Google Glass เป็นอุปกรณ์ wearable ที่ล้ำยุคที่สุดชิ้นหนึ่งที่เคยมีมา เกือบ 2 ปีแล้วที่ Google เปิดตัวเจ้าแว่นตาไฮเทคนี้ แต่ ผลตอบรับกลับไม่ไปตามคาดสักเท่าไหร่ หลังจากที่หลายๆบริษัทรวมไปถึงผู้พัฒนาอิสระได้ทยอยยกเลิกโครงการพัฒนา application สำหรับ Glass ไป
Little Guy Game เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ล้มเลิกการโครงการสำหรับ Glass และหันไปพัฒนาโครงการสำหรับ Oculus Rift แทน Tom Frencel ประธานบริษัทได้กล่าวว่า
“ถ้า Google Glass มีผู้ใช้งานสัก 200 ล้านคน มันก็คงจะเป็นคนละเรื่องกันกับตอนนี้”
“If there was 200 million Google Glasses sold, it would be a different perspective,”
Glass นั้นได้รับผลตอบรับที่ไม่ค่อยจะดีนักจากบุคคลทั่วไปเนื่องจากมันก็ไฮเทคเกินไป และยังเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของผู้พบเห็นเนื่องจาก Glass มีกล้องติดอยู่ที่ด้านหน้า และถ้าแม้ผู้สวมใส่อาจจะเคยชินกับเจ้าแว่นตานี้ในเวลาไม่นานนัก แต่กับคนทั่วไปแล้วอาจจะรู้สึกแปลกและอาจจะยังปรับตัวกับเจ้า Glass และผู้สวมใส่ไม่ได้
Sergey Brin ผู้ก่อตั้ง Project Glass ไม่ได้สวมใส่ Glass มาในงาน Silicon Valley red-carpet
อย่างไรก็ตาม เมื่อทาง Reuters ได้สอบถามเข้าไปที่ Google เกี่ยวกับเรื่อง Glass ก็ได้คำตอบกลับมาว่า ทาง Google ยังพัฒนา Glass อย่างต่อเนื่องเพื่อจะนำจะเปิดตัวต่อตลาด Consumer ภายในปี 2015 แน่นอน
เพื่อนๆ มีใครได้ลองสัมผัส Google Glass แล้วบ้างหรือยัง? บางคนอาจจะได้ไปลองใส่ในงาน Thailand Mobile Expo มาบ้าง ความรู้สึกเป็นอย่างไร? ถ้าในปี 2015 Glass เปิดตัวรุ่นสำหรับบุคคลทั่วไปจริงๆ ใครคิดว่าจะซื้อมาใช้บ้าง?
เกือบไปแล้ว
เทคโนโลยีนี้ยังล้ำเกินมนุษยชาติเกินไป
ต้องรอสัก 10 ปีค่อยว่ากันใหม่
ของที่เอามารวมกัน มันก็ถูกคิดค้นขึ้นมานานแล้วนา
แว่นตา + Android + กล้อง + Projector + Battery
อีก 10 ปี Google Glass อาจจะกลายเป็นเหมือนกับ ซาวน์เบาท์ ในทุกวันนี้ก็ได้
มันใหญ่ไปสำหรับเป็นแว่นตา และดู greek ไปที่จะเอามาใส่จริง
ส่วนตัวถ้าไม่แพงคงจะซื้อมาใส่เล่นในบ้านในรถหรือตามสถานที่ค่อนข้างส่วนตัว
แต่ถ้าให้ใส่ตามสถานที่สาธารณะคงขอบาย ใส่แล้วคงอายคนน่าดู เวลาถูกมอง
รอ version สำหรับ sport อยู่ ต้องใส่สบาย ให้ข้อมูลครบ
ที่นี้ ไมล์ และนาฬิกาออกกำลังกายก็จะล้าหลังไปเลย
เวร….ไหงงี้ฟระ นึกว่าจะยังมีอนาคต
อาจจะยังพอมีอนาคตในตลาด industrial ก็ได้ครับ ตามโรงพยาบาล โรงงาน แล้วก็ segment ตรงพวกจักรยาน มอไซต์ ถ้าของจริงออกมาแล้วไม่แพงมากอะนะ =0=
ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สิ ว่ามันมี Google Glass หน้าตาแบบนี้ด้วย ถ้าแบบในรูปผมกล้าใส่ออกไปข้างนอก
ณตอนนี้มันก็ยังไม่จำเป็น สำหรับคนทั่วไปเท่าไร. อย่าหยุดพัณนาน่ะอีกไม่นาน คงจำเป็นอย่างขาดไม่ได้เลยแหละ
เช่นการช่วยบันทึกสิ่่งที่มองเห็นเพื่อใช้ในการเป็นหลักฐานต่างๆ
^_^
ทำให้อยาก แต่ไม่ขายซะที คนลงทุนก็พากันหนีหมด
เรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะว่ามี มีกล้องติดอยู่ที่ด้านหน้า รู้สึกเฉย ๆ นะ
คือถามคนมันจะแอบถ่าย กล้องอะไรก็ใช้ได้หมดแหละ กล้องที่นาฬิกายังดูน่ากลัวกว่าอีก
ตอนออกมาก็อย่าแพงเกินกว่าคนทั่วไปจะซื้อได้ก็พอ
ถ้าแก้ปัญหาเรื่องร้อนกับแบตหมดไวไม่ได้ก็คงพูดยาก = =….
