เกิดขึ้นได้อย่างไร? ใครผิด?
ตามคำให้การของบุคคลต้นเหตุ นั่นคือเด็กอายุ 12 ขวบ บอกว่าได้เข้าไปดูคลิปใน YouTube สอนวิธีการซื้อเพชรและของในคุ้กกี้รันฟรี แล้วหลงเชื่อเล่นเพลิน (ข่าวเค้าว่างี้นะ) จนค่าบริการออกมาเป็นเงินหลักแสนบาท ซึ่งครอบครัวของเด็กคนนี้ดันเป็นชาวนาที่ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร ไม่สามารถชำระเงินก้อนนี้ได้ จึงต้องโร่ออกมาร้องสื่อขอความเป็นธรรม1…ส่วนใครผิด มาวิเคราะห์ตามที่ “ชาวเน็ต” หลายๆคนได้ให้ความเห็นเอาไว้ดังนี้2
AIS – ผู้ให้บริการมือถือ
โดนเพิ่งเล็งเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องด้วยมีระบบกำหนดวงเงินรายเดือนอยู่ แต่ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งหลายๆคนก็ตั้งข้อสังเกตว่าในกรณีของตนใช้ยังไม่เกินด้วยซ้ำก็ตัดอินเทอร์เนตแล้ว ทีแบบนี้ทำไมไม่ยอมตัด และปล่อยให้ใช้เกินวงเงินซื้อไอเทมในเกมคุ้กกี้รันไปถึงหลักแสนได้
เด็ก และผู้ปกครอง
หลายๆคนมองไปถึงสาเหตุหลักของปัญหาว่าถ้าเด็กไม่กด หรือผู้ปกครองไม่ปล่อยปละละเลยให้เด็กเล่นเกมอยู่ลำพังจนสามารถกดซื้อของเป็นจำนวนมากได้ ก็คงไม่เกิดปัญหานี้ขึ้น มีการมองว่าควรจะให้เก็บเงินตามจริงไปเลยเพื่อเป็นตัวอย่างแก่สังคมสร้างบรรทัดฐานว่าทำอะไรแล้วต้องรับผิดชอบ
LINE – ผู้ให้บริการ CookieRun
โดนหางเลขไปกับเค้าด้วย เนื่องจากเกมคุ้กกี้รันมีการตั้งมูลค่าของสิ่งของสูงเกินไปจนอาจทำให้คนเล่นสิ้นเนื้อประดาตัวได้ เมื่อกดเพลินๆอย่างในเคสนี้
Android, Google Play Store
ผิดที่ Android มันไม่ได้เรื่อง และ Play Store ที่ทำระบบมาห่วยสู้ iTunes ไม่ได้ (สาวกที่ไม่เคยรู้เรื่องแอนดรอยด์ได้กล่าวไว้)
มาวิเคราะห์กันดีกว่าว่าตามสาเหตุข้างต้นนี้ มีเรื่องที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง
AIS งานนี้ดูยังไงก็ผิดเต็มๆ เนื่องจากระบบจำกัดค่าบริการไม่ทำงานครอบคลุมถึงบริการซื้อขายของ Play Store ที่เพิ่งเปิดบริการใหม่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา3
แม้ว่าจะมีคนมาแก้ต่างว่าปกติระบบจำกัดค่าบริการนี้จะไม่ครอบคลุมถึงค่าบริการเสริม แต่ว่าทาง AIS ก็ไม่เคยออกมาให้ข้อมูลส่วนนี้ จนทำให้ผู้ใช้เข้าใจและวางใจว่ายังไงก็ไม่มีทางเกินวงเงิน
สุดท้ายแล้ว AIS ยินยอมที่จะยกเว้นค่าบริการให้ทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ก็เหมือนกับว่า AIS ยอมรับในความผิดพลาดส่วนนี้ในระดับนึงเช่นกัน โดยรวมผมมองว่าแม้ AIS จะทำผิด แต่ว่าแก้ไขสถานการณ์ได้ดีมากถึงมากที่สุด ขอชื่นชม4
เด็กและผู้ปกครองมีส่วนผิดมากจากปัญหาในครั้งนี้ ไม่กด ปัญหาก็ไม่เกิด
แต่ผิดยังไงก็ไม่ผิดเท่า AIS อยู่ดี ตามเหตุผลข้างต้น
การบอกว่ามีฐานะยากจน ไม่ควรถูกนำมาใช้ประกอบการพิจารณาว่าควรลงโทษหรือไม่ ผิดถูกควรว่าไปตามจริง
