จากที่ตอนแรกมีข่าวลือว่า Samsung น่าจะเปลี่ยนชื่อสมาร์ทวอทช์ซีรีส์ Gear มาเป็นชื่อใหม่ Galaxy Watch และก็ได้มีภาพ+ราคาหลุดตามออกมาหลังจากนั้นไม่นานอีกด้วย ซึ่งตอนนี้สมาร์ทวอทช์ซีรีส์ใหม่ในนาม Galaxy Watch ก็ได้ฤกษ์เผยโฉมออกมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยพร้อมๆ กับมือถือเรือธง Galaxy Note 9 แล้ว
สำหรับสมาร์ทวอทช์ Galaxy Watch ตัวนี้ จริงๆ แล้วก็คือภาคต่อจาก Gear S3 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ทาง Samsung อยากจะรีแบรนด์ใหม่ให้มันมีชื่อสอดคล้องกับมือถือด้วยนั่นเอง ก็เลยเปลี่ยนชื่อเป็น Galaxy Watch ซะ และแน่นอนว่าของใหม่ๆ ก็ต้องมีสเปคใหม่ๆ บวกกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มาอีกเพียบเลย
มีให้เลือก 2 ขนาด 3 สี
โดย Galaxy Watch จะมาพร้อมกับหน้าปัดที่เป็นจอสัมผัสแบบ AMOLED และสามารถใช้งานได้ในตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับมือถือ เพราะ Galaxy Watch รองรับการใช้งาน LTE ในตัว (eSIM) สามารถใช้เน็ตเพื่อฟังเพลงจากแอปสตรีมมิ่งอย่าง Spotify หรือจะใช้โทรออก-รับสาย ได้จากตัวนาฬิกาเองเลย
Galaxy Watch ยังเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะกับผู้รักสุขภาพอีกด้วย เพราะมันสามารถใช้เป็น Fitness Tracker ในการติดตามการออกกำลังกายได้กว่า 40 แบบ ไม่ว่าจะเป็นการยกน้ำหนัก, ซิทอัพ, วิดพื้น, เดิน, วิ่ง, ว่ายน้ำ ฯลฯ และแน่นอนว่ามันรองรับการออกกำลังกายประเภทว่ายน้ำก็เพราะว่ามันสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ 5 ATM ซึ่งสามารถใส่ว่ายน้ำ หรือกระโดดน้ำได้นั่นเอง
นอกจากจะใช้เป็น Fitness Tracker แล้ว Galaxy Watch ยังสามารถติดตามการนอนหลับ (Sleep Tracking) ว่าในแต่ละคืนเราหลับสนิทแค่ไหน แถมยังบอกระดับความเครียดของเราได้ และเมื่อมันตรวจพบว่าเราเครียดเกินไป มันก็จะเตือนให้เราค่อยๆ หายใจเข้า-ออกเป็นจังหวะได้อีกด้วย
Galaxy Watch ยังสามารถโชว์ข้อมูลต่างๆ บนหน้าปัทม์ ที่เราได้ซิงค์ผ่านมือถือเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจาก Calendar หรือพวกตารางนัดต่างๆ ทำให้ถ้าเราใส่นอนข้ามคืน ตื่นขึ้นมาก็สามารถตรงเช็คข้อความเข้า และนัดหมายที่ต้องทำได้ทันทีเลยล่ะ
สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแบบเป๊ะๆ ออกมานะครับ แต่ทาง Samsung ได้เคลมเอาไว้ว่าสามารถใช้งานได้ถึง 4 – 6 วัน ภายในการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (แล้วแต่การใช้งาน) ส่วนเรื่องของราคาในตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลอีกเหมือนกันครับ แต่วันวางจำหน่ายนี่แว่วๆว่ากลางเดือนกันยายนนี้อาจจะได้เห็นกัน เอาไว้ถ้ามีข่าวคราวจาก Samsung บ้านเราแล้วจะเอามาอัพเดทให้อีกทีนะครับ
สเปคของ Galaxy Watch
- ขนาด
- 42mm : หน้าจอ 1.2″, หนัก 49g, สาย 20mm ถอดเปลี่ยนได้
- 46mm: หน้าจอ 1.3″, หนัก 63g, สาย 22mm ถอดเปลี่ยนได้
- แบตเตอรี่ : 270mAh (42mm) และ 472mAh (46mm) Wireless Charge
- หน่วยประมวลผล Exynos 9110 Dual core 1.15GHz
- Tizen Based Wearable OS 4.0
- หน่วยความจำ
- รุ่น LTE: 1.5GB RAM + หน่วยความจำภายใน 4GB
- รุ่น Bluetooth: 768MB RAM +หน่วยความจำภายใน 4GB
- การเชื่อมต่อ 3G/LTE, Bluetooth 4.2, Wi-Fi b/g/n, NFC, A-GPS/Glonass
- เซนเซอร์ Accelerometer, Gyro, Barometer, HRM, Ambient Light
- กันน้ำกันฝุ่น 5ATM + IP68 / MIL-STD-810G ว่ายน้ำได้
- ใช้ได้กับทั้ง Android และ iOS
รอราคาเลยครับ
อ่านแล้ว ขอขยายตรง os หน่อยคับ สรุป คือ tizen ชิมิ
Esim บ้านเราไม่ได้ใช้ เสียดายจัง
ใช้ Gear S3 อยู่ครับ แต่รู้สึกคิดถึง Android wear มาก
ทำไม Samsung ไม่ใส่ Android wear มาให้ซักรุ่น
รู้สึก Tizen ยังตามหลัง Android wear อยู่พอสมควรเลย
ทั้งในเรื่องความเสถียร ลูกเล่น ความลื่นไหลของ OS
นี่นึกว่า android wear ตามหลังทั้งแบตทั้งการใช้งาน
แล้วถ้า samsung เปลี่ยนไปใช้ก็หมุนขอบไม่ได้สิ
sorry, can't type Thai from office's computer.
I think Tizen OS for wear device is better than Android Wear in term of Stability, Battery, Speed, UX, UI
except number of Apps.
This make Tizen better than Android Wear for 2018. Then Using Tizen OS for Galaxy Watch is suitable choice. and you will always see that on Android side. Samsung Watch always rate as #1 wearable device from many youtube reviewer.
But still, apple watch is better than smartwatch that can sync with android phone.