กลับมาอีกครั้งกับศึกสายเลือดในตระกูล Galaxy ของครอบครัว Samsung โดยรอบนี้ก็เป็นการปะทะกันระหว่าง อาเจ๊ กับ อาอี้ หรือ Galaxy J และ Galaxy E ซึ่ง Galaxy J นั่นก็เพิ่งเปิดตัวมาได้นานนี้เองครับ หลายๆคนก็คงงงๆกับสเปคและความสามารถของทั้ง E และ J ว่ามันต่างกันยังไง เราจึงจับ 2 ซีรี่ยส์นี้ มาชนกันทั้ง 4 รุ่น Galaxy J7, J5, E7 และ E5 ดูสิว่ารุ่นไหนจะน่าสนใจและคุ้มราคามากกว่ากันครับ
ทั้งซีรี่ยส์ J และ E นั้นใช้วัสดุเป็นพลาสติกเหมือนกันทั้งสองซีรี่ยส์ แต่สำหรับซีรี่ยส์ E จะเป็นแบบ unibody ต่างจากของซีรี่ยส์ J ที่สามารถถอดฝาหลังออกมาได้ ส่วนขอบเครื่องของทั้งสองซีรี่ยส์นั้นจะเป็นพลาสติกที่เคลือบสีให้เหมือนกับโลหะทั้งคู่ แต่ความรู้สึกในมือนั้น ทางซีรี่ยส์ E จะให้ความรู้สึกที่เบาและแข็งแรงกว่าครับ
ตารางเปรียบเทียบ Samsung Galaxy J7, J5, E7 และ E5
Samsung Galaxy J7 | Samsung Galaxy J5 | Samsung Galaxy E7 | Samsung Galaxy E5 | |
ราคา | 8,900 บาท | 7,900 บาท | 11,500 บาท | 9,500 บาท |
OS | Android 5.1 (Lollipop) | Android 5.1 (Lollipop) | Android 4.4.4 (KitKat) | Android 4.4.4 (KitKat) |
CPU | Samsung Exynos 7580 Octa-core 1.5 GHz | Qualcomm Snapdragon 410 Quad-core 1.2GHz | Qualcomm Snapdragon 410 Quad-core 1.2GHz | Qualcomm Snapdragon 410 Quad-core 1.2GHz |
GPU | Mali-T720MP2 | Adreno 306 | Adreno 306 | Adreno 306 |
หน่วยความจำ | RAM 1.5 GB + ROM 16 GB + microSD แถมมาในกล่อง 32GB (สูงสุด 128GB) | RAM 1.5 GB + ROM 8 GB + microSD แถมมาในกล่อง 32GB (สูงสุด 128GB) | RAM 2 GB + ROM 16 GB + microSD สูงสุด 64GB | RAM 1.5 GB + ROM 16 GB + microSD สูงสุด 64GB |
หน้าจอ | Super AMOLED HD 5.5 นิ้ว 720 x 1280 พิกเซล (~267 ppi) | Super AMOLED HD 5.0 นิ้ว 720 x 1280 พิกเซล (~294 ppi) | Super AMOLED HD 5.5 นิ้ว 720 x 1280 พิกเซล (~267 ppi) | Super AMOLED HD 5.0 นิ้ว 720 x 1280 พิกเซล (~294 ppi) |
SIM | 2 ซิม Micro-SIM dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน | 2 ซิม Micro-SIM dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน | Nano-SIM (ซิมเดียว) | 2 ซิม Nano-SIM dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน (แชร์ช่องกับ microSD) |
เครือข่ายที่รองรับ | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย | 2G / 3G ทุกเครือข่าย |
Wi-Fi | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth v4.1, A2DP// ไม่รองรับ NFC // microUSB 2.0 | Bluetooth v4.1, A2DP // ไม่รองรับ NFC // microUSB 2.0 | Bluetooth v4.0, A2DP // รองรับ NFC // microUSB 2.0 | Bluetooth v4.0, A2DP // ไม่รองรับ NFC // microUSB 2.0 |
