เกิดกรณีการโกงฮาร์ดแวร์ขึ้นอีกครั้งในตลาดออนไลน์ เมื่อผู้ใช้รายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่าได้ซื้อหน่วยความจำ DDR5 ผ่านแพลตฟอร์ม Amazon แต่เมื่อได้รับสินค้าและนำไปติดตั้งกลับไม่สามารถใส่ลงบนเมนบอร์ด DDR5 ได้ เนื่องจากตำแหน่งร่องบากของแรมไม่ตรงกับสล็อต ก่อนจะตรวจสอบอย่างละเอียดและพบว่าแท้จริงแล้วเป็นแรม DDR4 ที่ถูกนำมาสวมฮีตซิงก์ภายนอกให้มีลักษณะเหมือน DDR5

กรณีดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่าน Reddit โดยผู้ใช้ระบุว่า สินค้าที่สั่งซื้อถูกระบุชื่อ รุ่น และแพ็กเกจว่าเป็น Corsair Vengeance DDR5 อย่างชัดเจน ทำให้ดูเหมือนเป็นของแท้ในทุกขั้นตอนตั้งแต่หน้าร้านออนไลน์ไปจนถึงกล่องสินค้า แต่เมื่อเปิดกล่องและนำไปใช้งานจริง กลับพบว่าฮีตซิงก์ของแรมดูหลวมผิดปกติ และแรมไม่สามารถใส่ลงสล็อต DDR5 ได้

เมื่อตรวจสอบใกล้ ๆ ผู้ใช้พบว่าตำแหน่งร่องบากบนแถบทองแดงของแรมไม่อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางตามมาตรฐาน DDR5 หลังจากถอดฮีตซิงก์ออกมา จึงพบว่าโมดูลภายในโดนยัดไส้เป็นแรม DDR4 ไม่มียี่ห้อ ที่ถูกเปลี่ยนเปลือกและฮีตซิงก์แบบ DDR5 เพื่อหลอกขาย กลโกงลักษณะนี้ถือว่ามีความแนบเนียนกว่าการนำแรมรุ่นเก่ามาแปะฉลากหลอกขายในอดีตอย่างเห็นได้ชัด

เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าไม่ใช่กรณีแรกที่พบการโกงฮาร์ดแวร์ในตลาดออนไลน์ โดยเกิดขึ้นในช่วงที่หน่วยความจำ DDR5 ยังมีราคาสูงและหาซื้อได้ยาก ทำให้ผู้ซื้อจำนวนมากหันไปสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น

เว็บไซต์ Uniko’s Hardware แนะนำว่า วิธีตรวจสอบที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดคือดูตำแหน่งร่องบากบนแถบทองแดงของแรม เนื่องจาก DDR4 และ DDR5 มีตำแหน่งร่องต่างกันอย่างชัดเจนและไม่สามารถใส่ร่วมกันได้ หากได้รับสินค้าแล้วพบว่าร่องไม่ตรงกับสล็อต ควรหยุดใช้งานทันทีและดำเนินการขอคืนสินค้าโดยไม่ควรฝืนติดตั้ง

นอกจากนี้หากแรมสามารถติดตั้งได้ ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน BIOS หรือซอฟต์แวร์อย่าง CPU-Z และ HWiNFO โดยดูรายละเอียด SPD ความจุ ความเร็ว และหมายเลขรุ่น ว่าตรงกับสินค้าที่สั่งซื้อหรือไม่ หากพบข้อมูลไม่ตรง ควรถือเป็นเหตุผลในการคืนสินค้า ไม่ควรใช้งานต่อ

แม้ผู้ซื้อรายนี้จะได้รับการคืนเงินจาก Amazon แล้ว แต่เขาระบุว่าราคาแรม DDR5 ในปัจจุบันปรับสูงขึ้นจากเดิมค่อนข้างมาก ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเดิมหากต้องการซื้อใหม่ เหตุการณ์นี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนสำคัญในยุคที่หน่วยความจำขาดแคลน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากวิกฤตดังกล่าวยืดเยื้อไปในช่วงปี 2026-2027 กรณีการโกงฮาร์ดแวร์ลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นถี่ขึ้นอีก

ในตลาดที่ RAM เริ่มมีพฤติกรรมไม่ต่างจากการ์ดจอช่วงวิกฤต ผู้บริโภคจึงจำเป็นต้องมีความรู้และตรวจสอบสินค้าอย่างละเอียดทุกครั้งหลังได้รับ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของกลโกงที่มีความแนบเนียนมากขึ้นในตลาดไอทีปัจจุบัน

ที่มา : videocardz