DJI เปิดตัวโดรนพกพารุ่นใหม่ Mavic Air 2 หลังจากที่รุ่นแรกเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งแน่นอนว่าห่างหายไปถึง 2 ปี แบบนี้ ก็ต้องได้รับการอัพเกรดสเปค + ฟีเจอร์ต่างๆ ขึ้นมาจากเดิมอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นกล้องความละเอียดสูง 48MP ถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K 60fps, ถ่ายโหมด Time-Lapse ความละเอียดสูงสุด 8K แถมยังมีแบตเตอรี่ที่บินต่อเนื่องได้นานถึง 34 นาทีอีกด้วย
Mavic Air 2 ยังคงเป็นโดรนขนาดพกพาที่สามารถพับขาใบพัดได้ทั้ง 4 ขา โดยเมื่อพับแล้วจะมีขนาดอยู่ที่ 180×97×84 มม. (ตอนกางเครื่อง 183×253×77 มม.) และมีน้ำหนักเพียง 570 กรัมเท่านั้น ทำให้พกใส่กระเป๋าเป้ไปไหนมาไหนได้สบาย
กล้องของ Mavic Air 2 ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/2 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง 48MP จะเก็บภาพนิ่งโดยเทคโนโลยี Pixel Binning ที่จะรวม 4 เม็ดพิกเซล ให้กลายเป็น 12 เม็ดพิกเซลใหญ่ จึงสามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่า และได้รายละเอียดที่มากกว่า ส่วนการถ่ายวิดีโอก็ทำได้สูงสุดถึง 4K 60fps, รองรับการถ่ายแบบ HDR Video และมากับระบบกันสั่น Gimbal แบบ 3 แกน เพิ่มความนิ่ง และลื่นไหลให้กับการถ่ายวิดีโอ
มาพร้อมฟีเจอร์ในการถ่ายหลากหลาย ทั้ง Cinematic Shots บินถอยหลังขึ้นไปข้างบนแบบอัตโนมัติในขณะที่ยังโฟกัสวัตถุที่เลือกเอาไว้, FocusTrack เลือกโฟกัสวัตถุที่ต้องการ จากนั้นเมื่อบังคับโดรนแล้วกล้องจะคอยติดตามวัตถุที่โฟกัสแบบอัตโนมัติ, 8K Hyperlapse ถ่ายวิดีโอในโหมด Hyper-lapse ที่ความละเอียดสูง 8K ซึ่งเราสามารถตั้งค่าทิศทางการบินได้แบบอัตโนมัติ
ตัวคอนโทรลเลอร์ และโดรน จะรับ-ส่งภาพที่เห็นจากกล้องมาที่หน้าจอมือถือได้จากระยะทางไกลถึง 10 กม. โดยภาพที่ถ่ายทอดสดจะมีความละเอียดอยู่ที่ 1080p 30fps ทำให้สามารถบินได้อย่างมั่นใจ แม้โดรนจะไปไกลจนมองไม่เห็นตัวเครื่องแล้วก็ตาม
Mavic Air 2 มากับแบตเตอรี่อึดๆ ที่บินต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 34 นาที นอกจากนี้ยังปรับเป็นโหมด Sport เพื่อเร่งความเร็วได้สูงสุดถึง 68 กม. / ชม. เลยทีเดียว
บินปลอดภัยไม่กลัวชนด้วยระบบ Obstacle Avoidance ที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง 3 ทิศทาง ด้านหน้า, หลัง และด้านล่าง ที่จะหยุดบินโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ในทิศทางที่จะไป โดยสามารถตรวจจับได้ที่ระยะสูงสุดกว่า 20 เมตร
