เมื่อต้นปี Samsung ได้ปล่อยซีรีย์ A รุ่นมิดท๊อปราคาหมื่นกลางๆ ออกมาสองรุ่นได้แก่ Galaxy A5 และ Galaxy A7 ผ่านมาอีกครึ่งปีก็ได้ฤกษ์คลอดน้องใหม่อย่างเจ้า Galaxy A8 ซึ่งจัดฟีเจอร์และสเปคมาให้แบบเต็มที่เรียกได้ว่าน้องๆ Galaxy S6 รุ่นเรือธงจากค่ายนี้เลยทีเดียว วันนี้เราเลยลองจับสเปคตระกูล A มาเปรียบเทียบให้เห็นถึงพัฒนาการของรุ่นล่าสุดว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ~
สำหรับใครที่หาข้อมูลเปรียบเทียบ Galaxy A5 และ A7 2016 ก็สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ตามนี้เลยค่ะ 😀
– ข้อมูลสเปคเปรียบเทียบ Galaxy A5 และ A7 (2016)
– เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A5 และ A7 (2016) ซื้อรุ่นไหนดี
– รีวิว Galaxy A5, รีวิว Galaxy A7
ตารางเปรียบเทียบ Samsung Galaxy A5 , A7 , A8
Galaxy A5 | Galaxy A7 | Galaxy A8 | |
ราคา | 12,900 บาท | 14,900 บาท | 15,900 บาท |
OS | Android OS 4.4 (kitkat) | Android OS 4.4 (kitkat) | Android OS 5.1.1 (Lollipop) |
CPU | Qualcomm Snapdragon 410 Quad-core 1.2GHz | Qualcomm Snapdragon 615 Octa-core (1.5 GHz x4, 1.0 GHz x4) | Exynos 5430 Octa-core (Quad 1.8GHz + Quad 1.3 GHz) |
GPU | Adreno 306 | Adreno 405 | Mali-T628 MP6 |
RAM | RAM 2GB + ROM 16 GB + microSD สูงสุด 64GB | RAM 2GB + ROM 16 GB + microSD สูงสุด 64GB | RAM 2GB + ROM 32GB + รองรับ microSD Card สูงสุด 128GB |
หน้าจอ | Super AMOLED HD 5.0 นิ้ว 720 x 1280 พิกเซล (~294 ppi) | Super AMOLED Full HD 5.5 นิ้ว 1080 x 1920 พิกเซล (~401 ppi) | Super AMOLED Full HD 5.7 นิ้ว 1080 x 1920 พิกเซล (~386 ppi) |
SIM | Nano-SIM (ซิมเดียว) | 2 ซิม (Nano-SIM) dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน (แชร์ช่องกับ microSD) | 2 ซิม (Nano-SIM) dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน (แชร์ช่องกับ microSD |
เครือข่ายที่รองรับ | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย |
ความเร็ว3G/4G สูงสุด | HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat4 150/50 Mbps | HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat4 150/50 Mbps | HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat6 300/50 Mbps |
WiFi | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, WiFi Direct, hotspot |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth v4.0, A2DP, EDR, LE // รองรับ NFC // microUSB 2.0 | Bluetooth v4.0, A2DP, EDR, LE // รองรับ NFC // microUSB 2.0 | Bluetooth v4.1, A2DP, EDR, LE // ไม่มี NFC // microUSB v2.0 |
กล้องหลัง | 13 ล้านพิกเซล f/2.0 + Autofocus + LED flash | 13 ล้านพิกเซล f/2.0 + Autofocus + LED flash | 16 ล้านพิกเซล f/1.9 + Autofocus + LED Flash |
กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล f/2.2 | 5 ล้านพิกเซล f/2.2 | 5 ล้านพิกเซล f/1.9 |
เสียง | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. |
Sensors | Accelerometer, Compass, Light, Proximity | Accelerometer, Compass, Light, Proximity | Accelerometer, Compass, Light, Proximity |