เชือดไก่ให้ลิงดู บังคับให้ผู้ประสบปัญหาจ่ายค่าบริการตามจริงทั้งหมด เป็นความคิดที่น่าทำถ้าเกิดว่าระบบของ AIS ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
แม้ว่าเด็กและผู้ปกครองจะผิดในหลายๆเรื่อง แต่การที่ความผิดหลักไม่ได้เกิดจากพวกเค้าเอง การลงโทษโดยไม่ปรานีปราศรัยก็ดูจะไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่นัก
LINE แม้ว่าจะมีการตั้งค่าใช้จ่ายเอาไว้สูง แต่เค้าก็ไม่ได้บังคับให้คุณเล่น หรือกดซื้อไอเทมของ CookieRun แต่อย่างใด
การโยนความผิดให้ LINE เป็นอะไรที่น่าอึ้งมาก…
และสุดท้ายสาวกท่านนั้นคงไม่รู้จักคำว่า Operator Billing และประโยชน์ของมันกระมัง
ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าการที่ระบบของ AIS ไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในวงเงินที่กำหนดได้นั้น เกิดจาก Play Store มีปัญหาแบบเดียวค่า Roaming ที่มีการเรียกเก็บตามมาภายหลังจนไม่สามารถรวมอยู่ในวงเงินค่าบริการได้รึเปล่า
เข้าใจว่า AIS และ Google ได้มีการคุยกันเรื่องนี้ พร้อมกับหาทางแก้ไขปัญหาเรียบร้อย ล่าสุดเปิดให้ทำการชำระเงินผ่าน Operator Billing ได้อีกครั้ง โดยจะต้องทำการยืนยันตัวตนก่อน
จนถึงตอนนี้มีคนมาร้องเรียนปัญหาเงินค่าบริการกระฉูกจาก CookieRun แล้วรวม
- 21 มิถุนายน 32,601.22 บาท
- 23 มิถุนายน 160,000 บาท (ไม่ระบุจำนวนโดยละเอียด)
- 23 มิถุนายน 203,150.71 บาท
- 23 มิถุนายน 595,874.05 บาท
…อยากรู้จริงๆว่าใครเป็นคนรับผิดชอบเงินจำนวนนี้…
Operator Billing หรือการตัดเงินผ่านเครือข่าย เป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ Smartphone เป็นอย่างมาก ทำให้คนที่ไม่มีบัตรเครดิต สามารถเข้าซื้อแอพหรือบริการต่างๆได้อย่างถูกต้อง เพราะในปัจจุบันจำนวนผู้ถือบัตรเครดิตในเมืองไทยยังถือว่าน้อยมาก
ทำไมมีปัญหาเกิดกับ AIS เจ้าเดียว? DTAC & TRUE ไม่มีปัญหานี้?
เพราะทั้งสองเจ้ายังไม่รองรับการชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านการตัดเงินจากเครือข่ายนั่นเอง ไม่ใช่ว่าระบบปลอดภัยกว่าแต่อย่างใด
ใช้บัตรเครดิตรอดมั้ย?
ไม่รอด ปัญหาแบบนี้เป็นปัญหาสุดคลาสิกที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วมากมาย โดยมักจะเป็นการที่คุณลูกมากดเครื่องคุณพ่อคุณแม่เล่น ซื้อของในเกมไปเพียบ กว่าจะรู้ตัวก็แทบจะติดเพดานวงเงินบัตรเครดิตกันไปเลย ซึ่งมักจะไม่ได้รับการคืนเงินอีกด้วย
จะป้องกันได้อย่างไร
เข้าไปดูวิธีตั้งพาสเวิร์ดป้องกันเด็กๆมากดซื้อแอพ ซื้อเกม หรือซื้อของในเกมได้ที่ [Tips] วิธีตั้งรหัสผ่านป้องกันเด็กซื้อแอพ ซื้อเกมบน Google Play
sources:
1AISกลับลำ ไม่เก็บ2แสน ค่าเพชรคุกกี้รันแล้ว
3ซื้อแอพบน Play Store วันนี้ ตัดเงินผ่าน AIS ได้แล้ว!!