Mavic Air 2 วางจำหน่ายด้วยกัน 2 แบบ คือแพ็คเกจ Single ราคา 26,000 บาท ในชุดจะมีโดรน Mavic Air 2, คอนโทรลเลอร์, ใบพัด 6 ใบ, แบตเตอรี่ 1 ก้อน, ที่ชาร์จ ฯลฯ
ส่วนอีกแพ็คเกจคือ Fly More Combo ราคา 34,900 บาท ในชุดจะมีโดรน Mavic Air 2, คอนโทรลเลอร์, ใบพัด 12 ใบ, แบตเตอรี่ 3 ก้อน, ที่ชาร์จ, กระเป๋า ฯลฯ
Mavic Air 2 จะพร้อมจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป…ใครสนใจก็เตรียมทุบกระปุกกันได้เลยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม : DJI
แค่ 34 นาทีนี่ยังนับว่าน้อยไปนะ สงสัยว่าทำไมไม่ทำให้ถึง 1 ชม.ซะที ทั้งๆที่น่าจะทำได้แล้ว
แล้วมีระบบเตือนเวลาเหลือในการบินกลับว่าพอหรือไม่หรือเปล่า เผื่อถ้าเล่นเพลินๆแล้วบินไปไกลเกิน แล้วกลับไม่ทัน โดรนตกซะก่อน ต้องหากันยุ่ง แถมพังอีกต่างหาก
ยากมากครับที่จะทำให้บินได้ 1 ชม. เพราะส่วนใบพัดคือจุดที่ซดไฟตลอดเวลา
โดรนรุ่นใหญ่แบบ inspire ราคาหลักแสนยังทำไม่ได้เลย
เอาเข้าจริงถ้าเคยเล่นพวกเครื่องบิน-ฮ.บังคับ บินซัก 15 นาทีก็คืออิ่มๆแล้ว นานกว่านั้นคนขับเองจะล้าจะเบื่อไปเองก่อน
โดรนถ้าไม่ได้จะบินทำมิชชั่นอะไร ชีวิตประจำวันไปเที่ยวภูเขา ไปเที่ยวทะเลไรงี้ ถ่ายฟุตเตจ 10 นาทีนี่ก็ครบๆแล้ว
15 นาทีไม่น่าอิ่มครับ เคยใช้ Spark นี่ต้องบินขึ้นบินลงตลอด น่ารำคาญมากครับ
@tkb_phymed ทำงานแล้ว หรือยังเรียนอยู่ครับ ?
จะบินได้เป็นชั่วโมงนั้น สามารถทำได้ครับ
แต่มันจะทำให้ราคาแบตสูงเกินไป ไม่เหมาะกับราคาของโดรน
และแบตที่บินได้ต่อครั้งนานๆ ก็อายุจะสั้น เพราะมันจะร้อนมาก
ขนาดที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ใช้ไปแค่ร้อยกว่าครั้งก็บวมจนไม่ควรใช้ต่อแล้ว
ระบบเตือนเวลาแบตจะหมด เค้าทำมานานแล้วครับ มันคำนวณเวลา กับแบตที่เหลือเองได้
ถ้าแบตเหลือน้อยเกินไป มันจะบินกลับมาเอง (แต่ก็ไม่ใช่ทุกรุ่น รุ่นถูกๆ จะบินกลับเองไม่ได้)
ถ้าบินเป็นชั่วโมง น้ำหนักก็จะมากเกินจะเป็นรุ่นเล็กมั้งครับ
จากที่เคยใช้ Spark ที่บินได้แค่ 12-15 นาที แค่นี้ก็เป็นพัฒนาการที่ดีแล้วครับ
ปล. ปกติมัน set home base ได้ครับ ถ้า batt ใกล้หมดสามารถให้ drone บินกลับอัตโนมัติได้
หนึ่งในของที่อยากเล่นมาตลอดก็คือโดรน
ใจพร้อม ตังพร้อม แต่สุดท้ายทำใจเล่นไม่ได้เพราะประเทศไทยเรา ข้อกฎหมายมากเหลือเกิน
เข้มกว่าอเมริกาเสียอีก