Gartner บริษัทวิจัยข้อมูลด้านเทคโนโลยีชื่อดัง เผยสถิติยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกสำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ซึ่งสถิติดังกล่าวเป็นสถิติของจำนวนสมาร์ทโฟนที่ส่งออกไปจนถึงมือลูกค้าจริงๆ (ไม่ใช่จำนวนที่ส่งออกจากโกดังแล้วไปพักไว้ตามร้านค้าเพื่อรอขายอีกที) โดยยอดรวมในปีนี้กระเตื้องขึ้นจากปีที่แล้วเล็กน้อยเพียงแค่ 1.4% และมีแค่แบรนด์จีนอย่าง Huawei และ Xiaomi เท่านั้น ที่สามารถทำยอดเพิ่มจากปีที่แล้วได้มากที่สุด
จากข้อมูลแบรนด์สมาร์ทโฟน Top 5 ของไตรมาสที่ 3 ปี 2561 จะเห็นว่าอันดับ 1 ยังคงเป็น Samsung ที่สามารถจำหน่ายมือถือออกไปได้ราวๆ 73,360,000 เครื่อง ดูแล้วเหมือนจะเยอะ…แต่ถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ราวๆ 85,605,000 เครื่อง ถือว่าเป็นจำนวนที่ลดฮวบไปเป็น 10 ล้านเครื่องเลยทีเดียว ส่วนอันดับ 2 และอันดับ 3 ก็ยังคงเป็น Huawei ตามด้วย Apple เหมือนเดิม ตามด้วยอันดับ 4 คือ Xiaomi และอันดับ 5 คือ OPPO
แต่ถ้าดูจากอัตราการเติบโตของยอดขายแบบปีต่อปี จะเห็นว่า Huawei มีอัตราการเติบโตของยอดขายพุ่งพรวดกว่า 43% จากปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 36 ล้านเครื่อง แต่ปีนี้เพิ่มขึ้นมาที่ประมาณ 52 ล้านเครื่อง ส่วนแบรนด์บ้านเดียวกันอย่าง Xiaomi ก็ถือว่ามาแรงไม่แพ้กันเพราะปีที่แล้วยอดขายอยู่ที่ประมาณ 26 ล้านเครื่อง แต่ปีนี้ขึ้นมาอยูที่ประมาณ 33 ล้านเครื่อง มากกว่าปีที่แล้วอยู่ราวๆ 20%
สำหรับ Samsung แล้ว ยอดขายของปีนี้ที่ตกลงไปกว่า 14% ถือว่าเป็นยอดขายแบบปีต่อปีที่ตกลงไปมากที่สุดสำหรับการรวบรวมสถิติจาก Gartner เลยทีเดียว เนื่องจากมือถือระดับเรือธงอย่าง Galaxy S9, Note 9 และซีรีส์กลาง Galaxy A ไม่สามารถทำยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจนัก ส่วน Apple ก็ยังถือว่าคงเส้นคงวาจากปีที่แล้วแบบเฉียดฉิว แต่ถ้าหากภายในสิ้นปีนี้ iPhone XS และ XR ยังนิ่งๆ อยู่ ก็ไม่แน่ว่ายอดขายในไตรมาสที่ 4 อาจจะมีตกลงอีกได้เหมือนกัน
ที่มา : Gizchina
ผมว่า samsung ยอดตกเพราะคนไม่ค่อยชอบจอโค้งเป็นเหตุผลหนึ่งนะ
ลองทำเรือธงจอปกติดูยอดน่าจะ ทรงในปีหน้า แต่ถ้ายังจอโค้งใส่เรือธงต่อ ผมว่ายอดมีแต่ลดลงทุกปี
ใช่ครับ ผมเล็งๆ แต่มาเจอจอโค้ง บายทันที
จริงครับ
ผมคนนึงล่ะที่อยากใช้ galaxy note แต่ไม่ใช้เพราะว่าจอโค้งลงด้านข้าง มันมีประโยชน์อะไรต่อการเขียนและการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ผมว่า ปีหน้า iphone ยอดขาายดีขึ้นกว่าปีนี้ ประมาณนึง เลย เพราะ รุ่น หลากสี XR ถึงโดนตี เรื่องความละเอียดจอในตอนแรก แต่ จากรีวิว ใช้งาน 1 เดือนผ่านไป ในยูทูป ไทยและเทศ ผลคือ คนใช้กลับชอบ พราะสัสวย
