สวัสดีเพื่อนสมาชิกชาว droidsans ทุกคนนะครับ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อเข้าร่วมงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวใหม่ของทาง Meizu ที่มีขื่อว่า Nokia 1110 เอ้ย! ไม่ใช่ นั่นมันบัตรเชิญ แต่จริงๆแล้วเป็นงานเปิดตัว Meizu m2 สมาร์ทโฟนราคาประหยัดตะหากละครับ ผมก็ได้เก็บภาพบรรยากาศภายในงานและตัวเครื่อง m2 มาให้ทุกท่านได้ดูกันครับ
ก่อนอื่นต้องบอกวิธีอ่านชื่อก่อนนะครับ Meizu อ่านว่า “เหม้ยจู๋” อย่าคิดลึกนะครับ 😛 เข้ามาก็มีลงทะเบียนแจกเสื้อให้กับเหล่าแฟนคลับด้วย จะแอบขอซักตัว แต่ไม่มีเหลือเลย T.T
ภายในงานก็เต็มไปด้วยเหล่าสื่อมวลชนและแฟนคลับของทางด้าน Meizu ที่มากันอย่างมากมายคับคั่ง ซึ่งงานนี้เป็นงานภาษาจีนล้วน แต่ก็ยังโชคดีที่มีเครื่องช่วยแปลภาษาให้ฟัง ไม่งั้นผมคงนั่งงงแน่นอนครับ 555
ก่อนงานเปิดตัวก็เริ่ม ก็มีศิลปินของจีนมาแสดงก่อนถึง 2 วงด้วยกัน เห็นเค้าบอกว่าวงที่สองดังมาก ท่าเต้นนี้เต้นกันได้ทั่วบ้านทั่วเมืองเหมือนกับเพลงหญิงลี ยังไงยังงั้นเลย
หลังจากฟังเพลงกันอย่างสนุกสนาน งานก็เริ่มขึ้นครับ ทาง CEO ของ Meizu ก็ขึ้นมาพูดถึง m2 สมาร์ทโฟนตัวหลักในงานนี้ โดยบอกว่า m2 นี้ได้ทำออกมาเพื่อตอบสนองกับสิ่งที่วัยรุ่นที่กำลังมองหาในสมาร์ทโฟนเครื่องแรกอยู่ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายเซลฟี่ การเล่นเกม และการใช้งานมือเดียว
นอกจากนี้ก็ยังมีการข่มสมาร์ทโฟนจากเจ้าอื่น อย่าง Xioami Redmi 2 ด้วยการแสดงผล benchmark จาก AnTuTu เปรียบเทียบกันอีกด้วย และบอกว่าคะแนนจากการทดสอบนั้นได้พอๆกับ Samsung Galaxy S4 เลย
ดูภาพในงานมาเยอะแล้ว มาดูเจ้า m2 กันบ้างดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้างครับ เริ่มจากสเปคต่างของเจ้า m2 ก่อนเลยละกัน
- OS: Android 5.1 Lollipop with Flyme 4.5
- หน้าจอ: IPS LCD 5นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล
- CPU: MediaTek MT6735 Quad-core 1.3GHZ 64-bit
- GPU: Mali T720
- RAM: 2GB
- หน่วยความจำภายใน: 16GB รองรับ microSD สูงสุด 128GB
- กล้องหลัง: 13ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า: 5ล้านพิกเซล f/2.0
- การเชื่อมต่อ:
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n
- Bluetooth 4.0 (รองรับ BLE)
- รองรับ 4G LTE
- รองรับ 2 Nano-SIM (SIM 2 แชร์ช่องกับ microSD)
- แบตเตอรี่: 2,500mAh
- สัดส่วน: 140.1 x 68.9 x 8.7 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก: 131 กรัม
