หลังจากที่ทาง HTC ได้ปล่อยเทพตระกูล Tegra 3 อย่าง HTC One X ออกมาเป็นเจ้าแรกๆ และได้วางจำหน่ายในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา จวบจนถึงตอนนี้ก็ร่วมเข้าไป 7-8 เดือน ทาง HTC เองก็เลยถือโอกาสจับเอาเจ้า One X มาทำ minor change หรือเอามาปรับสเปคเพิ่มตรงนั้น ปรับตรงโน้น แก้ไขตรงนี้ เสร็จแล้วก็เปิดตัวและวางจำหน่ายในชื่อ HTC One X+ ช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทงพอดิบพอดี (ไม่ได้เกี่ยวกันเลย) และหลังจากที่ผมได้ทดลองใช้มา 2-3 สัปดาห์ ก็ได้เวลาเอามารีวิวให้ทุกท่านได้ดูกันแล้วครับผม

== ==  VDO Review :  HTC One X+ == ==

Play video

.

.

ส่วนท่านทั้งหลายที่มีปัญหาเรื่องความเร็ว internet ให้ชม Photo review ด้านล่างไปก่อน กลับบ้านค่อยไปดู vdo ได้นะจ๊ะ

 == == Photo Review == ==

จุดสังเกตง่ายๆ ของ HTC One X+ คือมีปุ่มสัมผัสสีแดงครับผม 

 

เช่นกันที่ส่วนของเลนส์กล้อง และที่ด้านล่างตรงโลโก้ของ beats audio ที่จะใช้สัญลักษณ์แทนตัวอักษรแล้ว 

 

 เช่นเดียวกันกับรุ่นสีขาว ก็ใช้สีแดงมาตกแต่งเลนส์กล้องด้วยเหมือนกัน

 

 ปุ่มสัมผัสด้านหน้าทั้ง 3 ก็เป็นสีแดงครับ

 

 ส่วนช่องใส่ซิมก็ิยู่ที่ด้านบนเช่นเดิม ต้องใช้เข็มจิ้มออกมา (เข็มแถมมาในกล่อง)

 

 ส่วนที่กล้องหน้ามีการอัพเกรดจาก 1.3 ล้านในรุ่นเดิมเป็น 1.6 ล้านพร้อมค่า f2.2 เพื่อความสว่างของภาพ

 

หน้าจอ 4.7 นิ้ว เทคโนโลยี Super LCD 2 ความละเอียด 1280×720 pixel 

 

 ความจะในตัวเครื่อง จัดเต็ม 64 GB ก้อนเดียว ไม่แบ่งเป็น system หรือ storage แล้วเอาไปใช้กันให้ฟิน

 

 การจับภาพหน้าจอเหมือน android ทั่วๆ ไป ใช้ปุ่ม power + vol down

 

 หน้าตา UI ของ gallery แบบใหม่ ดูง่ายขึ้น สวยขึ้น

 

 ส่วนโปรแกรมดูหนัง Video Player ก็มีการอัพเดทให้สามารถปรับแสงหรือปรับเสียงได้ขณะรับชม พร้อมกันนั้นยังสามารถกดปุ่มชัตเตอร์เพื่อเก็บฉากประทับใจจากวิดีโอได้ทันที

 

 ส่วนกล้อง Sense Camera ก็มีลูกเล่นและฟิลเตอร์เพียบเช่นเคย

 

 เช่นการถ่ายภาพแบบ Continuos กดค้างไว้ ซัดไป 99 ช็อตต่อเนื่องกัน (กันพลาด)

 

 และในโหมดถ่ายวิดีโอ (ความละเอียดสูงสุด 1080p) ยังสามารถถ่ายภาพไปพร้อมๆ กันได้ด้วย

 

 และแน่นอน HTC One X+ มาพร้อม CPU สำหรับคอเกมอย่าง Nvidia Tegra 3 เพราะฉะนั้นพวกเกมที่เป็น Tegra Exclusive ก็สามรารถติดตั้งละเล่นได้ก่อนใครเพื่อน

 

คราวนี้มาดูตัวอย่างภาพถ่ายและวิดีโอกันดีกว่า

 

  == == HTC One X+ 8 Mpixel Camera Sample == ==

ตัวอย่างภาพความละเอียด 8 ล้านจากกล้องหลัก

  

ใครสนใจอยากดูภาพต้นฉบับเชิญได้เลยที่นี่

 

== ==   HTC One X+ 1080p Full HD camcorder sample == ==

ตัวอย่าง VDO จากกล้องหลัง สว่างๆ บรรยากาศฟาร์มแกะ

Play video

 อีกอันลองพาไปปาเป้าในงานกาชาดตอนค่ำๆ

Play video

  

== == ล้วง แคะ แกะ spec == ==

1. UMTS HSDPA หรือ 3G ระดับ H

– HTC One X+ เครื่องที่วางจำหน่ายจะรองรับ 3G ทุกคลื่นเช่นเดียวกับ One X ครับ

2. ขนาดหน้าจอ

– 4.7 นิ้ว กับความละเอียด HD 1280×720 คมชัด ด้วยจอ SLCD 2

3. หน่วยประมวลผล CPU + GPU

– ใช้ CPU Nvidia Tegra 3 T33 1.6 GHz quad-core ใช้ GPU ULP GeForce

4. RAM / Internal Memory

– RAM 1 GB / ROM 64 GB ก้อนเดียว ไม่แบ่ง ลงเกมลงแอพกันให้เต็มเครื่องได้เลยคราวนี้