กล้องหลัง | 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 8 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash |
บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | |
กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล + LED Flash | 5 ล้านพิกเซล + LED Flash | 5 ล้านพิกเซล | 5 ล้านพิกเซล |
เสียง | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ |
Sensors | Accelerometer, Proximity | Accelerometer, Hall, Proximity | Accelerometer, Proximity | Accelerometer, Proximity |
GPS | A-GPS + GLONASS | A-GPS + GLONASS | A-GPS + GLONASS | A-GPS + GLONASS |
แบตเตอรี | 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนได้ | 2,600 mAh ถอดเปลี่ยนได้ | 2,950 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้ | 2,400 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้ |
ขนาดและน้ำหนัก | 152.4 x 78.6 x 7.5 มม., 171 กรัม | 142.1 x 71.8 x 7.9 มม., 146 กรัม | 151.3 x 77.2 x 7.3 มม., 141 กรัม | 141.6 x 70.2 x 7.3 มม., 120 กรัม |
จุดเด่น จุดด้อย
จากตารางเปรียบเทียบเราจะเห็นได้ว่ามีอยู่ 2 รุ่นคือ Galaxy E7 และ J7 ที่ดูมีภาษีกว่าชาวบ้าน โดยฟีเจอร์และความสามารถของทั้งอาอี๊และอาเจ้โดยรวมก็ไม่ได้ต่างกันมาก ทำให้ต้องไปงัดเอาสเปคมาชนกันเป็นหลัก ซึ่งเราสามารถสรุป เรียงลำดับความน่าสนใจว่าตัวไหนน่าซื้อมากกว่ากันได้ประมาณนี้ครับ
สรุป:
- Galaxy J7: ดูจะเป็นตัวที่น่าซื้อที่สุดในบรรดา 4 ตัวนี้ ด้วยราคาที่เหมาะสมที่สุด และได้สเปคออกมาโอเค มีการเลือกใช้ CPU แปลกกว่าพี่น้องทั้งหมดที่ใช้ Snapdragon 410 โดยตัว J7 กลับถูกยัด Exynos 7580 มาให้ ซึ่งเป็นตัวใหม่ที่เพิ่งออก ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 14nm (แบบเดียวกับรุ่นแพงๆ) ข้อสังเกตคือยังไม่มีการทดสอบละเอียดๆว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ แต่เรื่องความแรงทางทฤษฎีไม่ด้อยกว่าตัวอื่นแน่นอน นอกจากนี้เจ้า J7 ยังได้เรื่องแบตที่ใหญ่โตกว่าชาวบ้าน ให้มาแบบไม่เกรงใจรุ่นพี่ตัวอื่นๆในค่ายเลย แถมกิมมิกเรื่องแฟลชกล้องหน้า สำหรับคนชอบเซลฟี่และกังวลว่าแสงจะเข้าหน้าไม่เต็ม จุดตินิดหน่อยของ J7 คือจะเขียม RAM ไปทำไมให้มาเต็มๆ 2GB เหมือนกับแบรนด์คู่แข่งอื่นๆไปเลยก็ไม่ได้
- Galaxy E7: เป็นรุ่นที่ราคาแพงและสเปคหรูที่สุดในบรรดาพี่น้อง E, J และให้ความรู้สึกในมือดีกว่ารุ่นอื่นๆ หลักๆที่ทำให้ E7 น่าใช้กว่าพี่น้องมันก็เป็นเรื่องแรมที่ให้มา 2GB ไม่น้อยหน้าคู่แข่งแบรนด์อื่น ส่วน NFC หลายๆคนอาจจะยังไม่ได้ใช้นักจึงไม่ขอคิดว่าเป็นจุดเด่น แต่จุดติหลักๆก็คือเรื่องราคาที่ดันขึ้นไปขายเกินหมื่น และซิมก็ใช้งานได้แค่ซิมเดียวเท่านั้น แพงกว่าตัวอื่นๆแล้วก็ใส่มาให้ครบๆหน่อยก็ไม่ได้
