DATC ตั้งโต๊ะเสวนาถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเข้าสู่ยุคการแข่งขันแบบดิจิตอลและความสำคัญของโครงข่ายระบบ 5G หรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่จะเป็นตัวเชื่อมที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น พร้อมทั้งผลักดันให้ทุกภาคส่วนหาแนวทางที่จะพัฒนาร่วมกันเพื่อตอบสนองก้าวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 อย่างเต็มตัว
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง CEO ของดีแทคขึ้นกล่าวถึงความสำคัญของการจัดเวทีสัมมนาในครั้งนี้ โดยอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เสียดายที่ว่าบางส่วนต้องมีการพัฒนาไปพร้อมๆกัน เช่น ปริมาณการใช้ข้อมูลที่มากขึ้นผลที่ตามมาคือการเกิด Big Data ซึ่งเจ้าตัวบิ๊กดาต้านี้ก็คือคอนเทนท์ของข้อมูลจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หรือการที่โลกกำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่การเป็น Internet of Things (IoT) เป็นต้น
โดยในงานนี้ยังมีผู้เชียวชาญด้านโทรคมนาคมที่คุ้นหูกันดีอย่าง สมาคมจีเอสเอ็ม ไอทียู ผู้ให้บริการอย่างหัวเว่ยและอีริคสันมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางของประเทศไทยว่าต้องมีการวางแผนจัดสรรคลื่นความถี่รองรับโครงค่าย 5G ซึ่งถือเป็นตัวแปรที่สำคัญที่จะทำให้ไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอลอย่างแท้จริง
ทำไมถึงต้องเป็น 5G เพราะจะได้เอื้อต่อประโยชน์หลายๆอย่างที่ได้รับจากการใช้โครงข่ายดังกล่าว เช่น การแทรกซึมเข้าไปยังกลุ่มธุรกิจแต่ละพื้นที่ การพัฒนาธุรกิจต่างๆให้อยู่ในรูปแบบดิจิตอล ความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูล แม้แต่กลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ที่ต้องการใช้ข้อมูลความเร็วสูง ฯลฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้ทาง DTAC เองมั่นใจว่าหากเรามีความพร้อมและการได้รับความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ยังรวมไปถึงกลุ่มบุคคลที่มีความสามารถและทรัพยากรต่างๆเอื้อต่อการพัฒนาในจุดนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยไปข้างหน้าแบบก้าวกระโดด
สิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุค 5G ก็คือการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานของระบบโทรคมนาคมให้มีความรวดเร็ว ต่อมาคือความมั่นคงหรือปลอดภัยด้านสารสนเทศ มีความน่าเชื่อถือ ข้อมูลข่าวสารกระจายไปยังทุกภาคส่วนและผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ทั้งหมดนี้ทำให้รูปแบบของธุรกิจค่อยๆเปลี่ยนแปลงจากค้าขายตามร้านกลายเป็นค้าขายแบบออนไลน์หรือดิจิตอลแทน
การตั้งโต๊ะเสวนาถึงความสำคัญและศักยภาพของประเทศไทยเมื่อให้บริการโครงข่าย 5G จากบุคคลจากองค์กรด้านโทรคมนาคม 5 ฝ่าย
การทดสอบตัวโครงข่ายสัญญาณ 5G ของบริษัท Telenor ที่ถือหุ้นดีแทคได้จับมือกับทาง Huawei ทำการทดสอบระบบการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงผ่านสัญญาณวิทยุในประเทศนอร์เวย์ได้ผลสำเร็จอย่างดี
ประเทศไทยเองเช่นกันควรเตรียมความพร้อมสู่นโยบายประเทศไทย 4.0 เพื่อที่จะพัฒนาให้ตามทันหลายๆประเทศและแนวโน้วของโลกที่คาดกันว่ากำลังจะเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 อย่างที่ได้บอกไปว่าทุกๆอย่างจะรวมร่างกันโดยใช้ตัวอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงเป็นตัวเชื่อมโยง ซึ่งก็คือตัว 5G นั้นเอง
ดีแทค จะไป 5G ด้วยคลื่น 2100 MHz อย่างเดียว ที่เหลือไม่สู้ประมูล
ดีแตก สัญญานใหม่ ( ทำไปได้ )
ไป 5G แล้วเหรอ ขับรถข้ามจังหวัด ภาคใต้ตอนบน สัญญาณขาดๆหายๆ จนจะย้ายค่ายหนีแล้วนี้ มาพัฒนาก่อนเถอะ
4G แกแรงเท่า 3G อยู่เลยจ้าา
จัดโชว์ระดมทุนหรอ
แหม่ ไม่ประมูล 4G แต่จะเร่งให้ไป 5G เงินถุงเงินถังอยู่ในมือ?
4G เอาให้ครอบคลุมก่อนดีกว่าไหม
จะรีบโจนทะยานไปไหนกัน ทำไมไม่ทำของที่มีอยู่ให้ดีก่อนละท่าน.