เนื่องจากใบขับขี่ 5 ปี ของผมกำลังจะหมดอายุช่วงปลายเดือนนี้แล้ว เลยเข้าไปหาข้อมูลกันหน่อยว่าการต่ออายุใบขับขี่ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง…ก็พบว่าเดี๋ยวนี้กรมการขนส่งทางบกเค้าทันสมัยขึ้นแล้วนะ เพราะตอนนี้เราสามารถดูวิดีโออบรมออนไลน์อยู่ที่บ้านได้เลย แถมยังสามารถจองคิวเข้าไปขอทำเรื่องต่ออายุจากแอป DLTSmartQueue ได้ง่าย ๆ อีกด้วย

จากที่ผมเคยไปต่อใบขับขี่มาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นยังต้องเข้าไปที่สำนักงานขนส่งเพื่อนั่งดูวิดีโออบรมเป็นชั่วโมง เสร็จแล้วก็ทดสอบสมรรถภาพร่างกายนิดหน่อย ถึงจะออกใบอนุญาตขับรถใหม่ได้ แต่ตอนนี้การต่ออายุใบขับขี่สะดวกขึ้นกว่าเดิมแล้วเพราะเราสามารถดูวิดีโออบรมการขับรถจากที่ไหนก็ได้แล้ว ขอแค่มีเน็ตพร้อมมือถือ แทบเล็ต หรือ PC เป็นพอ ทำให้ประหยัดเวลาในการไปติดต่อที่สำนักงานขนส่งได้เป็นชั่วโมง ๆ เลยล่ะ

นั่งอบรมอยู่ที่บ้านก็ได้ ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง

สำหรับการดูวิดีโออบรมออนไลน์แบบ e-Learning ก่อนอื่นให้เข้าไปที่เว็บไซต์ dlt-elearning ซะก่อน จากนั้นก็กดที่ ลงทะเบียน เพื่อเข้าสู่หน้าต่อไป ถ้าเป็นผู้ใช้งานใหม่ก็ต้องลงทะเบียนกันก่อนนะครับ ไม่มีอะไรมากก็แค่กรอกเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และวันเดือนปีเกิดครับ

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะต้องเลือกการอบรมที่เราต้องการจะไปต่ออายุใบขับขี่ มีทั้ง

  • ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) ระยะเวลาอบรม 1 ชั่วโมง
  • ใบอนุญาตขับรถขนส่ง (ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถส่วนบุคคลชนิดที่ 1-4, ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 1-4) ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง
  • ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) ขาดต่ออายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง
  • ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราว สิ้นอายุเกิน 3 ปี (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) สิ้นอายุเกิน 3 ปี ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง
  • ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง

สำหรับวิดีโออบรมทั้งหลายไม่ใช่ว่าเราต้องดูพรวดเดียวจบ 1 – 3 ชม. นะครับ แต่มันจะแบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละประมาณ 15 นาที คือหากดูค้างไว้ช่วงไหนแล้วติดธุระขึ้นมา ก็กลับมาดูต่อช่วงเดิมได้ (แต่ต้องเริ่มดูตั้งแต่ตอนเริ่มต้นของช่วงนั้น ๆ ครับ)

 

เปิดวิดีโออบรมทิ้งไว้เฉย ๆ ไม่ได้นะ

เห็นแบบนี้แล้วอย่าคิดโกงอบรมด้วยการเปิดวิดีโอทิ้งไว้เฉย ๆ นะครับ (ลองมาแล้ว 5555) เพราะหากว่าเราสลับหน้าจอไปทำอย่างอื่น หรือแม้แต่กดไปดูแท็บอื่น วิดีโอจะหยุดเล่นทันที ต้องกลับมาที่หน้าจอการอบรมแล้วกด Play ถึงจะดูต่อได้ครับ

