ดีแทคเป็นผู้ริเริ่มในการผลักดันเส้นทางดิจิทัลสู่ประเทศไทยที่มีความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำสู่การเปลี่ยนผ่านและการพัฒนาทุกภาคส่วนในสังคม ผลักดัน 5G ปล่อยคลื่น 28GHz, EV แพลตฟอร์ม หวังใช้เป็นการเตรียมความพร้อมไทยรับมือการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลสู่อนาคตร่วมกับอาเซียน หลังประสบความสำเร็จตอบรับล้นหลามจากงาน “ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2019”

นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า “ดีแทคได้มุ่งมั่นกลยุทธ์ในการนำประเทศไทยเข้าสู่ดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและสังคมไทย โดยเฉพาะการเข้าสู่เทคโนโลยี 5G ที่จะต้องคำนึงถึงความสำคัญในการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ และอุตสาหกรรม ที่จะต้องปลดล็อกนำประโยชน์สู่ทุกภาคส่วนในประเทศ

ดีแทคได้เตรียมพร้อมในส่วนของเทคโนโลยี โดยเป็นผู้ให้บริการายแรกของไทยที่นำโครงข่ายระบบชุมสายเสมือน (Visualized Core Network: VCN) มาดำเนินงาน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดและรองรับการอัปเกรดใช้งาน 5G ได้ทันที นอกจากนั้นดีแทคยังได้ร่วมมือใกล้ชิดกับเทเลนอร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ได้รับมอบหมายจากสหภาพยุโรปในการบุกเบิก โครงการ 5G Verticals INNovation Infrastructure (5G-VINNI) ในยุโรป และได้ทดสอบการใช้งาน 5G ต่างๆ เช่น รถบัสแบบไร้คนขับ บริการ eHealth และฟาร์มเพาะเลี้ยงปลา

ดีแทคจะนำองค์ความรู้และประสบการณ์ต่างๆ มาพัฒนาต่อยอดสู่ประเทศไทยต่อไป นอกจากนั้น เพื่อปูทางสู่ 5G ดีแทคยังริเริ่มแพลตฟอร์มยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Platform) และเกษตรดิจิทัล ทั้งนี้ งานดิจิทัล ไทยแลนด์บิ๊กแบง 2019 เป็นการแสดงความพร้อมที่จะเชื่อมต่อทุกคนสู่เทคโนโลยีอนาคต”

สำหรับในการไม่หยุดพัฒนาและเชื่อมต่อสู่อนาคต รวมถึงในงาน “ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2019” ที่ผ่านมา ดีแทคได้นำเสนอด้วยแนวคิด ดังนี้

โซนเทคโนโลยี 5G (5G Network/Technology)

  • 5G บนคลื่น 28 GHz – ดีแทคนำ 5G มาเปิดใช้งานเพื่อโชว์ศักยภาพและให้ทุกคนได้สัมผัสการใช้งาน 5G แห่งอนาคต รวมทั้งตอบสนองพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดย 5G ที่ดีแทคนำมาเปิดสัญญาณทดสอบให้สัมผัสใช้งานจริงด้วยคลื่นความถี่ 28 GHz กับอุปกรณ์ 5G เพื่อทดสอบความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล และผู้สนใจจะสามารถได้ลองใช้จริง
  • ชุมสายเสมือนรองรับ 5G (Virtualized Core Network Virtualized Core Network หรือ VCN) รายแรกในไทย – ชุมสายแห่งอนาคตที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานบนคลาวด์ (cloud) และรองรับการใช้งาน 5G โดยทำให้การอัปเกรดโครงข่ายสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถปฏิบัติงานหลายอย่างได้ในคราวเดียวกันบนฮาร์ดแวร์ตัวเดิม ซึ่งสามารถรองรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าจะได้ใช้งานโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยดีแทคได้เป็นผู้ให้บริการรายแรกในไทยที่ยกระดับโครงข่ายสู่ VCN เรียบร้อย
  • 5G จากเทเลนอร์ การทดสอบที่ดีแทคพร้อมนำมาต่อยอดสู่ไทย – นำเสนอความสำเร็จจากเทเลนอร์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นของดีแทค และเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่สำคัญในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ยุโรปกลางและตะวันออก รวมถึงแถบเอเชีย โดยได้รับมอบหมายจากสหภาพยุโรปทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานให้กับโครงการบุกเบิกและเร่งผลักดันให้เทคโนโลยี 5G เกิดขึ้นทั่วทวีปยุโรป
    โครงการนี้มีชื่อเรียกว่า 5G Verticals INNovation Infrastructure (5G-VINNI) พร้อมทั้งยังเป็นผู้นำในการทดสอบ 5G ในรูปแบบต่างๆ เพื่อการใช้งานอุตสาหกรรมและประชาชน เช่น 5G เพื่อการเพาะเลี้ยงปลาแซลมอน (Fish Farming) หรือ การใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สายประจำที่ (Fixed Wireless Access หรือ FWA) เป็นต้น ล่าสุด เทเลนอร์ ยังเป็นโอเปอร์เรเตอร์รายแรกในนอร์เวย์ที่ปล่อยสัญญาณ 5G ในเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้ผู้ใช้บริการที่มีสมาร์ทโฟน 5G รองรับ สามารถใช้สุดยอดเครือข่ายกับสมาร์ทโฟนได้ในอีกไม่นานที่ เอลเวอร์รัม (Elverum)

โซนล้ำกว่าการเชื่อมต่อโลกไร้สาย (Beyond Mobile Connectivity)

  • dtac EV platform – ดีแทคจะนำคุณรู้จักกับสุดยอดเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม โดยดีแทคได้นำ dtac EV platform ซึ่งแพลตฟอร์มที่รวบรวมและสนับสนุนความต้องการที่หลากหลายสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ที่ยั่งยืนของยานพาหนะไฟฟ้าในเมืองไทย
  • dtac@Home การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในบ้าน – การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่จากดีแทคที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่เสถียรและไว้วางใจได้สำหรับบ้านและที่พักอาศัย เพื่อประสบการณ์ออนไลน์ที่ดียิ่งขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อ WiFi ที่เข้าถึงได้ทุกที่ในบ้าน โดยในอนาคตเมื่อเข้าสู่ยุค 5G บริการต่างๆ ของอินเทอร์เน็ตไร้สายในรูปแบบการให้บริการประเภทเดียวกันกับ dtac@Home จะเข้ามายกระดับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้กับที่พักอาศัย