ในที่สุดก็เปิดตัวสักทีสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงซีรีส์ Galaxy Note 10 ของทาง Samsung หลังจากมีข่าวลือหลุดออกมาอย่างรัวๆ เลยก่อนวันเปิดตัวทั้งเรื่องฟีเจอร์หรือดีไซน์ ว่าแต่พอเปิดตัวแล้ว ข่าวหลุดพวกนั้นจะจริงแท้แค่ไหน มาดูพร้อมกันได้เลยครับ บอกใบ้ให้นิดนึงนะว่าฟีเจอร์ S Pen ใหม่ ขอบอกเลยว่าเด็ด!
รอบนี้ Galaxy Note 10 จะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 ขนาดได้แก่ขนาด 6.3 นิ้ว (Note 10) และ 6.8 นิ้ว (Note 10+)
หน้าจอยังคงเป็นแบบ Dynamic AMOLED เฉกเช่นเดียวกับที่เราเห็นกันใน Galaxy S10 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาครับ ความพิเศษรอบนี้ก็คือทาง Samsung จะมีซอฟต์แวร์ตัดแสงสีฟ้าเข้ามาช่วย แม้ว่าเราจะยังไม่ได้เปิดโหมด Eye Comfort ก็ตาม อีกทั้งสีก็ยังไม่เพี้ยนอีกด้วยนะ
มาถึงพระเอกหลักอย่างปากกา S Pen ที่รอบนี้ความสามารถพิเศษของมันคือสามารถแปลงลายมือของเราเป็นไฟล์ Word หรือ PDF ได้แบบ Real Time แล้ว! แถมยังรองรับภาษาไทยด้วย และค่อนข้างแม่นยำเลย
Air Action ฟีเจอร์ใหม่ของ S Pen ใน Galaxy Note 10 ตวัดๆเหมือนโบกไม้กายสิทธิ์ก็สั่งงานได้เลยจ้าาาาา คือใครเป็นสายโสด-เที่ยวเดี่ยว ชอบถ่ายรูปด้วยตัวเองจะโดนกว่าเดิม เอาไปใช้ควบคุมกล้องได้สะดวกสุดๆ และสามารถใช้ร่วมกับแอปอื่นได้ด้วยนะ pic.twitter.com/eGHVvI1yZG
— droidsans (@droidsans) August 7, 2019
นอกจากนี้.. S Pen ยังสามารถควบคุมการทำงานของกล้องได้แล้ว! ไม่ว่าจะเป็นการสลับกล้องหน้ากล้องหลัง ซูมเข้าออก เปลี่ยนโหมดโน้นนี้ ทำง่ายๆ ด้วยการกวัดแกว่งปากกาไปมา ราวกับเป็นไม้กายสิทธิ์แบบที่เราเห็นกันในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Harry Potter เลย
โดยในปัจจุบันทาง Samsung กำลังร่วมพัฒนากับ YouTube อยู่ เพื่อให้สามารถควบคุมการดูคลิปวิดีโอต่างๆ ได้ด้วย S Pen
ไม่ต้องห่วงเรื่อง S Pen แบตหมด เพราะรอบนี้ชาร์จครั้งเดียว อยู่ได้ยาวๆ หลายชั่วโมงเลย
ส่วนกล้องก็มาทั้งหมด 3 ตัว ครบทุกเซนเซอร์ไม่ว่าจะเป็นเลนส์หลัก, เลนส์ Ultra Wide และเลนส์ Telephoto นอกจากนี้ Note 10+ ยังจะมาพร้อมกับเซนเซอร์ Depth Vision เอามาไว้วัดความตื้นลึกอีกด้วย
รอบนี้เราสามารถใส่ Bokeh Effects เข้าไว้ในคลิปวิดีโอได้แล้ว โดยจะเอฟเฟ็กมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน
ฟีเจอร์ใหม่ Zoom in On Sound ช่วยให้เราสามารถโฟกัสวัตถุพร้อมกับเสียงที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้น
ฟีเจอร์ SuperSteady รอบนี้ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีกว่าที่ผ่านมาพอสมควรเลย โดยการใช้ทั้งระบบ AI และซอฟท์แวร์เข้ามาช่วย
น่ารักโพดดดดดด ฟีเจอร์ใหม่ของ #GalaxyNote10 ที่ทำให้เราวาดเขียนเป็น AR ขึ้นเป็นภาพติดตามตัวเราเลยจ้าาาาาา ☺️ คือมันฉลาดมากอะ ลองดูๆ pic.twitter.com/jxsi7in3d0
— droidsans (@droidsans) August 7, 2019
AR Doodle ฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้เราวาดอะไรก็ได้ใส่หน้าคนหรือวัตถุต่างๆ โดยต่อให้วัตถุหรือคนดังหลุดออกจากเฟรมไปแล้ว ทันทีที่พวกเขากลับเข้ามาในเฟรม Effects ที่วาดไว้ จะกลับมาอัตโนมัติเลย
แม่ขาาาาา!! เอามาถ่ายฟิกเกอร์หรือแบบที่เราชอบ แล้วจับให้มันขยับตามได้เลยจ้า แง…จาวววววววววววววว อยากได้มาเล่นอ่าาาาา #GalaxyNote10 pic.twitter.com/cY2mJFED8M
— droidsans (@droidsans) August 7, 2019
และการที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ Depth Vision (ToF) ทำให้สามารถใช้แอป 3D Scanner มาสแกนวัตถุได้แล้วทำให้มันขยับได้เสมือนมีชีวิตชีวาจริงๆ
สำหรับสายเกมมิ่ง Galaxy Note 10 ได้จับมือร่วมกันกับ DISCORD เรียบร้อยแล้ว เวลาเล่นเกมสามารถพูดคุยแชทได้ ไม่ต้องเปิดแอปอื่นเพิ่ม จะว่าจะแซวใคร สามารถทำได้ง่ายแล้วนะ GGEZ กันสบายเลย ฮ่าๆ
