อีกแค่เดือนเดียว Galaxy S9 / S9+ ก็จะถูกเผยโฉมออกมาแล้ว โดย Samsung จะจัดงานเปิดตัวมือถือเร่ือธงรุ่นนี้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ หากใครที่ตามข่าวมาเรื่อยๆ จะได้เห็นภาพและข้อมูลที่หลุดออกมา ซึ่งดีไซน์และสเปคโดยรวมนั้นอาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่ที่ว้าวมากมายนัก แต่ที่ทุกคนเห็นแล้วน่าจะอึ้งกันไปเต็มๆ คือกล้องที่สามารถปรับค่า f หรือรูรับแสงได้ของ S9 และ S9+ ว่าแต่มันทำได้จริงๆ เหรอ?
ค่า f1.5/f2.4 มาจากกล้องเดี่ยวหรือกล้องคู่?
ข้อมูลแรกที่ยืนยันเรื่องนี้คือภาพหลุดกล่องของ Galaxy S9 ที่ระบุรายละเอียดค่า f1.5-f/2.4 ซึ่งบางคนที่อ่านไปแล้วก็คิดว่ามันน่าจะเป็นกล้องคู่ที่มีค่า f ไม่เท่ากัน.. แต่อย่าลืมนะครับว่า Galaxy S9 จะมีกล้องหลังเพียงตัวเดียวเท่านั้น (จากรายละเอียดของตัวเครื่องที่ทาง ET News ได้มาเป็นไดอะแกรมด้านบน) ต้องเป็น S9+ ถึงจะเป็นกล้องคู่ เพราะฉะนั้นมันคือค่า f ของกล้องที่ปรับให้กว้างหรือแคบได้
จะรู้ได้อย่างไรว่ากล้องมีการปรับรูรับแสง?
รูรับแสงของกล้องหรือค่า f นั้นชื่อก็บอกตรงตัวว่าเอาไว้สำหรับควบคุมแสงที่เข้ามาที่ตัวเซนเซอร์เพื่อใช้ในการถ่ายภาพ ค่า f/1.5 หรือรูรับแสงกว้างก็คือการเปิดพิ้นที่ทั้งบนให้แสงผ่านเข้ามา ส่วนค่า f/2.4 ก็จะมีไดอะแฟรมเลื่อนเข้ามาบังเพื่อลดแสงที่ผ่านเข้าาสู่เลนส์ ซึ่งปกติแล้วเราจะเห็นกันในกล้องจำพวก DSLR หรือ Mirroless
กล้องมือถือปรับรูรับแสงเคยมีมาก่อนหรือเปล่า?
Samsung นั้นได้พัฒนากล้องมือถือที่ปรับรูรับแสงได้เสร็จมาก่อนหน้า Galaxy S9 แล้ว และถูกนำไปใช้กับมือถือฝาพับรุ่นพรีเมี่ยม W2018 ที่วางขายเฉพาะในจีน จากภาพซ้ายบนจะเห็นว่าค่า f/1.5 ตัวเลนส์จะเปิดช่องรับแสงเต็มที่ ส่วนภาพขวาคือไดอะแฟรมจะปิดเข้ามา ให้ค่ารับแสง f/2.4
แล้วทำไมต้องปรับค่า f ทำไปเพื่ออะไร?