ถ้าเปลี่ยนไป Tab อื่น หรือ Minimize จอนี้ วิดีโอจะหยุดเล่นทันที

หรือใครคิดว่าจะเปิดวิดีโอทิ้งเอาไว้เฉย ๆ ปิดเสียงแล้วนั่งเล่นมือถือ หรือทำอย่างอื่นก็ไม่ได้เหมือนกัน (อันนี้ก็ลองให้แล้วจ้า 555) เพราะระหว่างดูวิดีโออบรมจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่เราอบรมอยู่ ซึ่งเราจะต้องกดตอบคำถามให้ถูกต้องภายในเวลา 3 นาทีครับ แต่ถ้าตอบผิดก็ไม่ต้องห่วงนะ เพราะมันไม่ใช่การทดสอบใบขับขี่นั่นเองครับ

และหลังจากที่ดูวิดีโออบรมครบหมดแล้วจะมีคำถามทบทวนขึ้นมาให้เราตอบอีกรอบนึงด้วย ซึ่งก็คือคำถามเดิมจากคลิปที่เราดูไปแล้วนั่นแหละ

ต้องตอบคำถามภายใน 3 นาที แต่ถ้าตอบผิดก็ไม่เป็นไรนะ

เมื่อเราดูวิดีโออบรมจนครบและตอบคำถามได้ถูกต้องหมดแล้ว ก็จะได้หลักฐานผ่านการอบรมเป็น QR Code ให้เรานำไปยื่นที่สำนักงานขนส่งว่าเราอบรมเรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ โดยหลักฐานดังกล่าวจะมีอายุ 6 เดือนนับตั้งแต่ผ่านการอบรมนะครับ

จองคิวต่ออายุใบขับขี่ผ่านแอป DLTSmartQueue

หลังจากอบรมผ่านเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาจองคิวเพื่อเข้าไปรับการตรวจสมรรถภาพร่างกาย และต่ออายุใบขับขี่ โดยเราสามารถจองคิวผ่านแอป DLTSmartQueue ได้ทั้งระบบ Android และ iOS หรือจะจองผ่านเว็บไซต์เอาก็ได้ครับ

DLT Smart Queue
DLT Smart Queue
Register QR-Code
DLT Smart Queue
Developer: Department of Land Transport Thailand
Price: To be announced

สำหรับขั้นตอนการจองคิดก็ไม่มีอะไรยาก แต่อาจจะหลายขั้นไปหน่อย เพราะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เลือกสำนักงานขนส่งที่ต้องการ > เลือกประเภทเข้ารับบริการ > เลือกประเภทยานพาหนะ > ระบุวันหมดอายุของใบอนุญาต > เลือกประเภทงาน (อันนี้อย่าลืมดู ถ้าเราอบรม e-Learning แล้ว ก็ต้องเลือกแบบนั้นด้วยนะครับ)

อย่าลืมเลือกที่เป็นการอบรมแบบ e-Learning ด้วยนะครับ

จากนั้นก็เลือกวันจองคิวเพื่อเข้าไปติดต่อกันได้เลย…ซึ่งตอนนี้บอกเลยว่าคิวยาวเหยียดไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนู่นเลยจ้า (แต่ไม่ต้องห่วงเพราะหลักฐานการอบรม e-Learning เก็บได้ยาวถึง 6 เดือนนั่นเองครับ ไม่ต้องมานั่งดูใหม่อีกรอบ…)

ตอนนี้สำนักงานขนส่งในกรุงเทพคิวยาวไปจนสิ้นเดือนสิงหาคมเลยจ้า

ต้องบอกว่าการจองคิวผ่านแอปเพื่อเข้ารับบริการจากสำนักงานขนส่งตอนนี้เป็นสิ่งจำเป็นนะครับ เพราะหากอยู่ ๆ เดินเข้าไปขอทำเรื่องที่สำนักงานเลยก็มีสิทธิ์สูงมากที่จะโดนให้กลับมาจองคิวในแอป ส่วนนึงเพื่อเป็นการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ด้วยนั่นเองครับ