Huawei เปิดตัว EMUI 10 ภายในงาน Huawei Developer Conferrence เตรียมพร้อมปล่อยให้อัพเดทเวอร์ชั่น Beta ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยจะเริ่มจากซีรีส์ P30 ก่อน และจะเริ่มทะยอยปล่อยให้รุ่นอื่นๆ หลังจากนั้น ส่วนความเปลี่ยนแปลงใน EMUI 10 จะมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ..

UI ดีไซน์ใหม่ รูปแบบนิตยสาร

EMUI 10 เปลี่ยนการออกแบบหน้าตาการใช้งานใหม่ให้น่าสนใจ และสบายตากว่าเดิม โดยได้แนวคิดจาก Layout ของนิตยสาร ไม่ว่าจะเป็นการไฮไลท์สีของหัวข้อเมนู และปุ่มต่างๆ ด้วยสีสไตล์ Morandi Color ซึ่งเป็นสีที่ออกโทนอ่อนๆ สบายตา ไม่ฉูดฉาด หรือสีโดดขึ้นมาจากสีรอบข้าง

มีการเว้นช่องว่างที่เป็นสีขาวระหว่างหัวข้อ หรือบรรทัดมากขึ้นไม่ให้ดูอึดอัดสายตา โดยใช้ดีไซน์แบบการจัดวางหน้าในนิตยสาร พื้นที่ส่วนบนจะดึงดูดสายตาได้ดีที่สุด ถัดมาคือตรงส่วนกลางของหน้า และสุดท้ายคือบริเวณด้านล่าง

นอกจากนี้การวาง Layout แบบใหม่ยังทำให้การใช้งานมือถือด้วยมือข้างเดียวสะดวกกว่าเดิมด้วย

Animation บนหน้าจอที่ดูลื่นไหล และตอบสนองดีกว่า

Animation ที่ปรากฎบนหน้าจอของ EMUI 10 จะมีการเคลื่อนไหวที่ทำให้ดูว่ามันมีการตอบสนองกับการสั่งงานมากขึ้น อย่างเช่น ปกติเวลาเรากดเลือกแอปเพื่อจะเปิดใช้งาน ไอคอนแอปดังกล่าวก็จะแค่เปลี่ยนเป็นสีที่หม่นลง จากนั้นแอปก็จะเปิดขึ้นมา แต่ใน EMUI 10 เวลาที่เรากดไอคอนหรือเมนู มันจะให้ความรู้สึกว่าเรากดโดน เพราะไอคอนนั้นจะหดลงไป เหมือนกับมันติดสปริงเด้งได้ตามแรงกดประมาณนั้นเลย

การใช้นิ้วลากหน้าต่างแอปเพื่อปิดหรือสลับแอป คราวนี้ก็จะมีการเคลื่อนไหวที่เป็นจริงตามหลักฟิสิกส์มากขึ้น อย่างเช่นการปัดหน้าต่างแอปไปทางซ้าย มันก็จะพุ่งไปทางซ้ายตามแรงปัดของเรา ปัดแบบไซด์โค้งหน่อยๆ มันก็จะไปตามนั้นโดยคำนวณทิศทางจากแรงของนิ้วเราว่ามันควรจะเคลื่อนไปทางไหน รวมถึงความเร็วในการเคลื่อนที่ก็จะเป็นไปตามแรงปัดของเราเอง

Animation Transition หรือการเคลื่อนไหวเวลาเปลี่ยนหน้าแอปก็จะมีการตอบสนองที่ดีขึ้น เปลี่ยนหน้าแอปเร็วขึ้น ส่วนการตอบสนองเวลาสัมผัสหน้าจอจะลดความหน่วงลงเหลือเพียง 100-130 มิลลิวินาที เท่านั้น

Always on Display ภาพพักหน้าจอแบบใหม่

ใน EMUI 10 ได้มีการเพิ่มภาพพักหน้าจอ Always on Dislay ใหม่ๆ เข้ามาให้ได้เลือกใช้กันมากขึ้น แถมยังโหมดจับคู่ภาพ Always on Display ให้เป็นแบบเดียวกันกับหน้าปัดสมาร์ทวอทช์ของ Huawei ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ทั้งตัวเลขและตัวหนังสือที่บอกวัน / เวลา ยังสามารถเปลี่ยนสีตามช่วงเวลาของวันได้แบบอัตโนมัติ อย่างเช่นช่วงรุ่งสางตัวเลขก็จะออกสีฟ้านิดๆ พอถัดมาเป็นช่วงโพล้เพล้สีก็จะเริ่มกลายเป็นสีน้ำเงินแทน

UI กล้องดีไซน์ใหม่

แม้แต่หน้าตาของแอปกล้องก็ยังได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นแถบซูมทางด้านขวาที่คราวนี้เปลี่ยนเป็นเส้นจุดไข่ปลาให้ดูได้ง่ายๆ ว่าไถไปทางไหนถึงจะซูมเข้า ทางไหนซูมออก

โหมดถ่ายรูปปกติ (Photo) เพิ่มตัวเลือกในการใส่ฟิลเตอร์ของภาพมาให้ถึง 12 แบบ จากเดิมที่มีแค่ Standard, Vivid Colors และ Smooth Colors เท่านั้น

Dark Mode ที่ใช้ได้กับแอป Third Party

ถือเป็นฟีเจอร์ที่หลายๆ คนรอคอย เนื่องจากฟีเจอร์ Dark Mode จะทำให้สายตาของเราไม่ล้าจากการจ้องหน้าจอที่มีความสว่างมากเกินไปจากพื้นที่แสดงผลที่เป็นสีขาว เนื่องจากโหมดนี้เมื่อเปิดใช้แล้วจะสลับการแสดงผลให้พื้นหลังกลายเป็นสีดำหรือสีเทา แล้วเปลี่ยนตัวอักษรให้กลายเป็นสีขาวแทน

ส่วนที่พิเศษกว่าก็คือ Dark Mode ใน EMUI 10 จะสามารถใช้งานได้กับแอปอื่นๆ ที่ไม่มี Dark Mode ในตัวได้ด้วย โดย EMUI 10 จะใช้การแยก UI ของแอป Third Party เหล่านั้นออกเป็นชั้นๆ เพื่อเปลี่ยนสีของพื้นหลังชั้นแรก, พื้นหลังชั้นที่สอง, ไอคอน, ตัวหนังสือ ฯลฯ ให้ออกมาเหาะสมกับการแสดงผลมากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดอาการแสดงผลเพี้ยน เช่นสีของไอคอนไปทับกับสีของพื้นหลังเป็นต้น

EMUI 10 จะเริ่มปล่อยเวอร์ชั่นทดลอง (BETA) ให้กับมือถือในซีรีส์ P30 ก่อน ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2019 เป็นต้นไป และหลังจากนั้นจะเริ่มทะยอยปล่อยอัพเดทให้กับ Mate 20, Mate 20 Pro, Mate 20 RS Porsche Design, Mate 20 X และรุ่นอื่นๆ ตามที่เคยมีประกาศออกมาก่อนหน้านี้ครับ