5. Wireless b/g/n + Bluetooth + NFC

– ใช้ Bluetooth 4.0 พร้อมระบบ AptX ให้การฟังเพลงผ่าน Bluetooth ดีขึ้น  มี WiFi สามารเปิด WiFi hotspot ได้ มี NFC ให้ใช้งาน และบน Android 4.1 สามารถใช้ android beam รับส่งไฟล์ได้แล้ว 

6. GPS with AGPS

– จับสัญญาณได้เร็ว ไม่เกิน 1 นาทีโดยเปิดใช้งานการระบุตำแหน่งผ่าน Wireless Location ช่วยด้วย ทดลองบนที่โล่ง ฟ้าเปิด ไม่มีเมฆ 

7. ลำโพง และระบบเสียง

– เสียงลำโพงภายนอกดังกว่า One X พอสมควร ส่วนระบบเสียง beats นั้นใช้งานได้กับการเสียบหูฟัง 3.5 เท่านั้น 

8. Camera and Front-facing camera

– กล้องหลัก 8 ล้านโฟกัสเร็ว พร้อม zero shutter lag กดแล้วถ่ายเลย และยังมาพร้อม continuos mode ที่สามารถกดชัตเตอร์ค้างไว้แล้วถ่ายรัวๆ ได้สูงสุด 99 ภาพ รองรับการถ่ายภาพขณะถ่ายวิดีโอ ส่วนกล้องหน้าก็มีการอัพเดทให้เป็น 1.6 ล้านและมีค่า f2.2 เพื่อให้รับแสงได้มากขึ้น ภาพจากกล้องหน้าจึงสว่างขึ้น

9. FM Radio

– มีวิทยุ ต้องเสียบหูฟังเป็นเสาอากาศ พร้อม Soundhound หาข้อมูล ชื่อเพลง ศิลปินจากเพลงที่ฟังได้

10. Battery life

– แบตขนาด 2,100 mAH นั้นถ้าใช้งานตามปกติก็อยู่ได้ 1 วันสบายๆ เช้ายันเย็น 

*ปรับความสว่างหน้าจอลงที่ประมาณ 30% ใช้งานโทรศัพท์ประมาณ 30 นาที เล่นเวบและโซเชียล 60 นาที ถ่ายรูปไปประมาณ 10 รูป เปิด data online ตลอดทั้งวันบน 3G

 

แน่นอนว่าผมก็เป็นคนนึงที่ใช้ One X มานานนม และรู้สึกชอบมันตั้งแต่แรกแล้วโดยเฉพาะดีไซน์ของมัน และปัญหาแรกที่มันจุกจิกกวนใจผมก็คือกล้องที่ถ่ายมาโครไม่ได้ จิ้มแล้วเด้งออกตลอด ไม่ยอมโฟกัส จนต้องถอยเอากล้องออกมาประมาณ 15 เซน มันถึงจะโฟกัสให้ -“- ซึ่งตรงนั้นมันก็ไม่ใช่การถ่ายมาโครแล้วคร้าบ . . แต่ใน One X+ มีการแก้ไขตรงนี้ให้แล้ว ถ่ายมาโครได้แจ่มๆ (ดูตัวอย่างจากภาพของกินและแก้วน้ำอัดลม) ซึ่งส่วนของภาพถ่ายนั้นดูเหมือนทาง HTC จะปรับลดค่า saturate ของภาพลง ตัดความจัดจ้านเกินจริงของสีสันออกไป มาเน้นเรื่องรายละเอียดและการลด noise ของภาพแทน ซึ่งก็ทำได้ดีขึ้นอยู่บ้าง

และอีกเรื่องที่กวนใจคือเสียงของลำโพงภายนอกที่ไม่รู้มันเบาเกินไป ด้วยความที่ได้ทดลองมือถืออยู่หลายยี่ห้อวนเวียนไปมา ก็มี One X นี่แหละที่เสียงเบาไปหน่อย และตรงนี้ก็ได้รับการแก้ไขแล้วด้วย เสียงลำโพงด้านหลังดังขึ้นในแบบที่รับได้ เปิดเพลงในห้องน้ำก็ไม่ต้องเงี่ยหูฟังแล้วครับ (แต่อันนี้ก็ไม่ได้ดังบ้านแตกแบบลำโพงของ Sony บางรุ่นนะครับ)

HTC One X ได้ปรับลงมาเหลือ 19,900 บาท ส่วนทางด้าน HTC One X+ นั้นก็ตั้งราคามาแทนที่คือ 21,900 บาท ซึ่งส่วนต่าง 2000 บาทนี่ผมต้องขอบอกว่าไปเล่น One X+ ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้ Android 4.1 Jelly Bean ทันทีเมื่อแกะกล่องแล้ว ยังมีเรื่องของความจุที่อัดมาเต็มพิกัด 64 GB และแบตที่เพิ่มขึ้นจาก 1,800 เป็น 2,100 mAh เรียกได้ว่าเอา One X ไปตีบวกมาให้เสร็จสรรพครับผม

 

จบแล้วครับ