4เพชรฟรีจาก AIS!! ลูกค้าคุ้กกี้รันสองแสนอาจรอดตัวไม่ต้องจ่ายแล้ว
เพราะระบบมันยังใหม่ ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์จริงกันอีกเยอะ ทั้งสองฝ่าย
100% คนที่ซื้อมือถือมาทุกคน ไม่มีใครตั้งรหัสใน google play หรอกครับ ขนาดสมัคร gmail ยังไม่สมัครเลย ต้องใช้ไอดีร้านกัน ผมว่าเรื่องนี้ควรจะเป็นความรู้พื้นฐานของคนที่จะใช้สมาร์ทโฟนด้วย
ผมอาจเป็นคนที่ 101% นะครับ ผมตั้งรหัสผ่านป้องกันเสมอครับ เพราะผมไม่เคยไว้ใจเรืื่องธุรกรรมการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตเลย
งั้นผมเป็นคนที่ 102% ละกันครับ อิอิ
ผมคนที่103 ที่ตั้ง
คิดแทนคนอื่นมากไปนะครับ
ตัวเองทำ = 100%
ตรรกกะแบบนี้ใช้ไม่ได้นะครับ เพราะผมตั้งรหัสนะ ไม่งั้นใครเอามือถือผมไปซื้อเพลินเลยดิ
100% เลยหรือครับ…แล้วผมจะเป็นพวกไหนดี เพราะผมตั้งรหัสเอาไว้ซะด้วยสิ
คนที่พูดเรื่องนี้ ก็ไม่ได้ตั้งใช่มั้ยครับ
ไม่งั้นคงเป็น 100% ไมไ่ด้
ผมคนนึงที่จะพยายามไม่ให้ร้านยุ่งอะไรกับมือถือเลย
บางคนรักสบายไม่ยอมทำไรสักอย่างปล่อยให้ร้านจัดการ
คนเราสมัยนี้มันไว้ใจกันยากขนาดศูนย์ซ่อมยังเอาเครื่องลูกค้าไปใช้
ข้อมูลส่วนตัวนี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าไม่ล็อคไว้คงโดนอ่านแล้วอ่านอีกแหละครับ
เวลามีปัญหาบางที่เขาก็เข้าใจนะครับเค้าก็ยื่นมาแล้วให้เราปลดล็อคให้
แล้วให้เรายืนดูเลยว่าทำอะไรกับเครื่องบ้างจะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย
dtac ก็ ซื้อแอพ ในwp ได้นะ วันนั้น พี่ ให้ซื้อให้เพราะ ais ซื้อไม่ได้ ก็งงอยู่ สงสัยช่วงปิดระบบรึเปล่า
น่าจะมีการรวม ความรู้ใ้ห้นะครับ ว่า การซื้อในแต่ละos เช่น ios android wp เนี่ย สามารถ ซื้อได้อย่างไรในแต่ละค่าย อันนี้อยากรู้ส่วนตัวอยากให้รวมให้
แอนดรอยเนี่ย น่าจะมีเจ้าเดียว หลังๆ ไม่ค่อยได้ตาม
แต่จะบอกว่าเด็ก ที่ในข่าวบอก ม1 เนี่ย ไม่รู็หมดเลย คงยากที่จะเชื่อ หลานผม ม 3 มันก็ซื้อสติ๊กเกอร์ไลน์ รู็เรือ่งดีทุกอย่าง น่าจะบอก ไม่รู้ ทำตามคลิ๊ปกันแม่ตบด้วยส่วนนึง เด็กสมัยนี้ฉลาดนะครับ บางที ผู้ใหญ่ ไม่ได้ใช้บ่อยๆ ยังลืม แต่เด็กมันสรรหาวิธีกันได้ google มันช่วยให้เด็กทำอะไรได้ง่ายขึ้นเยอะไม่ต้องถามผู้ใหญ่ ในหลายๆเรื่องที่ควรถาม
