นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน แถลงล่าสุดถึงเงื่อนไขการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าพร้อมเริ่มลงทะเบียนในไตรมาสที่ 3 และจะได้รับเงินในไตรมาส 4 ของปี 2567 ซึ่งมีเงื่อนไข คือ ประชาชนที่มีสิทธิ์ได้เงินดิจิทัลนี้จะต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี และมีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท ครอบคลุม 50 ล้านคนทั่วประเทศไทย

เงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีอะไรบ้าง?

  • ต้องเป็นคนไทยอายุ 16 ปี ขึ้นไป (ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน)
  • มีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี (เงินก่อนหักภาษี)
  • มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท

ดิจิทัล 10,000 บาท ลงทะเบียนเมื่อไหร่?

  • เริ่มลงทะเบียน ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2567)
  • เริ่มใช้จ่ายได้ ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567)

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้ออะไรได้บ้าง?

มีการกำหนดให้เงินดิจิทัล 10,000 บาท สามารถซื้อสินค้าได้ทุกประเภท ยกเว้น สินค้าอบายมุข, น้ำมัน, การบริการและซื้อของออนไลน์ รวมถึงสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดขึ้นในภายหลัง

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้ผ่านแอปอะไร ?

เงินดิจิทัลจำนวนดังกล่าวนี้จะสามารถใช้งานได้ผ่านแอปของรัฐบาลที่ถูกพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายให้เป็น Super App ของรัฐบาล โดยการใช้งานจะพัฒนาให้สามารถจ่ายได้กับธนาคารอื่น ๆ ได้ในลักษณะ open loop

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้ได้ที่ไหนบ้าง

ใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า โดยใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) โดยกำหนดให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น และใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

หากร้านค้าอยากร่วมโครงการ ต้องทำยังไง

  • เป็นร้านค้าที่มีการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
  • เป็นผู้มีภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • เป็นผู้มีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (PIT) เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร คือ เป็นประชาชนผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขาย

เงื่อนไขการถอนเงินของร้านค้า

ร้านค้าจะไม่สามารถถอนเงินสดหลังจากที่ประชาชนใช้จ่ายได้ แต่จะสามารถถอนเงินดิจิทัลออกมาเป็นเงินสดได้อีกทีก็ต่อเมื่อการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป (รอบที่ 1 ประชาชนจ่ายเงินให้ร้านค้า, รอบที่ 2 ร้านค้าเอาเงินไปซื้อของมาขาย ร้านที่ขายของให้ร้านก่อนหน้าถึงจะมีสิทธิ์ถอนเป็นเงินสดได้) เพื่อลดความเสี่ยงการทุจริตและเพิ่มผลการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ประชาชนได้ใช้สิทธิ 50 ล้านคน จากงบประมาณ 5 แสนล้านบาท

ในการดำเนินโครงการได้ให้สิทธิแก่ประชาชน จำนวน 50 ล้านคน คิดเป็นจำนวนเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 5 แสนล้านบาท คาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวประมาณ 1.2 – 1.8% จากกรณีฐาน โดยเงินจำนวนดังกล่าวใช้เงินจากงบประมาณ 3 แหล่ง ดังนี้

  • เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท
  • การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดูแลประชาชนในกลุ่มที่เป็นเกษตรกร จำนวน 11 ล้านคนเศษ ผ่านกลไก มาตรา 28 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
  • การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท

ที่มา : media.thaigov.go.th