- สี: ขาว/เทา/ฟ้า/ชมพู
รูปร่างหน้าตาของ m2 จะเหมือนกับ m2 note ไม่มีผิดเลยครับ เพียงแต่ปุ่มพาวเวอร์และปุ่มเพิ่มลดเสียงอยู่คนละข้างกันเท่านั้น มุมทั้ง 4 ด้านโค้งนิดๆ หน้าจอของเครื่อง m2 มีขนาดอยู่ที่ 5นิ้ว ความละเอียด 720p แสดงสีได้ค่อนข้างดี แต่ไม่ได้ว้าวอะไรมากมาย แต่ก็เหมาะกับราคาครับ
มองขึ้นมาด้านบนก็จะเห็นลำโพงสนทนา เซนเซอร์รับแสง และ กล้องหน้าขนาด 5MP รูรับแสง f/2.0
ด้านล่างก็จะมีปุ่ม Home เพียงอย่างเดียว แต่ปุ่ม Home นี้ก็ทำหน้าที่เป็นปุ่ม Back ด้วย โดยการจะใช้งานเป็นปุ่ม Back นั้นก็เพียงแค่แตะที่ปุ่ม และหากอยากใช้เป็นปุ่ม Home ก็กดเอาครับ แต่ไม่มีตัวสแกนลายนิ้วมือนะ
ส่วน Recent Apps ก็ต้องลากขึ้นจากด้านข้างของปุ่ม Home ซึ่งสามารถลากได้จากทั้งด้านซ้ายและด้านขวาครับ
วัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกผิวเรียบ ไม่มีลวดลายใดๆ ไม่ได้พรีเมี่ยม แต่ก็ประกอบได้แน่นหนาดี ขอบข้างมนนิดๆ ไม่ได้เป็นแท่งเหลี่ยมๆ
กล้องหลังขนาด 13MP รูรับแสง f/2.2 นั้นเรียบไปกับฝาหลังเลย ไม่นูนออกมา แฟลชจะอยู่ถัดลงมา ด้านล่างก็เป็นโลโก้ของ Meizu ครับ
ที่ใส่ nanoSIM และ microSD การ์ดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง โดยที่ SIM 2 จะแชร์ช่องกับ microSD การ์ดนะครับ ต้องเลือกว่าจะใส่อันไหน แต่ที่น่าสนใจคือ สามารถใช้งาน 4G ได้พร้อมกันได้ทั้ง 2 SIM เลยครับ
ด้านขวาก็จะมีปุ่มเพิ่มลดเสียง และถัดลงมานิดหน่อยก็จะเป็นปุ่มพาวเวอร์ ที่อยู่ในตำแหน่งพอดีกับนิ้ว
ด้านบนมีแค่รูเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร เท่านั้นครับ
ลำโพง ช่องเสียบ microUSB 2.0 และ รูไมโครโฟนจะอยู่ด้านล่างของตัวเครื่องครับ
m2 นั้นมาพร้อมกับ Android 5.1 Lollipop เลย แต่จะมี Flyme OS เวอร์ชั่น 4.5 ครอบไว้อีกทีครับ ซึ่งก็ตามสไตล์พี่จีน คือไม่มี App drawer นั่นเอง
หน่วยความจำภายใน 16GB เปิดมาจะเหลืออยู่ประมาณ 9GB กว่าๆ แต่ยังดีที่สามารถใส่ microSD ได้ถึง 128GB ครับ
กล้องหลังของ m2 ก็มีอยู่หลายโหมดด้วยกันครับ อย่าง manual, beauty, panorama, light field, scan และ slow motion ครับ แต่กล้องหน้าไม่มีโหมดอะไรให้เล่นมากมายนัก มีแค่ให้เลือกใส่ filter เท่านั้นครับ
ใส่รูปบัตรเชิญซะหน่อย
ตอนนี้ทาง Meizu ก็ได้ทำการเปิดให้จอง m2 ในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ โดยมีราคาอยู่ที่ 559หยวน หรือ ประมาณ 3,400บาท เท่านั้นเองครับ และจะเริ่มวางขายจริงในวันที่ 3 สิงหาคม นี้ ส่วนจะเข้าบ้านเราหรือไม่นั้นยังไม่มีกำหนดครับ แต่คาดว่าเดือนหน้าคงได้เห็นรุ่นพี่อย่าง m2 note เข้ามาอย่างเป็นทางการอย่างแน่นอนครับ