(ยิ่งเสียบกับ Power Bank แล้วใช้ไปด้วยนี่เหงื่อออกข้างหูกันเลยทีเดียว)
เสียบ power bank ด้วยรึ "-_-
ประเด็นผมว่าอยู่ที่ราคา เพราะมันแพงบรรลัยครับ
ไม่อยู่ในระดับที่คนทั่วไปเอื้อมถึงได้เลย
ดังนั้นถ้าจะหวังให้มันเป็น Mass คงยาก
ถ้าทำให้มันพร้อมกว่านี้ ราคาถูกกว่านี้ มีโอกาสเกิดสูง
เด่วก็กลับมา รอพี่samsung apple ทำก่อนถ้าได้เงินดีแล้วค่อยทำตาม
พัฒนาต่อไป เพราะมันอาจมีประโยชน์สำหรับบางอาชีพ ถ้าให้ดีขอราคามิตรภาพสำหรับคนทั่วไป
มันกลายเป็นสินค้าเฉพาะทางไปแล้วอ่าครับ
ถ้าเข้าห้องน้ำห้าง หรือเข้าโรงยิม สระว่ายน้ำ
แล้วเจอคนใส่ gg เข้ามา คุณจะรู้สึกยังงัยครับ
ถึงคนๆนั้นอาจจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม
ในมุมกลับถึงจะบอกว่ากล้องมือถือ,กล้องนาฬิกา กล้องปากกา ก็แอบถ่ายได้
แต่ gg มันคือกล้องติดที่ตา เล็งผ่านตาตลอดเวลา โดยไม่มีทางเห็นสัญญาณบ่งบอกอะไร
ได้เลยว่าคนใส่แว่นกำลังทำอะไรอยู่
งั้นถ้าตัดกล้องหน้าออกละ…..จะทำให้มันน่าสนใจน้อยลงไปหรือเปล่า
หรือเปลี่ยนมาเป็นกล้องหลังแทนดี
น่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจมากกว่า
1) ถ้าพัฒนาตอนนี้ ค่าพัฒนาจะจมทุน
อย่างน้อยจนกว่า gg จะออกขาย ถึงจะคืนทุน+ทำกำไรได้
2) แถมยังเสี่ยงถ้าไม่ฮิต คือขาดทุนเน้นๆ พร้อมเสียโอกาสทำธุรกิจด้านอื่น
สู้โยกทุนส่วนนี้ไปทำ Oculus ที่เอามือถือปกติมาสวมได้ทันที
ฐานลูกค้ามีอยู่แล้ว
ยิ่งมี ver กระดาษ โอกาสแพร่หลายก็สูงกว่า
สรุปคือ กำลังบีบ google ว่า "เอา glass ออกขายได้แล้ว(เว้ย)"
จั่วหัวแบบนี้ผมก็นึกว่ายุบโครงการ
อ่านถึง "Google ยังพัฒนา Glass อย่างต่อเนื่องเพื่อจะนำจะเปิดตัวต่อตลาด Consumer ภายในปี 2015 แน่นอน" จึงได้รู้ว่ายังมีต่อไป