเรียบร้อยแล้ว และเมื่องานครั้งก่อนๆ มีบูธมาจัดงานน้อย คนก็มาเดินน้อยลงไปด้วย

3. ค่ายยักษ์ออกไปจัดงานเอง แน่นอนว่าในเมื่อค่าเช่าพื้นที่ในงานมันแพงเกินไป รวมถึงค่าสต๊อกสินค้ามันเริ่มสูงขึ้น การมารอขายของในงาน Commart อา่จจะช้าและไม่ทันการ แถมยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาออกบูธอีก หลายๆ ค่ายก็ได้ตัดสินใจจัดงานลดถล่มราคาหรือ Warehouse Sale ของตัวเองออกมา ไม่ว่าจะเป็น Banana, Advice หรือค่ายอื่นๆ ซึ่งบางรายจัดออกมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ก็เลิกมาเช่าพื้นที่ในงาน Commart ปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าในงานไป

วิกฤตของงาน Commart มันเริ่มสะสมมาทีละนิดๆ ตั้งแต่ตอนที่ตลาด PC เริ่มหดตัวแล้วครับ แต่เหมือนว่าทางผู้จัดงานจะไม่ได้วางแผนหรือเตรียมการรับมือกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ยังคงจัดงานบ่อยๆ ปีละ 2-3 ครั้งเหมือนเดิม เน้นการขายของลดราคา ติดป้ายเซลส์ๆ เหมือนเดิม ภาพลักษณ์ของงานก็คืองานลดแลกแจกแถม และการที่มีแบรนด์ต่างๆ มาร่วมออกบูธน้อยลงทุกๆ ครั้งที่จัดงาน งานมันจะไปรอดได้อย่างไร การจะกู้วิกฤตของงานกลับมา คงไม่ใช่การมาเปลี่ยนชื่องานหรือใส่สโลแกนใหม่เช่น Next Gen บ้างละ มัน Next Gen ยังไงในเมื่อกลุ่มนั้นจับ PC และ Notebook น้อยลงแล้วกว่ามือถือและแท็บเล็ต หรือใช้ชื่อ Summer Sale อย่างงี้ คุณจะเซลอะไรในเมื่อไม่มีคนมาออกบูธ และราคาไม่ได้ถูกกว่างาน Warehouse Sale ที่คนอื่นจัดซะด้วยซ้ำ.. 

 

ที่มา: mxPhone, Commart Thailand (รูปภาพ)