Snapdragon 8 Elite ของ Qualcomm ยังคงเป็นชิปที่ขายดีในปีนี้ ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดมือถือทั่วโลก และสัดส่วนมือถือเรือธงที่ขยายตัวขึ้นในจีน ทำให้ OEM หลายค่ายยัง ‘ยอมจ่าย’ แม้ต้นทุนจะสูงกว่าชิปคู่แข่ง – แต่ก็น่าสนใจว่าหาก Qualcomm ปรับราคา Snapdragon 8 Elite 2 อีกครั้งในปีหน้า สถานการณ์จะยังเป็นแบบเดิมอยู่ไหม หรือจะส่งผลกระทบอะไรตามมาบ้าง

ตามการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ ชิปไฮเอนด์รุ่นปัจจุบันของบรรดาผู้ผลิตรายใหญ่ มีต้นทุนดังนี้

  • Snapdragon 8 Elite (3nm) – ประมาณ 180 ดอลลาร์
  • Dimensity 9400 (3nm) – ประมาณ 150 ดอลลาร์
  • A18 Pro (3nm) – ประมาณ 135 ดอลลาร์
  • Exynos 2400 (4nm) – ไม่มีข้อมูล

ส่วน Snapdragon 8 Elite 2 ตามรายงานระบุว่าจะแพงขึ้นอีกประมาณ 20 – 30% นั่นจะทำให้ชิปของ Qualcomm มีต้นทุนทะลุ 200 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก แน่นอนว่าในมุมของ OEM คงไม่อยากปรับราคามือถือตามหากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายในภายหลัง

เช่นกรณีของซัมซุงที่พยายามลดการพึ่งพา Qualcomm โดยใส่ชิปเซตที่พัฒนาเองมาในบางโมเดลเพื่อเฉลี่ยต้นทุน

แต่กับ Exynos 2500 ล่าสุด ดันมีข่าวว่าประสบเหตุขัดข้องทางการผลิต ซัมซุงจึงต้องใช้ชิป Snapdragon 8 Elite มาใน Galaxy S25 series ทุกโมเดลอย่างไม่มีทางเลี่ยง

ที่น่าห่วงกว่าคือ Exynos 2600 ในปีหน้า หากซัมซุงยังแก้ปัญหาด้านการผลิตไม่ลุล่วง แล้วต้องอาศัยชิป Snapdragon 8 Elite 2 ล้วน ๆ ใน Galaxy S26 series ต่อไปอีกปี ถึงตอนนั้น Galaxy S26 Ultra มือถือรุ่นท็อปของซัมซุง อาจมีราคาเริ่มต้นเกิน 5 หมื่นบาทไปเลยก็ได้ ในขณะที่แอปเปิลดูเหมือนจะทางสะดวก ไม่มีปัญหาใด ๆ ให้ต้องกังวล

ที่มา : KIPOST