ถ้าคุณไม่ได้ตั้งเครดิตลิมิตไว้ก็สมควรจ่ายเงินสินะ
ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมที่เครือข่ายผู้ให้บริการจำกัดวงเงินไปเลย
จะป้องกันปัญหาประเภทนี้ได้ดีที่สุดครับ
ผู้ให้บริการ ขาดความรอบคอบ ผู้ใช้บริการ ขาดความรู้
เคสนี้คงเป็นกรณีศึกษาได้ครับ
โอ้ ลูกหลานชาวนาใช้แบบรายเดือน แต่ผมยังใช้เติมเงิน เติมเดือนละ 150 บาทก็เยอะแล้ว 555+
ตามนี้เลยครับ ใช้เติมเงิน ปัญหาไม่เกิด เป็นการจำกัดเวลาเล่นเกมของลูกไปในตัว (เน็ตจำกัด) พ่อแม่ลูกจะคุยกันมากขึ้น (อย่างน้อยก็ "แม่ ขอตังเติมมือถือหน่อย")
ผมเติมเดือนละ50บาทถ้าจะซื้อแอปก็เติมเยอะหน่อย
ไม่คิดเงิน+ระงับไอดี ผมว่าน่าจะทำยังงี้ดีกว่านะ
จริงอยู่ที่ AIS ก็ผิด แต่ในกรณีนี้ควรจะแบนไอดีที่เล่นไปด้วย เพื่อไม่ให้เกินเหตุการณ์แบบนี้ตามมา ไม่งั้น AIS ได้เจ๊งหมดตัวแน่
กรณีนี้ผมถือว่า ais ผิด ตราบใดที่ไม่มีการทำระบบให้ถูกต้อง มีการยืนยันตัวตน จำกัดอายุ สมัครได้หน้าเคาเตอร์เท่านั้น ais ก็จะต้องรับผิดชอบไป แต่ถ้า ais ทำทั้งหมดแล้วยังมีอีกอันนี้ให้เป็นล้าน จนแค่ไหนก็ต้องจ่าย เพราะขาดความรับผิดชอบ
ปล.ว่าแล้วไปกดซื้อเพชรแล้วร้องเรียนบ้างได้ไหมเนีย
AIS ให้มีการยืนยันตัวตนแล้ว โดยกรอกข้อมูลผ่าน app ค่ะ
แต่กรณีนี้ พ่อแม่ซื้อให้ลูกใช้ ตัวตนก็คือเอาข้อมูลของพ่อแม่มากรอก
เด็กถึงขนาดไปศึกษาวิธีโกงเกมใน youtube ย่อมแสดงว่าไม่ได้เป็นเด็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
แปลว่ารู้เรื่องพอสมควร แต่ไม่อ่านคำเตือนในเกมที่มันเด้งขึ้นมาเตือนเมื่อตอนกดซื้อ(เด็กให้สัมภาษณ์ในข่าว)
ถึงบอกไงครับว่าต้องมีการทำรายการที่ shop ไม่ใช่หมูหมากาไก่ที่ไหนก็ได้ สมัครผ่านหน้า app ใครก็ทำได้ ต้องให้คนที่จะสมัครไปนั่งฟังเลยว่ามีผลอะไรยังไงบ้าง
ก็ครับ AIS ผิด แต่ในที่นี้ผมหมายถึงว่าถ้าจะให้ไม่คิดเงินก็ควรจะแบนไอดีไปด้วย เพราะว่าเติมไปแล้วมันเอาคืนไม่ได้ไง 555
…
.
พ่อแม่เด็กก็ผิดครับ ซื้อมือถือมาให้ลูกแต่ไม่ศึกษา งานนี้สงสารAISครับ แม้จะผิดก็ผิดบางส่วนเอง พ่อแม่นี่สิน่าโดนว่ามาก
ช่วงนี้ AIS จ่ายเงินฟรี
งั้นเดี๋ยวไปซื้อเพชรบ้างดีกว่า แล้วพอบิลมาก็บอกว่า เฮ้ยลูกผมเป็นคนกดซื้อ!