GPS | A-GPS + GLONASS | A-GPS + GLONASS | A-GPS + GLONASS |
แบตเตอรี | 2,300 mAh เปลี่ยนแบตไม่ได้ | 2,600 mAh เปลี่ยนแบตไม่ได้ | 3,050 mAh เปลี่ยนแบตไม่ได้ |
ขนาดและน้ำหนัก | 139.3 x 69.7 x 6.7 มม., 123 กรัม | 151 x 76.2 x 6.3 มม., 141 กรัม | 158 x 76.8 x 5.9 มม, 151 กรัม |
พัฒนาการ Galaxy A5, A7, A8
จริงๆ แล้วตระกูล A ของ Samsung รุ่นแรกๆ อย่าง A5 และ A7 สเปคและฟีเจอร์ทั่วๆ ไปก็แทบจะถอดกันมาเป๊ะอยู่แล้ว และพอมาถึงรุ่นล่าสุดอย่าง A8 ทาง Samsung ก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาและใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้แตกต่างออกมา ยังไงลองมาดูพัฒนาการและความแตกต่างของทั้งสามรุ่นกันค่ะ
วัสดุและดีไซน์ อย่างที่รู้กันว่าซีรีย์ A จะเป็นรุ่นที่ใช้โลหะเป็นวัสดุตัวเครื่อง และเห็นได้ชัดว่าพัฒนาการด้านดีไซน์ของแต่ละรุ่นในซีรีย์นี้ยิ่งทำยิ่งขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็บางลงเรื่อยๆ เช่นกัน ซึ่ง Galaxy A8 เป็นรุ่นที่ทาง Samsung เคลมว่าบางที่สุดในตระกูล Galaxy เพียง 5.9 มิลลิเมตร พร้อมขอบจอบางโดยที่ขอบจอนั้นห่างจากกรอบเพียงแค่ 2.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ดีไซน์ตัวเครื่องก็จะเห็นว่าแตกต่างจากรุ่นน้อง โดยออกแนวโค้งมนมากขึ้นไปคล้ายกับ S6 ซะมากกว่า
หน้าจอ สำหรับรุ่นท๊อปมิดของค่ายก็ถือว่าจัดมาให้สมฐานะและราคา โดยรุ่นเล็กสุดอย่าง A5 ก็ได้ความละเอียดแบบ HD แล้ว จนมาถึง A7 และ A8 ก็เพิ่มความละเอียดเป็น Full HD อีกทั้งมีการเพิ่มขนาดหน้าจอใหญ่กว่าเดิมเรื่อยๆ เริ่มจาก A5 5 นิ้ว, A7 5.5 นิ้ว และรุ่นล่าสุด Galaxy A8 มีขนาดจอใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว ซึ่งขนาดพอๆ กับ ตระกูล Note เลยทีเดียว
หน่วยความจำภายใน ทั้ง Galaxy A5 และ A7 ให้หน่วยความจำภายในมา 16GB เท่ากันเป๊ะ และรองรับ microSD Card สูงสุด 64GB แต่มาถึง A8 ก็ได้หน่วยความจำภายในเพิ่มขึ้นมาเป็น 32GB และรองรับ microSD Card สูงสุด 128GB ซึ่งทั้ง A7 และ A8 เป็นรุ่นแรกๆ ของ Samsung ที่ใช้วิธีการแชร์ช่องใส่ซิมในการเพิ่มเมมโมรี่การ์ดที่เรียกกันว่า Hybrid Slot
กล้อง แน่นอนว่ารุ่นใหม่อย่าง A8 ก็ต้องได้อะไรที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ อย่าง A5 และ A7 ทั้งความละเอียดที่เพิ่มเป็น 16 ล้านพิกเซล และรูรับแสงที่กว้างขึ้นจาก F/2.0 เป็น F/1.9 ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น แถมยังมาพร้อม Quick launch camera เข้าโหมดกล้องได้เร็วสุดๆ ด้วยการกดปุ่ม Home 2 ครั้งติดกัน
Battery เป็นอีกจุดหนึ่งที่เห็นพัฒนาการได้อย่างชัดเจนของซีรีย์นี้ ซึ่งแน่นอนว่า A8 ก็ชนะเลิศไปค่ะ เพราะได้ความจุแบตเตอรี่มาถึง 3,050 mAh
Feature สิ่งที่ใส่เพิ่มมาใน A8 แทบจะถอดมาจากรุ่น Flagship อย่าง S6 ทั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, Smart manager และโหมดการใช้งานอื่นๆ ทั่วไป (รูปร่างหน้าตาก็เหมือนกันอีกนะ ._.^) แต่ว่าสิ่งที่ A8 ไม่มีคือ NFC ซึ่งรุ่นก่อนหน้าในตระกูล A ก็มีทั้งคู่
สรุป
Galaxy A5 – วัสดุและดีไซน์ดูดี ฟังก์ชันการใช้งานครบ และราคาไม่แพงมาก
