เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะได้เห็นเหตุการณ์เล่นท่ายากกับปากกา S Pen ของ Samsung Galaxy Note 5 กันมาบ้างแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เกิดจากการที่มีคนสงสัยว่า “ถ้าใส่ปากกา S Pen กลับด้านจะเป็นอย่างไร?” คำตอบคือ “ติดครับ” มันติดเอาไม่ออกจริงๆ ทางทีมงาน Droidsans ก็ได้ทดสอบให้ดูกันไปแล้วด้วย ว่ามันติดจริง ไม่ได้โกหก “แต่มันติดได้ยังไงกันนะ?” วันนี้เรามาดูกันดีกว่าครับว่าเจ้า S Pen ของ Galaxy Note 5 เมื่อใส่กลับด้านแล้วมันติดได้ยังไง
*คำเตือน* ไม่ควรแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กรุณาส่งเข้าศูนย์ Samsung อย่างเดียวครับ
งานนี้ต้องขอขอบคุณทางด้าน uBreakiFix และ 9to5Google ที่ได้ทำการแกะเครื่อง Galaxy Note 5 ออกมาให้เราได้ดูกันว่า S Pen เจ้าปัญหานี้มันเข้าไปติดได้ยังไงครับ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า กันไว้ดีกว่าแก้ นะครับ ติดแล้วต้องแงะออกไม่คุ้มกันเด้อ คู่มือเค้าก็บอกไว้แล้วว่าห้ามนะครับ
เอาเป็นว่าเรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามันติดได้ยังไงกันแน่ เมื่อเปิดฝาหลังของ Galaxy Note 5 ออกมาดูช่องที่เสียบปากกา S Pen จะเห็นได้ว่ามี ตัวล็อคอยู่ 2 ตัวด้วยกัน (ตามรูปเขียนว่า lever ที่แปลว่า คาน แต่ผมขอเรียกว่า ตัวล็อค ละกันนะครับ) โดยที่ ตัวล็อค 1 จะมีหัวเซนเซอร์ที่เป็นพลาสติก จะอยู่ประมาณ 3 ใน 4 ของระยะทางจากปากรู ซึ่งทำหน้าที่ในการตรวจสอบว่า S Pen นั้นถูกเสียบอยู่หรือไม่ แต่จุดนี้ไม่ใช่ที่จะทำให้ปากกา S Pen นั้นติดนะครับ ต้องดันลึกเข้าไปอีก
ตัวล็อค 2 นี่แหละครับที่เป็นตัวเจ้าปัญหา โดยมันจะอยู่เลย ตัวล็อค 1 ขึ้นไปอีก ซึ่งทำหน้าที่ในการล็อคปากกา S Pen ถ้าหากว่าเราดูที่หัวของปากกา S Pen จะเห็นได้ว่ามันมีรอยบากอยู่ทั้ง 2 ข้าง ทำให้เราเสียบด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ครับ แต่ถ้าเกิดว่าเรานำ S Pen ด้านที่สามารถกดเล่นได้ใส่เข้าไปลึกถึงตัวล็อค 2 พอดี มันก็จะถูกล็อคเอาไว้ และดึงย้อนกลับมาไม่ได้ครับ
“แล้วจะแก้อย่างไรละทีนี้?” ตามที่ทาง uBreakiFix บอกก็คือ ถ้าจะเข้าไปจัดการกับช่องเสียบ S Pen ได้ ต้องเอา S Pen ออกให้ได้เสียก่อน… “แต่มันติดอยู่นะ จะเอาออกได้ยังไง?” อันนี้ก็ต้องพยายามละครับ อาจจะต้องใช้แรงหรือมุมที่ถูกต้องในการดึงส่วนที่กดได้ที่ติดอยู่กับ ตัวล็อค 2 ออกมา ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆ เลย
เมื่อเราผ่าน ตัวล็อค 2 มาได้ ก็จะเจอกับปัญหาต่อมา นั้นก็คือต้องดึงผ่าน ตัวล็อค 1 ซึ่งมีเซนเซอร์ที่เอาไว้ตรววจจับ S Pen เป็นแบบพลาสติก และถ้าดึงย้อนกลับมาเจ้าเซนเซอร์ก็จะหักทันที ซึ่งถ้าหักปุ๊บ เครื่อง Galaxy Note 5 จะไม่สามารถบอกได้ว่าปากกา S Pen นั้นยังเสียบอยู่หรือถอดออกไปแล้ว และจะทำให้ไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นของ S Pen อย่าง Screen-off memo หรือ Air-command ได้ครับ
รูปซ้าย: เซนเซอร์พลาสติกหักไปแล้ว / รูปขวา: เส้นสีแดงแสดงให้เห็นถึงรูปของเซนเซอร์แบบที่ควรจะเป็น
ถ้าเกิดใครลองเสียบกลับด้านไป แล้วเอาไม่ออก ก็ส่งศูนย์ Samsung อย่างเดียวเลยครับ อย่าพยายามดึงออกเองเป็นอันขาด แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับ อย่าทำให้ชีวิตยุ่งยากเลย อย่าเสียบกลับด้านเลยครับ
ที่มา: 9to5Google
เดี๋ยว note 6 คงแก้ให้ใส่ได้ทั้งสองด้าน 55+
Note5 มีข่าวทุกวันเลย Samsung จัดแคมเปญหนักจริงๆ
อืมม์ ถ้าการใช้งานปกติ censor ตัวนี้จะทนรับการเอาเข้าเอา/ออก ได้สักกี่ครั้งครับ?