แบบอึด
ิชิพ a12 bionic ล่าสุด
กล้อง และเลนก็ตัวเดียวกันกะรุ่น xs ถึงจะไม่มีเลนซูม
ดร็อปเทส แล้วทนทาน
จอไม่เห็น พิกเซลและก็ สีตรง
ยอดขายที่เมกาดีเลยแหละ ในอีเบบ์ ก็ขึ้นราคา จากเดิมนิดหน่อย แต่ไม่ถึงราคาที่แอปเปิ้ลตั้ง
คือถ้าขายไม่ออก ราคาคงไม่ขึ้น
ฟันธงปีหน้า iphone ยอดขึ้น แต่ไม่แซง หัวเหว่ย มัง รายนี้ขายดี
หลายคนที่ผมรู้จักที่ปกติใช้ Droid ก็เริ่มลองซื้อ XR มาใช้แล้วส่วนมากก็ชอบซะด้วย
แต่ถึง XR จะดียังไงมันก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในสายตาคนที่เป็นสาวกคลั่ง Apple ได้ครับ
พวกนี้จะไม่มองตัวอื่นนอกจากตัว Top เสมอไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม(หลายถึงไม่ต้องมีเหตุผล)
ผมเลยรู้สึกว่า XR อาจจะขายไม่ดีอย่างที่ Apple ต้องการ (คือมันขายได้ดีกับคนที่ไม่ยึดติดเท่านั้น)
นวัตกรรมหยุดโลก ของแบรนด์จีน คือราคา
3-7000 สมัยนี้ ทำซัพแบรนด์ อัดสเป็ค ขายถูกๆ มาปั๊มตัวเลขเครื่อง เพื่ออันดับโลกกันใหญ่
แต่อย่าถามถึงกำไรนะ
sub brand มันเอายอดมารวมด้วยหรือเปล่าครับ
ของหัวเว่ย รวมออเนอร์ ด้วยครับ
เจ้าอื่นก็น่าจะไม่พ้นกัน
การขายของในเรทแทบไม่เอากำไร มันต้องมีเหตุผลครับ
มีที่มามั้ยครับ ขอลิงค์เข้าไปศึกษาหน่อย เพราะเห็นเดี๋ยวนี้หลายเจ้าเริ่มมีแบรนด์ลูกเข้ามาแล้ว
คิดเหมือนกันเลยครับ ทำราคาถูก มาขาย
แล้วดูที่ จำจำนวนเครื่ที่ขาย มันก็ขึ้นอันดับได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ากำไรจะ ดีกว่า แบรนด์ที่ยอดจำนวนเครื่องน้อยกว่า แต่ขายแต่ราคาเรือธง
5555 รลก ก็เน้นทำมาถูกตั้งแต่ 2000 ยัน 30000 ขายสำหรับรากหญ้าก็ต้องขายได้เยอะปกติปะ แต่ถ้านับแค่กำไรต่อเครื่องอะเหลือเท่าไหร่เองจริงๆ แน่จริงลองวางขายแค่รุ่นราคาเท่าไอโฟนสิ จะขายได้กี่เครื่อง
เม้นแบบนี้เดี๋ยวคนอ่านแล้วแปลแบบผมจะเข้าใจว่าคนซื้อ iphone เป็นคนโง่นะครับ ซื้อจองต้นทุนต่ำ แต่ขายราคาแพงๆ
กรุณาอย่าเม้นแล้วไปว่าคนใช้ iphone ซิ่ครับ เดี๋ยวจะไม่พอใจกัน
อ๋อว่าคุณsomanenyครับว่าเป็นปกติอยู่แล้วเพราะเค้าชอบดูถูกคนอื่นยกย่องตัวเองเค้าโดนแบนไปรายรอบแล้วเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ
ถ้าเขาขายเฉพาะรุ่นแพงอย่าง iPhone ก็จะไปหาว่าเขาลอกการตลาด Apple อีก
สมองนักธุรกิจเขาไม่ทำอะไรที่ไม่จำเป็นหรอก เขาต้องหวังผลอะไรซักอย่างในระยะยาว