- Galaxy J5: รุ่นนี้ถือว่าคุ้มราคามากที่สุดจากทั้ง 4 รุ่นครับ เพราะได้สเปคที่ใกล้เคียงกับของเจ๊ใหญ่อย่าง J7 เลย โดยมีขนาดหน้าจอที่เล็กลงมา แต่จุดที่ทำให้มันสู้เจ๊เจ็ดไม่ได้ก็เป็นเรื่องหน่วยความจำที่น้อยลงเหลือแค่ 8GB ที่คนใช้งานจริงๆจังๆ ยังไงก็ไม่พอใช้งาน ลงเฟซเล่นไลน์แป๊บเดียวเครื่องก็โวยวายเมมไม่พอแล้วแน่ๆ แต่ก็ยังดีที่รองรับ microSD ได้ถึง 128GB ไม่ต้องห่วงเรื่องเก็บภาพเก็บเพลงเท่าไหร่นัก
- Galaxy E5: ถ้าเทียบกันใน 4 รุ่นนี้ E5 ถือว่าน่าสนใจน้อยที่สุด เลี่ยงได้เลี่ยง ถือว่าไม่คุ้มราคาเอาซะเลย เพราะถึงแม้ว่าจะมีดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับ E7 แต่สเปคอื่นๆกลับเป็นรองซีรี่ยส์ J แถมไม่รองรับ 4G ซะอย่างงั้น แถมราคาก็แพงกว่าอีก มีโอกาสที่ซัมซุงจะหยุดขายและดันแค่ตัว J เท่านั้นสูงมาก จากเหตุผลทั้งหมดนี้บายครับ
**คำเตือน** สำหรับคนที่เล็งจะซื้อ Galaxy J5 และ J7 โปรดตรวจสอบของแถมให้ดี เพราะตามโปรโมชั่นทั้งสองรุ่นจะต้องได้เมม 32GB แถมมาให้ใช้งานด้วยนะ มีเพื่อนๆแจ้งมาว่าโดนร้านโกงไม่ยอมแถมให้กันหลายรายละครับ
มีอัพเดทรุ่นที่น่าสนใจในช่วงราคานี้นะครับ ไปดูที่ แนะนำแอนดรอยด์รุ่นน่าสนใจ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2016
นอกจากศึกสายเลือดที่ห่ำหั่นกันเองแล้ว เรายังนำ Galaxy J7 มาปะทะกับสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆที่มีราคาและสเปคที่ใกล้เคียงกัน แถมยังเป็นสมาร์ทโฟนตัวใหม่ที่เพิ่งจะวางขายเช่นเดียวกันอีกด้วย โดยผู้ท้าชิงก็จะมีในคราวนี้ก็จะมี Asus ZenFone 2(RAM 2GB), Huawei P8 Lite และ Sony Xperia M4 Aqua ครับ
ตารางเปรียบเทียบ Samsung Galaxy J7, Asus ZenFone 2, Huawei P8 Lite และ Sony Xperia M4 Aqua
Samsung Galaxy J7 | ASUS Zenfone 2 |
Huawei P8 Lite | Sony Xperia M4 Aqua | |
ราคา | 8,900 บาท | 7,990 บาท | 7,990 บาท | 9,990 บาท |
OS | Android 5.1 (Lollipop) | Android 5.0 (Lollipop) | Android 5.0.2 (Lollipop) | Android 5.0 (Lollipop) |
CPU | Exynos 7580 Octa-core 1.5 GHz | Intel Atom Z3560 Quad Core 1.8GHz 64-bit | HiSilicon Kirin 620 Octa-core 1.2GHz | Qualcomm Snapdragon 615 Octa-core (1.5 GHz x4, 1.0 GHz x4) |
GPU | Mali-T720MP2 | PowerVR Rogue G6430 | Mali-450MP4 | Adreno 405 |
หน่วยความจำ | RAM 1.5 GB + ROM 16 GB + microSD สูงสุด 128GB | RAM 2 GB + ROM 32GB + microSD สูงสุด 64GB | RAM 2 GB + ROM 16 GB + microSD สูงสุด 128GB | RAM 2 GB + ROM 8 GB + microSD สูงสุด 128GB |