10,000 ครั้งถึงไหม?
คือเซนเซอตรวจจับปากกามันมีมาตั้งแต่ note2 ละครับ ถ้ามันจะพังง่ายคงได้เห็นข่าว note2 3 4 เซนเซอร์พังใช้ปากกาไม่ได้บ้างหล่ะ
ถ้าทำตรงหัวกดให้กว้างซักนิด ก็เสียบไม่เข้าแล้ว … ขยันแต่ซอยรุ่น ทดสอบผลิตภัณฑ์แค่ลวกๆ
สำหรับคนขี้ลืม วิธีแก้ง่ายๆให้ไปฝนด้านในตรงปลายปากกาด้านในให้มันเอียงนิดหนึ่ง มันจะได้ดึงออกได้
สุดยอดไอเดียเลยครับ
ว่าแล้วก็ลองเสียบผิดด้านดู…เอ๊ะเข้านิ
อ่อเรา Note4 #กรอกตา #ชนะใสๆ
อ้าว รุ่นเก่าไม่ติดแฮะ
มีลูกมีเต้าข้ามรุ่นนี้ไปเลย ได้ทะเลาะกะลูกแน่นอนถ้าซื้อมา
แหม ยังงี้เค้าเรียกฟีเจอร์เงี่ยงปลาดุก
ต้องออกแบบให้ตรูดใหญ่กว่านี้ยัดไม่เข้า
เห็นด้วย เพราะลองใน Tab A ตูดใหญ่ใช่ปัญหาจริงๆ
เรียกติด sulcus coronarius ครับ
จริงๆ แก้ง่ายนิดเดียวเอง ทำไม ss คิดไม่ออกนะ แค่ บาก ตรงปุ่มกดที่ปากกา เพื่อหลบเขียวล๊อคด้านใน ทั้งสองข้าง ก็ไม่เจอปัญหาและ ถ้าใส่ผิด
โน๊ต 5 มีปัญหาเสียบปากกาผิดด้านเอาออกไม่ได้ คือ ถ้ามีคนเอาโน๊ต 5 ยัดรูทวาร แล้วเอาออกไม่ได้ มันเป็นเพราะโน๊ต 5 มีปัญหารึป่าว งงครับ
จากลักษณะของปากกาแล้ว ผมว่าเอากระดาษทรายขัดๆ ฝนๆ ปลายตูดตรงส่วนในปากกาที่เป็นเหลี่ยมมุม ให้มีมุมเอียงเพิ่มขึ้น มันก็น่าจะทำให้แง่งล็อกถูกดันหลบได้ง่ายๆ แล้วหละ แต่คิดว่าคงไม่มีใครทำ เพราะคิดว่า ถ้าทำมันจะหมดสวย เนื่องจากสีเงินที่เคลือบอยู่ ได้ลอกจากการขัดแน่ๆ
แต่ถึงแม้ Note5 จะดีเพียงใด ก็ไม่อยุ่ในสายตาผม ใส่แบตก็ไม่ได้ ใสเม็มก็ไม่ได้ กระจกก็เป็นรอยนิวมือโคตรง่าย ผมไปลองดูที่ Shop Samsung นะ รอยนิ้วมือใครต่อใครเพียบ! แถมยังมีข้อผิดพลาดเรื่อง S PEN อีก ต่อให้ดีแค่ไหน เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี ก็เป็นได้แค่โทรศัพท์ที่มีตำหนินั่นแหละ และเมื่อผ่านไปอีกหน่อย เป็นสัก 2 ปี ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เป็นพิษก็จะเริ่มมีมากขึ้น เมือสกับที่ใน Club Note 2 เป็นกัน จนต้องถามและแนะนำให้เปลี่ยนแบตกันเป็นระนาว …คนที่เปลี่ยนมือถือบ่อย ประมาณว่า เปลี่ยนกันปีต่อปี หรือหนักหน่อยเปลี่ยนแบบทุกไตรมาตร คงไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้หรอก
วางยาไว้แล้ว
แผงวงจรทำได้หน้าเกลียดมาก
ดูรู้เลยว่าไม่ใส่ใจ อะไร เลย
เทียบกับ ค่ายคู่แข่งไม่ได้เลย