ถ้าคนที่ไม่ได้เล่นกล้องอาจะไม่เข้าใจ แต่ภาพนี้น่าจะอธิบายได้ ในบางสถานการณ์ที่แสงมันเยอะและสว่างมากๆ ค่า f ที่กว้างเกินไปก็จะให้ภาพที่แสงโอเวอร์หรือสว่างเกินจริง ค่า f/2.4 ก็จะมาตอบโจทย์การถ่ายภาพในตอนกลางวัน ส่วนเมื่อแสงน้อยมากๆ f/1.5 ก็จะมาช่วยเก็บแสงได้ดีขึ้น
source : phonearena, ET News
ถ้าปรับได้จริง ราคาคงแพงขึ้นมากเลย
แต่จากรูปหลุดของกล่อง ก็เขียนแค่ f1.5/f2.4 ไม่มีเครื่องหมาย "-" นะครับ น่าจะเป็นการเขียนแบบ กล้องคู่มากกว่ารึป่าว กล่องอาจจะเขียนสเปคที่ดีที่สุดไว้ (เช่นสเปค s9+)ก็ได้
กล้อง 2 ตัวไง
ทางที่ดี น่าจะให้กล้องหลัง คู่ ทั้ง ตัวเล็ก กับตัว ใหญ่ นะ
ปรับ F ได้ประโยชน์ไม่ค่อยมีเท่าไหร่
เซนเซอร์เล็กขนาดนั้น โยนเรื่อง DOF ทิ้งไปได้เลย ถ้าเซนเซอร์ 1 นิ้วก็ว่าไปอย่าง
เรื่องแสงโอเวอร์ในที่แสงจ้า… ถ้าจำไม่ผิดกล้อง SS สปีดชัตเตอร์สูงสุด 1/24000 ซึ่งถ่ายกลางวัน F1.5 ไม่มีปัญหาเท่าไหร่อยู่แล้ว
ถ้าจะมีประโยชน์ก็คงจะเป็นลากชัตเตอร์ยาวๆตอนแสงมากๆ (ถ่ายน้ำตก/ต้มน้ำ) หรือไม่ก็ไฟแฉก แต่ F2.4 ก็ไม่พอหรอก
เพราะงั้นก็คงเป็นกล้องคู่นั่นแหละ F2.4-2.6 เจอบ่อยๆในกล้องคู่ด้วย โดน DXO บังคับขนาดนั้น
+1 ครับ
F1.5 มา 2.4 มันไม่ถึง 2 F-stop ด้วยซ้ำ เรื่องทำน้ำไหลเลิกพูดเลย
และเซ็นเซอร์มือถือทำภาพชัดตื้นของแท้ไม่ได้อยู่แล้ว
เสริมเรื่องแฉกของแสงอีกนิดครับ
การจะทำให้แสงแฉกได้ขนาดนี้ชิ้นเลนส์ต้องมีมากกว่า 10 ชิ้น ค่า f อย่างน้อยๆต้องมากกว่า f/8 ขึ้นไป **ความคิดเห็นจากการที่ได้ใช้ dslr นะครับ แต่หลักการน่าจะคล้ายๆกัน ภาพที่เอามาโชว์คงเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของซัมซุงที่ดูเว่อร์ไป
ไม่รู้เหมือนกันว่าจำนวนชิ้นเลนส์เกี่ยวกับแฉกไหม แต่ไม่ถึง 10 หรอกครับ เลนส์มือหมุนเก่าๆหลายๆเลนส์ชิ้นเลนส์แค่ 6-7 ชิ้นก็ทำไฟแฉกได้ เลนส์บางเลนส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องแฉกอย่าง Voigthlander เอง เผลอๆ F2.8-F4 แฉกก็โผล่มาแล้วด้วยไม่ต้องถึง F8 (แต่ F ยิ่งแคบแฉกยิ่งชัดจริง)
ที่แน่ๆคือจำนวนเหลี่ยมของใบเบลดมีผลกับจำนวนแฉกครับ
นั้นสิครับ f1.5 แต่เล่นแฉกไฟสะสวยเลย 555
คงใช้ซอฟท์แวร์ช่วย เหมือนการทำภาพชัดตื้นนั้นแล
ปกติเลขหลังกล่องแบบนี้มักจะเป็น Hardware Spec ครับ ถ้าเขียนว่า F1.5/F2.4 ก็ต้องเป็นไปตามนั้นจริงๆ ไม่งั้นเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคได้ง่ายๆ
ก็คงกล้องคู่เลนส์เทเลนั่นแหละครับ