Galaxy A7 – วัสดุ ดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งานครบเหมือน A5 เพิ่มเติมคือหน้าจอความละเอียดแบบ Full HD และแบตที่อึดขึ้น รวมถึงราคาที่สูงขึ้นมาอีกหน่อย (แต่อาจจะหาซื้อยากแล้ว)
Galaxy A8 – วัสดุและดีไซน์ดูลงตัวมากขึ้น เพราะขอบจอและตัวเครื่องที่บางลง ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น ความละเอียด Full HD และยังได้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ละม้ายคล้ายรุ่นเรือธงของค่ายอีกต่างหาก เรียกได้ว่าดูครบเครื่องที่สุดใน 3 ตัวนี้แล้ว อีกทั้งเรื่องราคาก็เพิ่มขึ้นจาก A7 ไม่มากด้วย (ใครที่ซื้อ A7 ไปไม่นานอาจมีร้องไห้)
ถ้าจะให้แนะนำคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนและพอจะมีงบประมาณหมื่นกลางๆ ก็แนะนำว่าให้รอ Galaxy A8 ที่กำลังจะออกมาอาทิตย์หน้านี้แล้ว (เริ่มวางจำหน่ายราวๆ 27 กรกฎาคม) เพราะฟังก์ชันการใช้งานที่ค่อนข้างครบแทบจะคล้ายกับรุ่นเรือธงของ Samsung อย่าง Galaxy S6 และมีขนาดจอที่ใหญ่พอๆ กับตระกูล Galaxy Note รวมถึงราคาก็ต่างจากรุ่นเก่าไม่มากด้วย แต่ยังไงก็แล้วแต่คนชอบค่ะ บางคนอาจจะชอบจอใหญ่ บางคนก็อาจจะชอบจอเล็ก หรือบางคนอาจจะชอบมือถือหนาๆ กว่านี้หน่อย บางมากแล้วถือไม่ถนัด อันนี้ก็ต้องลองไปสัมผัสกันดูเองค่ะว่าชอบรุ่นไหนแบบไหน 😀
A8 โค้ง กว่าเพื่อนเลย
จะโค้งไปไหน เหลี่ยม เป็นทรงที่ งามสุดดูไม่เบื่อ ss ปรึกษาคนใช้มั่งนะ
เคยใช้มือถือจอใหญ่ที่มุมเป็นเหลี่ยม ๆ เวลาถือมือเดียวตรงมุมมันจะโดนอุ้งมือ ทำให้เจ็บครับ อาจจะด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่ทำมุมให้มนขึ้น
จริงครับ เวลาถือมือเดียว เทียบกันระหว่าง A7 กับ 6 plus เป็น iphone ที่ถือแล้วสบายมือกว่า เพราะมุมมันโค้งรับอุ้งมือดีได้ดีกว่า ^^
อยากใหล้ลองมาถือมือเดียว 1+1 (Oneplus One) ของผมซักชัวโมงนึงดูจริงๆครับ
แล้วจะเหลียดทรงเปลี่ยนเลย มันเจ็บจริงๆครับเวลาใช้งานนานๆ ยิ่งตอนเล่นเกมเกร็งๆมือนี่ ไม่อยากจะพูดครับ
NFC เหมือนจะไม่ค่อยได้ใช้ แค่บางทีจะใช้แล้วไม่มี มันเซ็งได้นะ
รอคอย Review กล้อง A8 เลยครับ
ไม่มี NFC แต่มีสแกนลายนิ้วมือมาแทน เข้าใจคิดเนอะ Samsung ประชดเฟ้ย ! ได้อย่าง เสียอย่าง มาแนวทางเดียวกับ Huawei เลย คนไทยใช้ NFC เป็นน่ะคัพ
A7ก็พอหาได้นะครับราคา12900บาทแล้ว
จบครับ อุตส่าห์สนใจ non NFC จบครับบบบบ NFC มีประโยชน์กับ Galaxy Gift มากกกก
แอบ…งง ทำไมไม่มี NFC ทั้งที่ รุ่นเล็ก มี
มีสแกนลายนิ้วมือ ให้แทนไงครับ ถ้ามี NFC ด้วย ราคาจะสูงขึ้นอีก ซึ่งจะกลายเป็นอีกระดับราคา จะขายไม่ออกเอา น่าจะประมาณนั้นครับ
ผมว่า น่าจะเป็นแผน Marketing ของทาง SamsungTH อ่ะครับ เพราะ ถ้า เอาตัว Snap 615 มาขายมันจะไปซ้อนกับตัว A7 แต่ต่างกันที่ขนาดหน้าจอ สแกนลายนิ้วมือ ความละเอียดกล้อง ที่สำคัญอาจทำให้ A7 ขายไม่ได้เลยก็ได้ เคสนี้ SamsungTH เข้าใจคิดเนอะ สำหรับ A8 เน้นแรง ปลอดภัย กล้องชัด แต่ไร้ NFC ผมว่า A5 A7 แนวโน้มที่จะไม่แพสูง น่าจะได้อัพอมยิ้ม หลังจาก A8 เข้าไทย สักเดือน สองเดือน Samsung TH ทำแบบนี้เท่ากับทำให้ S6 S6 Edge ไม่ลดถอยลงไปด้วย
อีกอย่างถ้าอยากได้ NFC ก็ต้องไปซื้อ
Samsung Galaxy J5 7900 บาท
Samsung Galaxy J7 8900 บาท (แต่ทั้ง 2 รุ่น แรม 1.5 GB )
ยอมการตลาดssเค้าคับ ทำให้มีความรู้สึกรักพี่เสียดายน้อง