Specกับราคาแบบนี้ อยากให้ขายในไทยบ้างจัง
ไอ้เราก็นึกว่าจะประกาศเป็น partner กับ nokia
เห็นขายถูกสุด PreSell
สีชมพู 134.99 usd = 4,724.65 thb
ฟ้า ขาว เทา จะอยู่ที่ 143.99 usd = 5,039.65
1 usd ประมาณ 35 thb
ส่ง DHL อีก ประมาณ 9 usd
ถ้า spec นี้ ราคานี้ K3 Note เครื่องนอกน่าสนกว่าเยอะ 159-165 usd test antutu 40000 up เดี๋ยวนี้ตัวส่งนอก มาพร้อม รอม อินเตอร์ มี google play เหมือนตัวขายอินเดีย แล้ว
แต่อย่างว่าแหล่ะ ราคาขายบ้านเค้า กับราคาเอามาขายนอกประเทศ ต้องทำใจ ใครซื้อในจีนได้ ก็ถูกไป แต่ หารอมอัพกัน เหนื่อยหน่อยช่วงแรกๆ
http://www.geekbuying.com/item/MEIZU-MEILAN-2-5-0inch-4G-FDD-LTE-Flyme-4-5-2GB-16GB-Smartphone-64bit-MT6735-Quad-Core-13-0MP-5-0MP-Miracast—Pink-350361.html
อ่านมาก็เฉยๆนะ มาสะดุดตรงคำนี้
"สามารถใช้งาน 4G ได้พร้อมกันได้ทั้ง 2 SIM เลย"
ถ้าใช้ 4G ในบ้านเราได้ครับ ซื้อใช้เลยครับ ราคานี้
อันนี้สนใจสุดๆ " สามารถใช้งาน 4G ได้พร้อมกันได้ทั้ง 2 SIM เลยครับ" ข้อมูลถูกต้องใช่หรือไม่ครับ หามานานมากแล้ว ขายแพงกว่านี้ก็ซิือนะ
นางแบบผอมไปนิดนึงครับผม
มีใครเอาเข้าไทยไหมครับ
ในเว็บ Meizu แจ้งว่าใช้ CPU : MT6735 อะครับ ..ไม่ใช่ MT6753
สนใจตรงที่ 4G ทั้ง 2 sim เช่นกันครับ
โอ้ ผมพิมพ์เองครับ แก้เรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณมากครับ 😀
เข็ดแล้วมือถือจีน
Hardware ดี Spec เทพแต่ Rom ห่วยมาก Driver แย่
ยิ่ง Meizu Lock Bootloader ใข้ได้เฉพาะ Rom ตัวเอง
Rom ออกเดือนละครั้ง Beta with bug ทุกรอบ คนใช้หนีไปไหนไม่ได้ รออย่างเดียว
ง่ายๆ ในห้องนอน MX4pro WiFi สัญญาณอ่อนแทบไม่วิ่ง แต่ใช้ Z Ultra WiFi สัญญาณเต็ม
ปัญหาอีกอย่างคือ การจับสัญญาณ 3G/4G อย่างในพื้นที่ที่สัญญาณ 4G อ่อนเครื่องจะswitch ไปจับ 3G แต่ในoffice MX4pro จะSwitch จับสัญญาณทันที แม้ในขณะใช้สาย และอยู่ที่โต๊ะ ผลคือสายหลุดตลอด แต่Z Ultra ไม่เป็น ในoffice เหมือนกัน
ปัญหาอีกอย่างคือ ถ้าใช้ Data ในพื้นที่สัญญาณอ่อน เช่น ในลิฟท์ สัญญาณData จะค้าง แม้กด icon data เปิดปิดสัญญาณก็ไม่หาย ต้อง Restart เครื่องจึงจะใช้ Data ได้ ซึ่งน่ารำคาญมากกก
ยังไม่รวมปัญหา GPS นำทางได้ห่วยอีก จับตำแหน่งหมุนทิศผิดตลอดอีก
เฮ้อ มือถือจีน พอกันที
ล็อคอินมาขอบคุณเลยครับ อ่านปุ๊ปฉุกคิดเลย
ราคาถูกมาก
นอกเรื่องนะครับ
ภาพที่ 2 คอผู้ชายนี้แบบว่า…..เป็นจ้ำ เลยนะ 555