เดี๋ยว AIS ตอบกลับมาว่า ตอนนี้ระบบเราตรวจสอบได้แล้วค่ะ กรุณาชำระเงินตามจำนวนด้วย 😛
555++
ตรวจได้ว่าพ่อหรือลูกเป็นคนซื้อเทพมากๆ
ประเด็นคือไม่ต้องตรวจหรอกครับว่าพ่อหรือลูกซื้อ
เอาแค่ระบบมันมีการล็อควงเงินได้ตามที่ผู้ใช้ตั้งเอาไว้ แล้วทำมึนเพิ่มวงเงินไปเรื่อยให้ซื้อไอเท็มได้นี่ก็โดนสอย จ่ายเงินเต็มจำนวนแล้วแน่ๆครับ
พ่อแม่ ใช้มือถือเลี้ยงลูก ก็สมควรจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรของท่าน Naver อุตส่าดูแลให้ทั้งเวลากินข้าว เวลานอนจะดึกดื่นแค่ไหน Naver ก็ดูให้ ขนาดตอนขี้ยังดูแลให้เลย แสนสองแสนโคตรคุ้มครับคุณพ่อคุณแม่
"แม้ว่าจะมีคนมาแก้ต่างว่าปกติระบบจำกัดค่าบริการนี้จะไม่ครอบคลุมถึงค่าบริการเสริม
แต่ว่าทาง AIS ก็ไม่เคยออกมาให้ข้อมูลส่วนนี้ จนทำให้ผู้ใช้เข้าใจและวางใจว่ายังไงก็ไม่มีทางเกินวงเงิน"
ตรงนี้คือความคิดไปเองของผู้บริโภค ซึ่งไม่ยอมสอบถามก่อนใช้งาน เพราะคำว่า "เข้าใจไปเอง…"
ในทางกฎหมายมักจะยกประโยชน์ให้ผู้บริโภคนะครับ ในกรณีที่บริษัทระบุมาไม่ชัดเจน และเนื้อหาของข้อความก็ทำให้เข้าใจว่าครอบคลุมอีกด้วย
สงสาร AIS มากเลยกรณีนี้
เนียนซะ เล่นเองกดเอง แถมไม่ต้องจ่าย
ผมเห็นแย้งครับ ผมว่าพ่อและแม่ของลูกควรมีส่วนรับผิดชอบด้วย (อาจจะครึ่งนึงหรือเงินจำนวนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าคุณได้รับผลจากการกระทำนั้นจริงๆ) อย่างน้อยจะได้รู้สึกว่าคุณจะใช้งานอะไรควรจะศึกษาให้รอบคอบ ไม่ใช่ปล่อยปะละเลยจนเกิดปัญหา โลกนี้ไม่ได้มีใครมาคอยบอกคุณ คอยจำกัดคุณตลอดเวลา คุณต้องศึกษาด้วยตนเอง ให้เป็นกรณีตัวอย่างต่อสังคม ต้องรับผิดชอบด้วยตนเอง
จริงๆ Operator ทุกเจ้าก็ทำ Operator Billing ได้ครับ โดยใช้ Third Party อย่างเช่น Easy2Pay ที่พบได้ในหลายๆเกม เพียงแต่มันไม่เป็นข่าวเท่านั้นเอง ซึ่งหลังจากข่าวออกรู้สึกอีก 2 เจ้าที่เหลือจะไหวตัวทันเรียบร้อยแล้ว มันจะคิดเป็นบริการเสริมและยอดเงินดังกล่าวจะสรุปเป็นรายเดือนเช่นกัน
ผมว่ายังไงก็ไม่น่าจะฟรีทั้งหมดนะครับ ไม่งั้นจะได้ใจและไม่เกิดการเรียนรู้ว่าต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น จะเก็บสัก 5,000.- ก็ได้ จะได้เอาไว้เตือนสติเวลาเลี้ยงลูก ว่าให้สนใจลูกบ้าง อย่าให้โทรศัพท์เป็นพี่เลี้ยงเลย และเด็กก็จะได้เกิดการเรียนรู้ว่าตนเองย่อมได้รับผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของตนเองแน่ๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ปล.ผมใจร้ายเกินไปหรือเปล่าเนี่ยะ 555
กรณีบัตรเครดิตกับเกมนี้ก็มีข่าวมาแล้วครับ หลักแสนเช่นกัน
สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และรับผิดชอบร่วมกันคงจะเป็นทางออก
1. พ่อแม่เด็กขาดความรับผิดชอบในการ เอาใจใส่ ดูแล และสั่งสอนลูก (ไม่มีเวลา เหนื่อย ไม่รู้จะพูดสอนยังไง จน จะอ้างอะไรก็ว่ามาได้เลย เพราะทั้งหมดคือข้ออ้าง)
2. AIS ยังขาดการตรวจสอบบริการของตัวเอง ที่เป็นช่องโหว่ให้เงินรั่วไปง่ายๆ (เป็นบทเรียนว่ารีบเปิดบริการเอาหน้า มันมีแต่จะเสีย ควรเริ่มทดลองทีละน้อย ให้รู้ถึงจุดอ่อนและแก้ไขจนเหลือน้อยที่สุดก่อน)
3. Line ที่เพือนๆอาจจะคิดว่าไม่น่าไปโทษ แต่ผมคิดว่ามันขาดความรับผิดชอบต่อคุณค่าที่ลูกค้าเชื่อใจ เนื่องจากเห็นแก่เงินเป็นหลักมากกว่ามนุษยธรรม กล่าวง่ายๆคือ เอากฏที่คิดว่าทุกคนเข้าใจร่วมกัน มาหาประโยชน์กับคนที่ไม่รู้
ปล. เกลียดคุ๊กกี้รันที่สุด ผมให้ Line ผิด 80 เปอร์ ใครไม่ได้ว่า ผมไม่ว่า
ความผิดคุกกี้รันครับ ถ้า แจกเพชร ให้มากนี้ คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นหรอก ^^
จริงๆมันน่าจะเป็น การขาดความรู้ ความใจในการใช้งานมากกว่า
ผนวกกับความคึกคะนอง ของเด็ก
ที่อยากวิ่งไปแตะขอบฟ้า ให้ทันเพื่อนๆอีกด้วย
แต่ยังไงเหตุการณ์ในครั้งนี้
ก็เป็นบทเรียนราคาแพง
ที่สอนให้คนส่วนใหญ่รู้ว่า
แอปพิเคชั่น บน Smart Phone
สามารถทำให้เราเสียเงินได้มหาศาลเช่นกัน
เด็กนี่อะรู้ดีเลย12ปีสมัยนี้ แต่ก็อย่างว่าไม่ได้คิดอะไรมากหรือคิดอยู่หลายรอบแล้วกว่าจะตัดสินใจซื้อโลด ลูกหลานผมหัวทิ้ม555
Aisนี่ก็นะ แต่ก็รับผิดชอบ
พ่อแม่เด็กก็น่าสารเง้อลงทุนให้ลูกซะดิบดีรายเดือนซะด้วย แต่ก็นะผู้ใหญ่แบบบ้านๆคงไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยไม่รุ้อะไร เพราะผมก็บ้านนอกเหมือนกันเข้าใจดี
ผม+1กับคนที่บอกว่าเกลียดคุ๊กกี้รัน จิงๆก็ไม่ชอบสักเกมส์ที่มีin appแต่มันก็มีเกือบทุกเกมส์~~! มันเหมือนเกมส์จะยึดติดกับเหรียญ เพรช ทอง คริสตัล มากไป จนหมดหนุก แบบว่าคนไม่มีเงินจะกินข้าวอย่างผม จะชนะใครเค้ามั้งเนี่ย555
บัตรเครดิตไม่รอดแล้วครับ
ธ.ไทยพาณิชย์ 123,xxx.xx บาท
คิดว่าแบงค์ไม่น่ายกหนี้ให้ด้วย 555
ขอคิดต่าง
ง่ายๆ ยกยอดหนี้สองแสน แลกกับการ ออกข่าว ทุกสื่อ ออกข่าวทุกช่องทาง ยังไงก้คุ้ม
ยอดรวมความเสียหายจริง ๆ มากกว่านี้เยอะมาก ๆ ครับ ดูยังไงก็ไม่คุ้ม ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแน่ ๆครับ
ผมกลับมองว่ายังไงไอ้เด็กนั่นก็ผิดเต็มประตู คิดอยากได้เพชรฟรีแต่สุดท้ายก็ไม่ฟรี (…แถม ais ไม่เก็บค่าบริการอีก โคตรกำไร) ผปค.ก็ไม่น่าไปสมัครบริการนั่นเลย ใช้แบบบัตรเครดิตก็กันเด็กซื้อมั่วได้แล้ว (หรือที่เด็กไปหาข้อมูลซื้อเพชรฟรีคือการสมัครบริการนั่นกันนะ?)