หน้าจอ | Super AMOLED HD 5.5 นิ้ว 720 x 1280 พิกเซล (~267 ppi) | IPS LCD Full HD 5.5 นิ้ว 1080 x 1920 พิกเซล (~403 ppi) | IPS LCD HD 5.0 นิ้ว 720 x 1280 พิกเซล (~294 ppi) | IPS LCD HD 5.0 นิ้ว 720 x 1280 พิกเซล (~294 ppi) |
SIM | 2 ซิม Micro-SIM dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน | 2 ซิม Micro-SIM dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน | 2 ซิม Micro-SIM/Nano-SIM (microSD แชร์ช่องกับ Nano-SIM) | Nano-SIM (ซิมเดียว) |
เครือข่ายที่รองรับ | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย | 2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย |
Wi-Fi | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, Wi-Fi Hotspot | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot, DLNA |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth v4.1, A2DP // ไม่รองรับ NFC // microUSB 2.0 | Bluetooth v4.0, A2DP, EDR // รองรับ NFC // microUSB 2.0 // USB Host | Bluetooth v4.0, A2DP // รองรับ NFC // microUSB 2.0 | Bluetooth v4.1, A2DP // รองรับ NFC // microUSB 2.0 |
กล้องหลัง | 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + dual-LED flash | 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash |
บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | |
กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล + LED Flash | 5 ล้านพิกเซล | 5 ล้านพิกเซล | 5 ล้านพิกเซล |
เสียง | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ |
Sensors | Accelerometer, Proximity | Accelerometer, Ambient Light, Gyro, Proximity, Compass | Accelerometer, Ambient Light, Proximity, Compass | Accelerometer, Proximity, Compass |
GPS | A-GPS + GLONASS | A-GPS + GLONASS | A-GPS + GLONASS | A-GPS + GLONASS |
แบตเตอรี | 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนได้ | 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้ | 2,200 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้ | 2,400 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้ |
ขนาดและน้ำหนัก | 152.4 x 78.6 x 7.5 มม., 171 กรัม | 152.5 x 77.2 x 10.9 มม., 170 กรัม | 143 x 70.6 x 7.7 มม., 131 กรัม | 145.5 x 72.6 x 7.3 มม., 136 กรัม |
จุดเด่น จุดด้อย
จากตารางการเปรียบเทียบของสเปคทั้ง 5 รุ่น ก็จะเห็นว่า แต่ละรุ่นนั้นมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป บางรุ่นก็ใกล้เคียงกันสุดๆ อย่าง Galaxy J7 นั้นจะได้เปรียบในเรื่องของแฟลชกล้องหน้าและการถอดเปลี่ยนแบตได้ แต่ ZenFone 2 มีหน้าจอความละเอียด FullHD 1080p ในทางด้าน P8 Lite นั้นจะมีน้ำหนักที่เบาที่สุดจากทั้งหมด ตบท้ายด้วย Xperia M4 Aqua รุ่นนี้จะได้เปรียบตามชื่อเลยครับ นั้นก็คือความสามารถในการกันน้ำได้นั่นเอง
