Galaxy Note Edge ลูกหลานในตระกูล Note ซึ่งสเปคและความสามารถของมันเรียกได้ว่าเหมือนๆกับ Galaxy Note 4 ถอดบล็อคกันออกมา มีจุดต่างอยู่เพียง Note Edge เป็นตัวที่นำเอาเทคโนโลยีจอโค้งไปใช้งานเป็นตัวแรก แต่หลายๆคนคงจะสงสัยว่าประโยชน์ของการใช้งาน Edge Screen มีเอาไว้ทำอะไร จับถือสะดวกมั้ย แล้วมันจะเวิร์คจริงๆเหรอ…ข้อสงสัยพวกนี้ผมก็มีเหมือนกัน แต่ว่าเรายังไม่มีเครื่องให้ทดลองจับกัน งั้นเรามาดูพรีเซ้นต์ที่ทาง Samsung เค้าทำขึ้นมาเพื่อบอกเล่าประโยชน์ของมันกันดีกว่าว่าทำอะไรได้บ้าง
คำถามแรกของหลายๆคน – จับยังไง?
นี่แหละปัญหาเลย เพราะบนเวทีเมื่อวานนี้เห็นแต่ละคนเวลาจับต้องพยายามเลี่ยงไม่ให้มือไปโดนหน้าจอกันทั้งสิ้น ซึ่งดูแล้วมันช่างจับไม่ถนัดและดูลำบากยิ่งนัก
ประโยชน์ของ EDGE Screen?
หลักๆเลยคือการเพิ่มพื้นที่แสดงผลของหน้าจอ โดยการย้ายเอาแถบ Shortcut ต่างๆที่อยู่ด้านล่างไปไว้ด้านข้างแทน โดยแถบด้านข้างนี้จะเลื่อนเปลี่ยนได้ทั้งหมด 7 แถบ ปรับได้ตามผู้ใช้ต้องการ
สามารถดึง Quick Tools จากด้านบนลงมาได้ โดยตัวเลือกเป็น ไฟฉาย ไม่บรรทัด นาฬิกาจับเวลา หรืออัดบันทึกเสียง
ปรับเปลี่ยนให้แสดงภาพหรือตัวอักษรที่แสดงความเป็นตัวเรา หรือใช้แจ้งข่าวล่าสุด ผลเกมกีฬา หรือราคาหุ้นล่าสุดได้ทันที
แต่ถ้าใครอยากได้นาฬิกาปลุกราคาแพงก็เอามันไปตั้งไว้บนหัวนอนแทนนาฬิกาที่มีอยู่ได้เลย
และเมื่อเราเอาไปใช้เล่นหนัง ปุ่มควบคุมต่างๆก็ถูกปรับให้ไปอยู่ที่ Edge Screen ทั้งสิ้น รวมถึงการแจ้งเตือนต่างๆที่เข้ามาก็จะย้ายไปเช่นเดียวกัน
และสุดท้าย เมื่อเราเข้ากล้องไป พวกปุ่มต่างๆที่ดูวุ่นวายตอนเราถ่ายภาพสัดส่วน 16:9 ก็จะถูกย้ายไปที่ Edge Screen ทั้งหมด ทำให้เราถ่ายรูปได้สะดวกสบายมากขึ้นนั่นเองครับ
ไปดูคลิปทดลองจับเจ้า Galaxy Note Edge จากทาง The Verge กันดูครับ
จากทั้งหมดนี้ เราน่าจะพอสรุปได้ว่า Edge Screen ของ Galaxy Note Edge นั้นเป็น Shortcut, Tools Bar, Control Bar, และหน้าจอเสริม ส่วนว่าจับถนัดขนาดไหนคงต้องรอตัวจริงและได้ลองใช้งานเท่านั้น และที่หลายๆคนน่าจะอยากรู้กันที่สุดคือ ถ้าอยากจะใช้งาน Edge Screen นี้ ต้องเสียค่าตัวให้เพิ่มจาก Galaxy Note 4 ไปอีกเท่าไหร่กันหนอ….อืมมมมมมมม
ดูไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร จับไม่ถนัดด้วย
ตกกระแทกน่าจะแตกง่ายอีก ไม่ผ่าน -__-"
ดีตรง ดีไซด์ รูปแบบที่แปลกตาไป มันดูล้ำสมัยไฮเทคไปครับพี่น้อง
ดีตรง ดีไซด์ รูปแบบที่แปลกตาไป มันดูล้ำสมัยไฮเทคไปครับพี่น้อง
ดูไม่ค่อย work เท่าไรเลย
นึกถึง คนไทยที่ซื้อมือถือ แล้วต้องมี เคส นึกไม่ออกว่า เคสกัด เคสหลุด เคสเก็บฝุ่น คงไม่มีอีกต่อไป เพราะมันหลุดตั้งแต่ใส่กระเป๋ากางเกงแล้ว
ดูจะถือลำบากนะ ยิ่งถ้าเป็นคนถนัดซ้ายด้วยแล้วคงต้องกลับหัวตัวเครื่อง
เพื่อจะได้ถือได้ด้วด้วยมือขวาและเขียนด้วยมือซ้าย
ชอบแปลกล้ำดีครับ
ชอบล้ำดีจัง แต่รุ่นต่อๆไปคงว้าวกันอีกกว่านี้แน่
อารมณ์ประมาณ LG G flex ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง
แล้วมันจะติดฟิมกันรอยยังไง…
แล้วเด่วมันก็จะเงียบหายไป
ผมว่ามันจะขายดี
…. อีก 1 เดือนจะกลับมาดูกระทู้นี้ใหม่ ^_^
ทำเหมือนคนอื่นด่าว่าก๊อบปี้ พยายามแตกต่างไม่วายว่าไร้ประโยชน์
คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ
อุ๊บส์!!!
ใช่เลย 555555555555555555555555
ไม่ใช่เฉพาะคนไทยที่พูดด้วยสิครับ
ก็ดีนะไม่เกะกะตาเวลาถ่ายรูปดูหนังแถมสเปกเท่าโน้ท4ลดแบตเพื่มจอก็ดีนะแปลกแต่ล้ำส่วนถ้ากลัวตกจอแตกก็พ่วงประกันภัยด้วยซิง่ายกว่า
สวยแปลกและแตกต่าง สร้างสรรค์ดีครับ
ชอบแปลกล้ำดี…น่าลองใช้ อิอิ ไม่ซ้ำใคร
ผมว่า นี่คือ 1 ใน การ ประยุกต์ใช้จอโค้งได้แบบเมพๆ ตัวแรกเรย (g flex นั่น หาประโยชน์ได้ยากกว่าอีก) ผมว่าเปงจุดเริ่มที่ดีครับ ขอคาระวะ1จอก ถ้าจะดี ทำแบบ ม้วนได้มาหน่อยนะเด่วนี้จอใหญ่พกยาก
ยกต่อไปตอน Note 5 ออก เจอ Note Flip หรือ Note Youm แน่เลย จอพับได้
จะออกแบบเคสใส่กันตกกระแทกยังไงนะ?
ไปอยู่ข้างบนหรือข้างล่าง จะสวยกว่านะ
ไปอยู่ข้างบนหรือข้างล่าง จะสวยกว่านะ
อยากเห็นตอนทำ Drop Test ว่าจะเป็นยังไง ยิ่งถ้าได้ดูก่อนคงจะมีผลต่อการตัดสินใจว่าจะจัดมาหรือไม่
ฟิล์ม มันจะ กระดก นะ เพราะมันโค้งชันมาก ไอ้ปลายๆ ทางขวา มันจะดีดขึ้นมา
ผมว่าต้องฟิล์ม ลนไฟ หรือไม่ก็ ฟิล์ม สองชิ้น ตรงข้างๆ ชิ้นนึง เอ้า มันก็สะดุดนิ้ว อีก กรรม
ถ้าทำเครื่องตก ด้านขวาลง มีเฮ