หลายๆ คนน่าจะเห็นประกาศของกรมการบินพลเรือนฉบับนี้กันแล้ว เพราะเห็นแชร์กันไปทั่วโลกโซเชียล แต่บางคนอาจจะยังไม่เห็นหรืออ่านแล้วยังไม่เข้าใจ เราเลยขอมาอธิบายเรื่องแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการพกพา แบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank ขึ้นเครื่องบิน ว่าตกลงแล้วห้ามไม่ห้ามอย่างไร จริงๆ แล้วพกขึ้นเครื่องได้หรือเปล่า
แต่ก่อนอื่นอย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ มาห้ามกันแบบนี้ แต่ก่อนไม่เห็นเคยจะมี ต้องบอกก่อนว่าประกาศฉบับนี้จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แต่เป็นเรื่องที่สายการบินต่างๆ นั้นปฏิบัติกันอยู่แล้ว
หลายๆ คนที่ขึ้นเครื่องบินบ่อยๆ ก็น่าจะเคยเจอว่าเค้าห้ามเอาแบตเตอรี่สำรองโหลดขึ้นใต้เครื่องบิน การที่กรมการบินพลเรือนออกมาประกาศครั้งนี้ ก็เหมือนออกมาเพื่อขานรับกับการปฏิบัติและวิธีการที่เป็นมาตรฐานสากลในการพกพาอุปกรณ์ประเภท แบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank เท่านั้นเอง
ลองดูภาพกราฟิคด้านล่างของการบินไทยได้ครับ อันนี้ทำขึ้นมาช่วงเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา ก็มีกฏการพกพาแบตเตอรี่สำรองแบบเดียวกับในประกาศของกรมการบินพลเรือนเด๊ะๆ
- ห้ามนำแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ทุกชนิดใส่กระเป๋าที่จะนำไปโหลดขึ้นใต้เครื่องบิน ซึ่งกระเป๋าที่โหลดขึ้นใต้เครื่องเค้าใช้ศัพท์ว่า Checked Baggaged หรือ Hold Baggaed
- แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) สามารถนำขึ้นบนเครื่องบินได้ หากมีประจุไฟน้อยกว่า 20,000 มิลลิแอมป์ (100 Wh) สามารถแบกขึ้นเครื่องได้ไม่จำกัด ถือได้กี่อันก็เอาขึ้นไปได้เลย ถ้าไม่กลัวหนัก
- แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่มีประจุไฟมากกว่า 20,000 มิลลิแอมป์ แต่ไม่เกิน 32,000 มิลลิแอมป์ (100-160 Wh) สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ชิ้น
- ห้ามนำแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่มีประจุไฟเกิน 32,000 มิลลิแอมป์ (>160 Wh) ขึ้นเครี่องโดยเด็ดขาด
สรุปแบบสั้นๆ ก็คือเราสามารถเอาแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบินได้ แต่มีข้อจำกัดเรื่องประจุไฟและจำนวนครับ แต่ห้ามเอาแบตเตอรี่สำรองโหลดขึ้นไปกับกระเป๋าเช็คอิน ไม่ว่าจะความจุเท่าไหร่ก็ตาม
ปล. เชื่อผมมั้ยว่า อีกไม่นานจะมีคนเอา Power Bank ความจุเกิน 32,000 มิลลิแอมป์ขึ้นเครื่อง แล้วถ่ายรูปอัพขึ้น IG และ Facebook ให้ดราม่ากันแน่นอน
ฮ่า ๆ ๆ ชอบ ปล. จริงๆ
คนที่บ้านเจอแบบนี้ — สนามบินในประเทศจีน ถ้า power bank ไม่มีสลาก ระบุความจุที่ชัดเจน (เช่น ถ้าเราเกิดทำฉลากมันขาด/หลุดหาย หรือซื้อแบบถูกๆ ไม่มีระบุความจุที่ตัว powerbank) ก็เอาขึ้นบินไม่ได้ ต้องทิ้งไว้
โอ้ว ไม่แกะให้เค้าดูหละครับ ว่าข้างในเป็นแค่ถ่าน AAA :p
น่าจะมีบทลงโทษซะหน่อย จะได้จัดการกับพวกชอบท้ายทายกฎได้
เอาที่พาดหัวข่าวออกได้ไหม เห็นพาวเวอร์แบงค์ไม่ชัด
อยากเห็นว่าพาวเวอร์แบงค์แบบไหนไม่ผ่านจริงๆครัช
ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ *0*
พี่จีนล่ะตัวดี
ปัญหาต่อไป เกิดเปลวไฟบนเครื่องบินเหตุจากชาร์จมือถือกับเพาเวอร์แบงค์คุณภาพต่ำโดยไม่ผ่านการรับรองมาตราฐาน
แล้วผู้เกี่ยวข้องก็จะออกมาให้ข่าวสั้นๆ ว่า เรามีคอกเยอะไว้สำหรับล้อมวัว
32,000 มิลลิแอมป์ (32 แอมป์)..!!! นั้นมันแบตเตอรี่รถยนต์รึเปล่า เอาขึ้นเครื่องไปทำไมครับท่าน..!!!???
อาจเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินกรณีแบตอ่อนต้องพ่วงแบตครับ เช่น เครื่องบินดับกลางอากาศแล้วสตาร์ทระบบไม่ติด คิคิ
Power Bank ความจุเกิน 30,000 mAh ที่มีขายทั่วไปตอนนี้ ส่วนใหญ่ความจุจริงไม่ถึง 10,000 mAh ด้วยซ้ำ แถมสอดไส้อีกตะหาก
เพื่อนผมถูกยึด power bank ที่จีนเหมือนกัน ได้แถมมาจากงาน commart
เคยเอาเพาเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องนะตอนไปญี่ปุ่นไม่รู้กี่แอมป์แต่ก็เอาเครื่องสแกนไม่เห็นมีปัญหาเลยหรือเค้าเพิ่งมาออกกฎ
เข้าใจเหตุผลว่า
ถ้าใส่ใต้เครื่อง แล้ว Power bank เกิดร้อน ลุกเป็นไฟใต้เครื่อง
จะ ไม่มีสิทธิดับ+ไฟติดกับพัสดุอื่นๆ มีสิทธิตาย ยกลำเอาง่ายๆ
เรื่องห้ามโหลดใต้ท้องเครื่องมีมานานแล้วนะครับ ปกติเจ้าหน้าที่เช็คอิน (ที่ดี) ก็จะถาม ถามทุกอย่างว่าเรามีพวกของเหลววัตถุไวไฟ และแน่นอนว่ารวมถึงแบตเตอรรี่ต่าง ๆ ด้วยว่ามีในกระเป๋าที่จะเช็คอินมั้ย พร้อมกับให้คำแนะนำว่าอะไรเราเอาไปได้ไม่ได้ แต่เรื่องรายละเอียดของแบตเตอร์รี่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีใครลงรายละเอียดกันเท่าไหร่นะว่าที่พกไปกี่ mAh หรือกี่ Wh เพราะส่วนใหญ่แล้วแบตที่ใช้กันทั่ว ๆ ไปมักไม่ค่อยเกินอยู่แล้ว เว้นแต่ว่าผู้โดยสารจะ Alert ถามขึ้นมาเองว่ามีเท่านั้นเท่านี้จะเอาไปได้มั้ย
ปล.แต่เคสที่ผู้โดยสารเอาแบตเตอร์รี่โหลดใส่กระเป๋าเช็คอินมีมาแล้วนะครับ เมื่อไม่นานนี้เอง เอาไปเยอะมากด้วย อัดมาเต็มกระเป๋าเลย เครื่อง X-ray มันจับได้ ก็โดน offload กันไปทั้งคนทั้งกระเป๋า (แล้วจากนั้นไม่นานก็มีข่าวมี Graphic info แชร์กันให้ว่อนเลย)