คนทำธุรกิจไม่เป็นมองอะไรแค่สั้นๆไม่แปลกครับที่จะไม่เข้าใจ
แข่งกันดีแล้วครับไม่ค้ากำไรเกินควรแบบนี้ก็เป็นผลดีกับผู้บริโภคครับการใช้งานก็ไม่ขี้เหร่แถมดีซะอีกบางอย่างที่เราเสียเงินซื้อ3-4หมื่นต้นทุนอาจจะไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำกำไรอื้อซ่าผู้บริโภคก็รับภารควักจ่ายด้วยความภูมิใจ
ขอขำหน่อยเถอะ
คือบางความเห็นนี่เขาเป็นผู้ลงทุนหรือเป็นญาติผู้ผลิตหรือไง พอแบรนด์ที่ไม่ชอบขายดี ก็บอกได้กำไรน้อย สู้แบรนด์ที่ฉันชอบไม่ได้ กำไรเยอะกว่า คือ มันมีประโยชน์อะไรครับ
ผมคนนึงไม่สนหรอกครับ ว่า ผู้ผลิตจะขาดทุนกำไรยังไง เรามองในมุมผู้บริโภค ถ้ามีเงินเหลือจริงๆก็เอาไปบริจาคให้องค์กรการกุศลครับ
ตลกมาก จะเอาชนะความคิดคนอื่น จนหน้ามืดตามัว อารมณ์แบบว่า วิ่งแข่งสู้เขาไม่ได้ ก็จ้างมอไซค์ขี่แซงเอา
เห็นด้วยครับอวยเรื่องกำไรต่อหน่วยสูงกลับกลายเป็นว่าคนอวยเหมือนเสียรู้เจ้าของแบรนด์ที่ต้องควักเงินจ่ายสินค้าที่บวกกำไรไปหลายร้อย%ของต้นทุนแล้วนั่งภูมิใจโปรโมทให้เค้าอีก555
ปัญหาเดียวของ apple คือราคา
ฮาตรงที่บอกเเบรนด์จีนกำไรน้อย ขายเเบบไม่มีกำไร ผมซื้อของ koolnee มา ram 6 ความจำ128 เเบต4000 จอ6.1นิ้ว สู้เเดดด้วยสีสวยไม่ได้เเย่เลยจอไใ่มีปัญหาเลย ลำโพงก็ไม่ได้เเย่ กล้องระดับกลาง 5500 บาทมือ1 ใช้มาเกือบปีเเล้วไม่เห็นมีปัญหาอะไร ราคานี้หัวเห่ย เสี่ยวหมี่ไม่โดดลงมาเล่นเเน่ ใครบอกกำไรน้อย Apple ไม่ต้องพูดถึงเลยเรื่องกำไร
เรื่องกำไร เรื่องแผนการตลาดที่เค้าจะทำแบบไหน ก็ได้
จะโปรโมทแบรนด์ตัวเองโดยขายไม่แพงแต่ยังได้กำไรก็ได้นี่
โฆษณา กิจการมต่างๆ ภาพลักษณ์ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นตัวเพิ่มราคา
ถ้าใครยึดติดก็จ่ายเพิ่มไปตามความพึงพอใจ เชื่อมั่นในแบรนด์ที่ตัวเองชอบไป
กำไรไม่ได้มาเป็นตัวเงินอย่างเดียวนะ.
ซัมซุงมันแพงเกินไปกับสเปคที่ได้มามันไม่คุ้ม ค่ายอื่นเขาถุกลง สเปคแน่นกว่าเยอะ ถ้าเปนแบบนี้อีกหน่อยเดียวเหมือนไอโฟนลดการสั่งผลิตลง ดุด้วยสมัยนี้มันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เงินทองหายากคุนคิดถึงผุ้บริโภคมั่ง เอาแต่ขาย อีกหน่อยรั้งท้ายแน่ ตัวตีตลาด หัวเว่ย ออปโป้ เสี่ยวหมี่ คอยดุเหอะ
จะว่าแบบนั้นมันก็ไม่ใช่ซะทีเดียวนะครับ
ขายแพงกว่า แต่ได้บริการที่ดีกว่า อย่าง galaxy gift หรือเวลาซ่อมไม่ต้องรออะไหล่นาน เวลาผ่านไป 2-3 ปียังมีอะไหล่ขายอยู่ เหล่านี้แบรนด์จีนที่ขายราคาถูกไม่มีให้ ซึ่งก็ต้องชั่งใจเอา เพราะบางคนก็ไม่ได้แคร์ ไม่ได้ใช้ เสียก็ซือใหม่ ในขณะที่บางคนไม่