สรุป:
- Asus ZenFone 2: ยังคงเป็นรุ่นที่น่าแนะนำที่สุดในช่วงราคานี้ ด้วยสเปคที่จัดมาแบบขึ้นไปตบกับรุ่นท็อปของหลายๆค่ายได้สบายๆ และรุ่นที่เรานำมาเทียบก็เป็นรุ่น RAM 2GB เท่านั้นเพื่อไม่ให้ราคาไม่สูงและสเปคไม่ดูเยอะกว่าคู่แข่งเกินไปนัก 😛 (กดไปดูเปรียบเทียบสเปคของ Zenfone 2 ทุกรุ่น) ถ้าเงินถึงจริงก็แนะนำให้อัพขึ้นไป 2 พันไปเอาตัวแรม 4GB กับ CPU ที่แรงกว่าไปเลย แต่การใช้งานโดยรวมของทั้งสองรุ่นไม่พบปัญหาใหญ่ๆอะไร หรือมีก็แก้ไปบ้างแล้ว (ลองกลับไปดูข่าวเก่าและปัญหาที่พบของ Zenfone 2 กันได้) ดังนั้นหากคุณคิดว่าดวงดี ไม่น่าจะต้องเข้าใช้บริการศูนย์แล้วล่ะก็ Zenfone 2 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในช่วงนี้จริงๆครับ
- Samsung Galaxy J7: จากที่เป็นตัวที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มพี่น้องตัวเอง แต่เมื่อมาเทียบกับแบรนด์อื่นๆแล้ว เจ้า J7 ก็จะดูด้อยลงไปถนัดตา โดยเฉพาะเรื่อง RAM ที่ไม่รู้ว่า Samsung จะเขียมไปทำไม จะมีจุดเด่นกว่าชาวบ้านเค้าหน่อยก็เรื่องแฟลชกล้องหน้าที่ต่อไปอาจจะได้เห็นแบรนด์อื่นๆทำตามกันมากขึ้น แต่ด้วยสเปคที่อาจจะไม่ได้หรูหราเหนือใคร กับแบตที่ให้มาเต็มเม็ดเต็มหน่วย 3,000 mAh ก็ทำให้ J7 ยังน่าคบหาอยู่นะ ถ้ามองเรื่องแบรนด์ที่ไว้ใจ และหาศูนย์บริการได้ไม่ยาก
- Huawei P8 Lite: รุ่นนี้เป็นรุ่นที่น่าสนใจที่สุดอักตัวนึงในช่วงราคานี้ ด้วยราคาที่ประหยัด สเปคตบตีกับ Asus Zenfone 2 ได้ไม่ยาก ตัวเครื่องมีความเบาและดีไซน์ที่หรูหรา ไม่ต่างไปจากรุ่นพี่อย่าง P8 แต่กลับไปตกม้าตายในเรื่องของแบตที่ให้มาจิ๋วๆ แค่ 2,200 mAh เท่านั้น ส่วนเรื่อง CPU ถ้าอ่านแล้วงงๆว่าเป็นยี่ห้ออะไร ก็ต้องบอกว่า Kirin เป็น CPU ของทาง Huawei คิดค้นพัฒนาขึ้นมาเอง ประสิทธิภาพทางทฤษฎีก็ดูแรงอยู่ แต่หลายๆคนใช้มายังไม่ประทับใจเท่าไหร่นัก เจออาการหน่วงๆหนืดๆเป็นบางคราว ก็หวังว่าจะไม่มีปัญหาเดิมในรุ่นที่นำเอามาใช้กับ P8 Lite นี้
- Sony Xperia M4 Aqua: รุ่นนี้มีราคาสูงกว่าเพื่อน ด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เพราะสามารถนำเอาไปเล่นในน้ำได้ ได้รับมาตรฐาน IP65/68 ที่สามารถป้องกันได้ทั้งฝุ่นและน้ำ พร้อมปุ่มชัตเตอร์ที่เอาไว้ใช้ถ่ายรูปโดยเฉพาะ ป้องกันปัญหากดหน้าจอในน้ำไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่ให้หน่วยความจำภายในมาน้อยไปหน่อยแค่ 8GB เท่านั้น ซึ่งแม้ว่าจะเพิ่มเมมด้วย microSD ได้แต่ก็จะติดข้อจำกัดเรื่องลงแอปอยู่ดี และคนที่อยากได้ 2 ซิมไปเล่นแยกสองเบอร์ก็ยิ่งต้องโบกมือลา M4 Aqua เพราะรองรับได้เพียงแค่ 1 ซิมเท่านั้น แต่รุ่นอื่นๆในช่วงราคานี้สามารถใช้งานได้ 2 ซิมทั้งหมดเลย
