ใกล้จะถึงวันแห่งความรักหรือวาเลนไทน์เข้าไปทุกทีแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าพอถึงเทศกาลนี้ทีไร คนโสดบางกลุ่มก็เกิดอาการเหงาเฉียบพลันซะงั้น (เข้าใจได้..🥺) โดยวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำแอปหาคู่ที่คนเล่นกันเยอะๆ ที่ใช้หาเพื่อนใหม่ หรือหาคนรู้ใจ พึ่งพาตัวเอง ก่อนจะไปพึ่งเทพเจ้ากันนะ
โดยแอปหาคู่ที่ทีมงาน DroidSans จะมาแนะนำครั้งนี้ แม้ว่าจะนำมาแค่ 3 แอป แต่ต้องบอกว่าทั้ง 3 แอปเป็นแอปที่มีฐานผู้ใช้งานค่อนข้างเยอะ แถมจากประสบการณ์ส่วนตัว ก็พบว่าแอปเหล่านั้นสามารถใช้หาคนคุย หาคนออกไปเดทด้วยได้จริง เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันที่แอปแรกกันเลยดีกว่า
TINDER
น่าจะเป็นแอปที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีสำหรับ Tinder ซึ่งแอปนี้ ถือว่าเป็นแอปที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยฟีเจอร์ของ Tinder ก็มีหลากหลายสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับว่าจะหาคู่แมทช์จากระยะทาง ได้ตั้งแต่น้อยกว่า 1 กม. ไปจนถึง 100 กม.++ เลย
แถม Tinder ยังมีฟังก์ชั่น Tinder Plus และ Tinder Gold อีกด้วย สำหรับเลือกดูว่ามีคนปัดขวา (กดไลค์) เรามากี่คน อารมณ์แบบเลือกคนแมทช์จากคนที่เขากดไลค์เรามาก่อนยังไงยังงั้น รวมถึงมีฟีเจอร์ Passport สำหรับเปลี่ยนโลเคชั่นของเราไปอยู่ตามประเทศอื่นๆ เผื่อใครอยากแมทช์กับคนต่างชาตินั่นเอง
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- คนเล่นเยอะ
- เขียน Bio แนะนำตัวเองสั้นๆ ให้คนที่จะแมทช์กับเราในอนาคตอ่าน
- Tinder Plus และ Tinder Gold มีค่าบริการรายเดือนที่ไม่แพงมาก (ประมาณเดือนละ 250 บาท)
ข้อสังเกต
- ไม่มีฟีเจอร์ให้ฟิลเตอร์คนที่จะแมทช์ด้วย เลือกได้แค่เฉพาะอายุกับระยะทาง
BUMBLE
มาต่อกันด้วย Bumble อีกหนึ่งแอปหาคู่ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ (ในไทยก็มีคนเล่นบ้าง) โดยฟีเจอร์และขั้นตอนการใช้งานของ Bumble หลักๆ จะค่อนข้างเหมือนกับ Tinder มีฟังก์ชั่นปัดซ้ายปัดขวาเหมือนกัน แต่จุดสังเกตของ Bumble ก็คือแอปนี้ผู้หญิงจะต้องทักไปหาผู้ชายก่อน และหากไม่ทักภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากที่แมทช์ ระบบก็จะลบแมทช์นั้นทิ้งไป
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- มีช่อง Bio แนะนำตัวเองสั้นๆ เหมือนกับ Tinder
- มีให้เลือกแบบว่าจะเล่นหาแฟน หรือหาเพื่อน
ข้อสังเกต
- ผู้หญิงต้องเป็นคนทักไปก่อน
- แมทช์มีอายุแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น (ในกรณีที่ไม่มีใครทักใครก่อน)
COFFEE MEETS BAGEL
ปิดท้ายกันด้วยแอปที่คาดว่าผู้อ่านน่าจะไม่ค่อยรู้จักกันมากนักอย่าง Coffee Meets Bagel หรือ CMB โดยแอปนี้ถือว่ามีกิมมิคที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว คือระบบจะสุ่มคนที่มีความสนใจคล้ายๆ เราขึ้นมาให้เลือกแมทช์ประมาณ 20 – 30 คนต่อวัน ซึ่งคนที่ CMB สุ่มมาให้ ส่วนมากจะมีความสนใจที่คล้ายๆ กับเราแทบจะทุกคน แถมโปรไฟล์แต่ละคนก็ดีมากๆ อีกต่างหาก จบนอก พิมพ์อังกฤษเก่ง อนึ่งกำลังอยู่เว็บหางาน LINKEDIN ยังไงยังงั้น
โดยตัวแอปจะมี Ice Breakers ให้เราใส่ เหมือนเป็นการบอกบางสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวเองสั้นๆ สำหรับให้คนที่แมทช์แล้วมีเรื่องทักมานั่นเอง ยกตัวอย่างผมเป็นคนที่แพ้น้ำตาลแลคโตสในนมวัว ก็มักจะมีคนทักมาบอกว่า น่าเสียดายจัง อย่างนี้ก็ชวนไปกินไอติมไม่ได้น่ะสิ ซึ่งพอทักมาแบบนี้ ก็จะทำให้มีเรื่องคุยกันยาวๆ
อย่างไรก็ดี ถ้าแมทช์แล้วไม่ทักไปภายใน 7 วัน ตัวระบบของ CMB ก็จะลบแมทช์นั้นทิ้งเหมือนกันนะ คล้ายๆ Bumble เลย หรือว่าคุยแล้วแต่ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ระบบก็จะลบเหมือนกัน คือพูดง่ายๆ หน้าแชทต้องแอคทีพตลอดเวลานั่นเอง
ข้อดี
- แมทช์ใน CMB ดูจะมี Common Interests ที่เหมือนกันมากกว่าในแอปอื่นๆ
- มีฟังก์ชั่นแนะนำตัวเองเยอะ ชอบอะไร Ideal Date (เดทในอุดมคติ) เป็นแบบไหน รวมถึงช่องทางให้แสดงออกว่าเดทแรกใครควรเป็นคนออกเงิน หรือหารสอง
ข้อสังเกต
- มีเวอร์ชั่นเสียเงินที่จะเลือกคนแมทช์ได้มากขึ้น แต่ค่าบริการรายเดือนก็มหาโหดเอาสุดๆ
- คนเล่นยังไม่เยอะมากนัก
- อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่คล่องภาษาอังกฤษ เพราะคนในนั้นส่วนมากจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ
- แอปให้คนมาเลือกแมทช์ในแต่ละวันน้อย เพียงแค่วันละ 20 – 30 คน ไม่เหมือนแอปอื่นๆ ที่มีเป็นร้อย
หวังว่าทั้ง 3 แอปจะมอบประสบการณ์ดีๆ ให้กับผู้อ่านนะครับ ใครที่คิดว่า 3 แอปยังน้อยไป ก็สามารถไปดูคลิปของพี่เก่ง Kengkawiz ที่ผมแปะเอาไว้ด้านบนได้เลย อันนั้นมีมาแนะนำถึง 5 แอปเลยทีเดียว
Happy Valentine’s Day!…Whether you have someone by your side or not. 😊😊😊
Comment