หลังจากที่ Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ทแบนด์สายสุขภาพอย่าง Xiaomi Smart Band 9 ไปเมื่อเดือนก.ค. 2024 ที่ผ่านมา เชื่อว่าคนที่ใช้ Xiaomi Smart Band 7 และ 8 คิดขึ้นมาในหัวว่า แล้วต่างจากรุ่นเดิมมากแค่ไหน ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนมาใช้รุ่นใหม่แล้วหรือยัง เพราะราคาที่เปิดตัวไม่ได้ทิ้งห่างกันมากนัก วันนี้เราเลยจับทั้ง 3 รุ่น มาเทียบสเปคกันให้เห็นชัด ๆ
เทียบสเปค Xiaomi Smart Band 7, 8, 9
ชื่อรุ่น | Xiaomi Smart Band 9 | Xiaomi Smart Band 8 | Xiaomi Smart Band 7 |
ราคาเปิดตัว | ราคาไทย 1,490 บาท | ราคาไทย 1,490 บาท | ราคาไทย 1,390 บาท |
จอแสดงผล | |||
ประเภทจอ | AMOLED | AMOLED | AMOLED |
ขนาดจอ | 1.62 | 1.62 | 1.62 |
ความละเอียด (พิกเซล) | 192 x 490 | 192 x 490 | 192 x 490 |
รีเฟรชเรท | 60Hz | 60Hz | ไม่ระบุ |
ความสว่างสูงสุด | 1,200 nits | 600 nits | 500 nits |
วัสดุเคส | กระจกเสริม 2.5D | กระจกเสริม 2.5D | กระจกนิรภัยเคลือบสารป้องกันลายนิ้วมือ |
ฟีเจอร์รูปแบบหน้าปัด | 200 | 200 | 100+ |
การวัดสุขภาพ | |||
การติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ | มี | มี | มี |
การติดตาม SpO₂ | มี | มี | มี |
การติดตามการนอน | มี | มี | มี |
การติดตามคุณภาพการหายใจขณะนอนหลับ | มี | มี | มี |
การติดตามสุขภาพสำหรับผู้หญิง | มี | มี | มี |
การติดตามความเครียด | มี | มี | มี |
การฝึกหายใจ | มี | มี | มี |
ฟีเจอร์ | |||
โหมดออกกำลังกาย | 150 | 150 | 110+ |
มาตรฐานกันน้ำ | 5ATM | 5ATM | 5ATM |
ระบบปฏิบัติการ | Android 8.0 ขึ้นไป, iOS 12 ขึ้นไป | Android 6.0 ขึ้นไป, iOS 12 ขึ้นไป | Android 6.0 ขึ้นไป, iOS 10 ขึ้นไป |
Bluetooth | 5.4 | 5.1 BLE | 5.2 BLE |
สเปคอื่น ๆ | |||
ความจุแบตเตอรี่ | 233mAh | 190mAh | 180mAh |
ใช้งานทั่วไป | 21 วัน | 16 วัน | 14 วัน |
ใช้งานหนัก/ AOD | 9 วัน (AOD) | 6 วัน (AOD) | 9 วัน |
ขนาด (มม.) | เริ่มต้น 46.53 x 21.63 x 10.95 | 48 x22.5 x 10.99 | 46.5 x 20.7 x 12.25 |
น้ำหนัก (กรัม) | 15.8-22.4 (แล้วแต่รุ่นย่อย) | 27 | 13.5 |
หน้าจอเหมือนกัน แต่มีฟีเจอร์ต่างกัน
Xiaomi Smart Band 7 – 9 ได้ให้หน้าจอมาเป็นจอสัมผัส AMOLED 1.62 นิ้ว ขนาดเท่ากันทั้งหมด ส่วนรีเฟรชเรททั้งรุ่น 8 และ 9 จะเท่ากันอยู่ที่ 60Hz ตลอดจนมาพร้อมรูปทรงแคปซูลแบบเดียวกันด้วย แต่ก็ยังมีฟีเจอร์หน้าจอที่แตกต่างกันอยู่เหมือนกัน ทั้งความสว่างสูงสุดที่รุ่น Band 9 (สว่างสูงสุด 1,200 นิต) อัปเกรดแบบทิ้งห่างจาก Band 8 (สว่างสูงสุด 600 นิต) มา 2 เท่า, วัสดุกระจกหน้าจอที่ใช้และฟีเจอร์รูปแบบหน้าปัดที่รุ่น 8และ 9 เพิ่มจากรุ่น 7 มากขึ้นเป็น 200 รูปแบบ
ดีไซน์วงรี แต่มีการใช้งานหลากหลายต่างกัน
ทั้งสามรุ่นมีดีไซน์ที่เหมือนกันเลยคือ รูปทรงวงรีเป็นรูปแบบพื้นฐาน โดยจากรุ่น 7 จะสวมใส่ได้เป็นสมาร์ทแบนด์บนข้อมือธรรมดา แต่ว่ารุ่น Band 8 ได้มีการเพิ่มลูกเล่นด้านการสวมใส่เข้ามา สามารถจะใส่เป็นเครื่องประดับ รูปแบบสร้อยห้อยคอ หรือจะเอาไปติดกับรองเท้าผ้าใบ (ต้องมีอุปกรณ์เสริม) เอาไว้ติดตามการก้าววิ่งอย่างแม่นยำก็ได้ ส่วนรุ่น Band 9 มาในดีไซน์เดียวกัน แต่ว่าจะมีวัสดุตัวเรือนให้เลือกเพิ่มเติมเป็นวัสดุเซรามิก
ตัวเลือกสีที่มากขึ้น