ชิปเซ็ตรอบนี้จะใส่มาเป็นชิปตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Exynos 9825 โดยประสิทธิภาพของ CPU จะแรงขึ้น 33% และ GPU แรงขึ้น 42% เมื่อเทียบกับ Galaxy Note 9
สำหรับการใช้งาน Samsung ออกมาเคลมว่าสามารถใช้ได้สบายๆ ทั้งวัน และถึงแม้ว่าแบตจะหมด ก็สามารถชาร์จกลับคืนได้ด้วยเทคโนโลยีการชาร์จไว 25W โดย Note 10+ จะรองรับการชาร์จไวได้สูงสุดถึง 45W เลยทีเดียว! เสียบปลั๊กไป 30 นาที ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานทั้งวันแล้ว
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสรุปการเปิดตัวสั้นๆ ของ Galaxy Watch Active 2 และแทบเล็ต Galaxy Tab S6 อยู่ โดยจะประกาศราคาและวันวางจำหน่ายไว้เรียบร้อย
อันนี้ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เพราะ Samsung ได้เปิดตัว Galaxy Book S ในราคาเริ่มต้น $999 วางจำหน่ายพร้อมกันเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ครับ
ความพิเศษของมันก็คือ.. เราไม่ต้องพกสายชาร์จอะไรให้ยุ่งยากแล้ว! เพียงแค่มีพอร์ต Type C ก็สามารถชาร์จได้ทุกที่ทุกเวลา
ไหนๆ ก็พูดถึงคอมกันแล้ว มาพูดถึงฟีเจอร์ Samsung DeX กันบ้างดีกว่า รอบนี้สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายๆ แล้วเพียงแค่เสียบพอร์ต USB Type C เข้าไปที่คอมพิวเตอร์
โดย Samsung ได้จับมือกับ Microsoft พัฒนาโปรแกรม Link to Windows ให้เราสามารถตอบแชทที่อยู่ในโทรศัพท์ผ่านคอมพิวเตอร์เราได้แล้ว รวมทั้งการถ่ายโอนรูปภาพ หรือ screen mirror โทรศัพท์เข้าคอมเลยก็ยังได้
สเปค Galaxy Note 10+ และ Galaxy Note 10
Galaxy Note 10+ | Galaxy Note 10 | |
หน้าจอ | Dynamic AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ รองรับการแสดงผล HDR10+ | Dynamic AMOLED ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับการแสดงผล HDR10+ |
CPU | Exynos 9825 | Exynos 9825 |
GPU | Mali-G76 | Mali-G76 |
RAM | 12GB | 8GB |
ความจุ | 256GB UFS 3.0 รองรับ MicroSD | 256GB UFS 3.0 |
กล้องหลัง | เลนส์ tele 2X 12 MP (f/2.4), OIS เลนส์ Wide 12MP (f/1.5, f/2.4), OIS เลนส์ Ultra Wide 16MP (f/2.2) Depth Vision | เลนส์ tele 2X 12 MP (f/2.4), OIS เลนส์ Wide 12MP (f/1.5, f/2.4), OIS เลนส์ Ultra Wide 16MP (f/2.2 |
กล้องหน้า | 10MP (f/2.2) + Night Vision | 10MP (f/2.2) + Night Vision |
ระบบเสียง | ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmos, ไม่มีรูหูฟัง | ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmos, ไม่มีรูหูฟัง |
เซนเซอร์ | fingerprint (บนหน้าจอ), accelerometer, barometer, compass, brightness sensor, proximity detection, gyroscope | fingerprint (บนหน้าจอ), accelerometer, barometer, compass, brightness sensor, proximity detection, gyroscope |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0 | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0 |
แบตเตอรี่ | 4,300 mAh รองรับชาร์จไว 45W | 3,500 mAh รองรับชาร์จไว 25W |
ระบบปฏิบัติการ | Android 9 Pie ครอบทับด้วย OneUI | Android 9 Pie ครอบทับด้วย OneUI |
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น | IP68 | IP68 |
มาดูกันเรื่องราคาเปิดตัวกันบ้างดีกว่า Note 10 จะเคาะราคาเริ่มต้นที่ $949 (ประมาณ 29,000 บาท) และ Note 10+ อยู่ที่ $1099 (ประมาณ 33,800 บาท)
ก็ต้องรอลุ้นกันครับว่าเข้าไทยจะเปิดราคามาเท่าไหน ทันทีที่เราทราบข้อมูลในส่วนนี้ จะรีบนำมาบอกเพื่อนๆ ชาวดรอยด์แซนส์กันเลยครับ ตอนนี้ทีมงานขอตัวลาไปนอนก่อนนะ.. คร่อกกก~~zz
แรงดีครับ 🙂 🙂
ไม่ติดว่าจะ29000
นวัตกรรมกล้องไปไกลมาก คือไม่ได้เน้นซูมเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เอาเทคโนโลยีอื่นๆ มาสร้างสรรค์แทน ที่เจ๋งมากคือเราวาดอะไรแล้วเอากล้องเดินดูได้เหมือนเป็นวัตถุจริงๆ นี่แหละ แล้วก็แสกนวัตถุเป็น 3 มิติได้ แถมเอามาขยับได้อีก คือเจ๋งจริงอะ