แต่ ais ก็ผิดอยู่อย่าง คือไม่ได้จำกัดวงเงินค่าบริการ ซึ่งผมไม่ได้มองว่าผิดที่สุดหรอก
มันไม่ต้องให้ผู้ปกครองสมัครนะครับ จากที่ได้ยินมาแค่กรอกข้อมูลใน app แค่ไปขอบัตรแม่มาก็จบแล้ว
ยังไงซะเปิดบริการครั้งแรกมันจะถามข้อมุูลเพื่อยืนยันตัวตน
แล้วจะถามรหัสผ่าน google account ด้วย (จากประสบการณ์ ผมเปิดบริการวันแรกๆที่ ais เปิดให้บริการเลย)
….อย่างนี้แสดงว่าเด็กตั้งใจสมัครเพื่อซื้อเพชร โดยการสมัคร google account และเปิดบริการซื้อของเอง
แต่ก็นะ ถ้า ais จำกัดวงเงินยอดมันก็จะสูงขนาดนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่เด็กทำเองได้ อย่างที่บอกไว้เสมอต้องไปหน้าเคาเตอร์เท่านั้น
แล้วคนที่ไม่มีเวลาละครับ…อย่างเดิมผมว่าสะดวกดีครับ
ได้อย่าวงเสียอย่าง
อย่างน้อยๆก็ต้องมีการแฟกส์สำเนาบัตร หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะยืนยันตัวตนได้มากกว่านี้ ทำให้คนที่ต้องเสียเงินรับรู้ว่าตัวเองต้องรับผิดชอบอะไรมากกว่ากนี้ เพราะระบบมันง่ายเกินไป บอกตรงๆชุ่ยมากสำหรับเรื่องการเงินมูลค่าสูงแบบนี้
ไม่ต้องถึงแสนแค่หมื่นก็น่าด่าแล้ว ขนาดสมัครบัตรเครดิต ลูกยังกดเล่นได้เสียเป็นหมื่น แต่นี่ทำให้ลูกสมัครเองได้ ใช้อะไรคิดละครับ
ไม่ใช่สักแต่ง่ายอย่างเด่ว ของแบบนี้ไม่โดนกับตัวไม่รู้หรอกครับ
จากประสบการณ์เลยแค่เอาแอดเคาท์ไปแชร์แอพให้เพื่อนไม่ถึง 2 ชม ลูกเพื่อนอายุ 12-13 ซื้อของในเกมไป 1000 ดีที่ผมคอยเช็คตลอดเลยห้ามทันไม่งั้นข้ามวันมีเป็นหมื่น เพราะเด็กถึงมันจะทำเป็นแต่มันไม่รู้หรอกว่าเงินที่มันต้องเสียอ่ะมันมากขนาดไหนเห็นว่ากดได้ก็กดอย่างเดียวยิ่งมีคลิบบอกว่าเติมได้ฟรียิ่งแล้วใหญ่
ที่ผมด่าเพราะมันเคยมีเคสแล้วแต่ ais ไม่รู้จักทำอะไรให้รอบครอบ ไม่ใช่เป็นรายแรกๆที่โดนต่างกันแค่อันนั้นเด็กกดจากบัตรเครดิส แต่อันกลับทำให้มันงายขึ้นกว่าเดิมอีก สมควรด่าไหมครับ?
ปล. คนไทย ais รับผิดชอบจำได้แต่ ais เป็นคนดี แต่ไม่เคยจำว่า ais ทำชุ่ยอะไรไว้
ปล.2 อย่างที่คุณบอกแหละได้อย่างเสียอย่าง แต่ผมว่ายอมเสียดีกว่าเพราะมันได้ไม่คุ้มเสีย
นั่นแหละ ผมเลยสงสัยเพิ่มว่าเด็กมันไปสมัครเองรึเปล่า ถ้าใช่ก็คือไอ้เด็กนี่ยิ่งน่าด่าเข้าไปใหญ่ สมควรให้รับผิดชอบส่วนหนึ่งด้วย ไม่ใช่ตีหน้ามึนกดซื้อเพชรฟรีๆ
เด็กมันก็น่าด่าถึงบอกอีกไงว่าของพวกนี้มีไว้ให้คนที่บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น การที่ ais วางระบบไม่รอบครอบให้เด็กทำได้ถือเป็นความผิด ais
ส่วนตัวผมยังคิดว่า AIS คงไปเจรจากับ Naver ลดค่าเสียหายตรงนี้ล่ะครับ โดยอาจจะขอให้ลบแอคเคาท์นั้นๆไป (ซึ่งเด็กก็ต้องเซ็นยินยอมกันไป เพราะไม่จ่ายนิ)
ถึงจะสุดท้ายผมถามหน่อย cookie run มันสนุกเหรอครับ
ผมคนนึงละ ที่ไม่เคยเล่น 555
ผมก็ไม่เล่นเหมือนกันครับ มันติ้งต๊องแปลกๆ เล่นแล้วดูปัญญาอ่อนไปเลย ผมเล่น อยู่2เกม Clash Of Clasn , Hay Day