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับการเปรียบเทียบสเปคของเหล่าสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่าหมื่นๆ หวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ แต่มีงบอยู่ราวๆนี้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ
P8 lite ไม่มี nfc และมีแฟลชดวงเดียวนะคับ
เอ.. P8 Lite มีทั้ง NFC และ Dual flash นิครับ
zenfone2 แบตเยอะขนาดไหน ก็เป็นเพียงตัวเลข เพื่อนผมใช้ก็บ่นแบตหมดไวเหมือนเดิม พอๆ กับ Zen5
ตลาด 8000-9999 ก็ดุเดือดดีนะครับเนี่ย
รบกวนเช็คทีครับว่าแต่ละรุ่นที่เอามาเทียบกันเนี่ย รุ่นไหนมีเซ็นเซอร์อะไรบ้างที่ใช้งานได้จริงบ้าง
ผมซื้อ E7 มาให้พ่อใช้ เนื่องจากเห็นว่าจอใหญ่ สเปคครบครัน
ด้านหน้าเห็นมีรูเซ็นเซอร์ 2 รู กล้องหน้าอีก 1 รู เข้าใจว่าน่าจะมีมาครบๆ (เทียบกับ Note II อีกเครื่องจำนวนรูเท่ากันมีครบทุกอย่าง) พอเอากลับมาถึงบ้านเพิ่งรู้ว่าไม่มี Light Sensor เอาไว้ปรับแสงหน้าจออัตโนมัติครับ เครื่องราคาเป็นหมื่นไม่มีปรับแสงเองนี่ "แย่มาก"
Tablet Lenovo A3000 ราคา 6990 ซื้อเมื่อ 2 ปีที่แล้วยังมีเลย
หรือแม้แต่เครื่อง DTAC Cheetah Turbo 4.5 ซื้อจากดีแทคราคาแค่ 3พันกว่าบาทเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วก็มีให้
เครื่องเก่าพ่อใช้ hTC EVO 3D อายุ 4 ปีแล้วมีครบทุกอย่าง (แน่ละมันเป็นตัว top ในตอนนั้น) พ่อบอกเลยทำไมเครื่องนี้ใหม่กว่าแต่ต้องมากดปรับแสงหน้าจอเอง ผมยังรำคาญแทนเลยครับ เหอะๆ
เพิ่มเติมในส่วนของ sensor เข้าไปให้แล้วนะครับ
ของ Samsung จะไม่มี light sensor เลยครับ
เพิ่งจะสอย J5 ให้แม่ใช้
Samsung เอาเข็มทิศออก จะมีผลกับการใช้ Map หรือเปล่าครับเสียดายตรงนี้ กับเรื่อง Ram ที่ดันงกเกินไปอีก ไม่งั้นก็น่าสนใจมาก ๆ
ส่วน ZenFone2 ไม่ต้องไปหาของเลย หมดเกือบทุกที่ ไม่รู้จะมาอีกเมื่อไหร่อีกต่างหาก
โทรไปที่ shop online ก็ดันแนะว่า ให้ไปซื้อตามตัวแทนจำหน่ายมากกว่าสั่งทางช้อปเพราะกลัวว่าของหายระหว่างส่ง…ได้ยินแล้วก็งงไปเหมือนกัน
ตกลง dual standby หรือ dual active กันแน่คนับ
dual standby คือ รอรับสายได้พร้อมกัน แต่ถ้ามีสายเข้า อีกซิมโดนตัดทันที (ไม่ว่าจะเน็ทจะเสียง)
dual active คือ ใช้สายได้พร้อมกันสองซิม ทั้งเน็ททั้งเสียง ไม่โดนตัด ซึ่ง asus zen2 เป็น dual active แน่ๆ ที่เหลือผมว่า dual standby นะ
สอบถามหน่อยครับ samsung J7 แรม 1.5 GB กับ อีกสามรุ่น Asus / huawei / sony แรม 2GB เวลาใช้งานจะเห็นความแตกต่างชัดมั๊ยครับ แล้วมีผลกับการใช้งานประมาณไหนบ้างครับ