สำหรับ Band 7 จะมีสีดำเพียงสีเดียว ถ้าอยากเปลี่ยนสไตล์ก็คือเปลี่ยนได้แค่สายนาฬิกา แต่เมื่อเป็นรุ่น Band 8 จะมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีทอง (Gold) ส่วนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Band 9 มีสีให้เลือกเยอะมากขึ้นเป็น 4 สี ได้แก่ สี Rose Gold, Black, blue และ Dark Blue
แบตเตอรี่ ยิ่งรุ่นใหม่ ยิ่งให้เยอะขึ้น
ทั้ง 3 รุ่น แบตเตอรี่ให้ความจุมาต่างกันหมดเลย ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นที่ใหม่กว่าแบตเตอรี่ก็ถูกอัปเกรดมาให้ใช้เยอะสุดเป็น 233mAh ส่วนตัวมองว่าใครที่ใช้ Band 7 แบตเตอรี่ 180mAh อยู่แล้วอยากอัปเกรดการใช้งานด้านแบตเตอรี่อาจจะโดดมาใช้ Band 9 เลยจะดีกว่า เพราะว่าได้ความจุเพิ่มขึ้นเยอะมาก ๆ แต่ถ้ามองว่าไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้มากจะถอย Band 8 มาใช้ก่อน Band 9 วางขายไทยก็ไม่ว่ากัน
ฟีเจอร์สุขภาพครบครัน จัดเต็มทั้ง 3 รุ่น
สำหรับฟีเจอร์ด้านสุขภาพ ทั้ง 3 รุ่น ได้ใส่มาให้แบบครบ ๆ อยู่แล้ว ทั้ง การติดตามออกซิเจนในเลือดแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง, การติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ, การติดตามคุณภาพการนอนหลับโดยละเอียด, การติดตามความเครียด, การฝึกหายใจ, การจัดการสุขภาพสำหรับสาว ๆ เป็นต้น
แต่ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ การติดตามคุณภาพการนอนหลับของรุ่น 9 จะมีการวัดค่าที่ละเอียดมากกว่าเดิม และเพิ่มการประเมินรูปแบบการนอนมาให้ ซึ่งจะคอยประเมินว่ารูปแบบการนอนของเราเหมือนสัตว์ชนิดไหน หากไม่โอเคก็จะให้คำแนะนำการนอนที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด
โหมดออกกำลังกายจัดเต็มสุด
Xiaomi Smart Band 7 เริ่มต้นให้โหมดออกกำลังกายมาให้ 110+ โหมดก็ว่าเยอะอยู่แล้ว แต่เมื่อ Xiaomi Smart Band 8 และ 9 เปิดตัวมาก็ได้มีการเพิ่มโหมดให้มีเยอะมากถึง 150 โหมด เก็บครบทุกการกีฬามากขึ้นกว่าเดิม
ใน Band 8 ได้มีโหมด Pebble ที่ใช้ตอนแปะตัวเครื่องไปกับเชือกของรองเท้าผ้าใบ โหมดนี้จะนำเสนอข้อมูลสถิติการวิ่งระดับมืออาชีพ 13 รายการ ตลอดจนให้ข้อมูลด้านการวิ่งที่ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ตรวจสอบความถี่ในการก้าว ระยะก้าว และแรงกระแทกแบบเรียลไทม์, มีหลักสูตรที่เข้มข้น 10 หลักสูตร เป็นต้น
Xiaomi Smart Band 8 และ 9 เล่นเกมบนหน้าปัดได้
อีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจของการใช้สมาร์ทแบนด์รุ่นนี้คือ เค้ามีเกมแก้เบื่อให้เล่นบนหน้าปัดด้วย จะมีให้เล่นในรุ่น Xiaomi Smart Band 8 และ 9 ซึ่งก็น่าสนุกดีที่นาฬิกาสามารถทำได้มากกว่าแค่การตรวจจับด้านสุขภาพ แต่ข้อจำกัดของฟีเจอร์นี้คือ ถ้าใครที่นิ้วใหญ่ ๆ อาจจะกดเล่นลำบากนิดนึง
ราคาจำหน่าย
ปัจจุบัน Xiaomi Smart Band รุ่นที่จำหน่ายในไทยแล้วก็จะมี Xiaomi Smart Band 7 และ 8 วางขายในราคา ดังนี้
- Xiaomi Smart Band 7 ราคา 1,390 บาท
- Xiaomi Smart Band 8 ราคา 1,490 บาท
ส่วน Xiaomi Smart Band 9 เพิ่งจะเปิดตัวในจีนไป ยังไงทางฝั่งไทยก็ต้องรอกันอีกที ซึ่งตอนที่เปิดตัวในจีนวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,200 บาท
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ลองพิจารณาดูว่าสมาร์ทแบนด์รุ่นที่เราใช้มาสมควรแก่การเปลี่ยนแล้วหรือยัง เพราะว่าราคาก็ไม่ได้โดดสูงไปจากเดิมมากเท่าไหร่ ส่วนใครที่ใช้รุ่น 8 อยู่แล้วกำลังมองดูรุ่นใหม่ต้องรอลุ้นว่าเข้าไทยแล้วจะแพงกว่าเดิมมากแค่ไหน
Comment