หลังจากได้เห็นข่าวเปิดตัวทั้ง Galaxy S เอ้ย Nexus S พร้อมกับ Gingerbread กันไปแล้ว หลายๆคนอาจจะให้ความสนใจกับเจ้า Nexus S กันจนลืมดูถึงความงามของเจ้าขนมปังขิงกันได้ ผมเลยขอถือโอกาสสรุปความสามารถของมันที่เพิ่มขึ้นมาจากที่ท่าน nuuneoi ได้ทำไว้แล้วที่ “วีดีโอแนะนำ Android 2.3 “Gingerbread” อย่างเป็นทางการ มีอะไรใหม่ มาดูกัน!!” เลยแล้วกัน ว่ามันมีอะไรเจ๋งๆซ่อนอยู่ในขนมชิ้นล่าสุดจากทาง Google บ้าง

เริ่มจาก

168x280168x280

1. ปรับปรุง UI ให้มีความเรียบง่ายไหลลื่นและประหยัดไฟมากขึ้น โดยทำ graphic โดยรวมให้เป็นสีดำ…เหล่าหน้าจอ AMOLED ได้รับอานิสงค์ตรงนี้กันไปเต็มๆ 🙂

217x260229x160

2. ปรับปรุงคีย์บอร์ดให้สามารถพิมพ์ได้สะดวกและมีความแม่นยำมากขึ้น และใช้ประโยชน์จาก multitouch มากขึ้นด้วยการให้กด shift+ และ ?123+ เพื่อพิมพ์เลขและสัญลักษณ์ต่างๆได้โดยไม่ต้องสลับหน้า หรือกดค้างที่ตัวอักษรต่างๆเพื่อเรียก popup ขึ้นมาก็ได้

3. copy/cut/paste มี cursor ให้เลือกตัวอักษรแล้ว หรือสามารถแตะหนึ่งทีเพื่อเลือกทั้งคำนั้นๆเลยก็ได้เช่นกัน ตัวนี้ทำออกมาแล้วเหมือนบน iOS เด๊ะ ซึ่งใช้ง่ายมากกก

168x280168x280

4. ปรับปรุงเรื่องการจัดการพลังงานให้ดีขึ้นด้วยการมีการเก็บสถิติการกินไฟของแต่ละ app ได้อย่างละเอียด ซึ่งสามารถช่วยให้เราติดตามดูได้ว่ามีโปรแกรมไหนกินไฟเครื่องเรามากผิดปกติ และสามารถสั่งหยุดการทำงานหรือ uninstall ทิ้งไปเสีย

5. ควบคุมการทำงานของโปรแกรมได้ดีขึ้น(ดูแล้วเหมือน task manager อ่ะนะ) ซึ่งคงไม่ใช่มีเพื่อให้เรา kill app ตลอดเวลานะครับ แต่เพื่อให้เราได้รู้ว่ามี app ไหนกิน mem หรือมีปัญหา ก็สามารถที่จะสั่งหยุดหรือ report ให้นักพัฒนาได้สะดวก

6. สามารถจัดการข้อมูลและความสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น อ่านแล้วอาจจะงงๆเพราะผมก็งงเหมือนกัน แต่เห็นว่าปรับปรุงเรื่องการรวมรายชื่อโทรศัพท์ให้สามารถรวมกันง่ายขึ้น จากที่หลายๆครั้งเราต้องเอา contact บน gmail มารวมกับเพื่อนบน facebook เอง 🙂

230x190236x190232x190

7. รองรับการโทรแบบใช้ internet ซึ่งก็ถ้าใครมี SIP account อยู่แล้วก็เอามาใช้ได้ และในเบอร์ของเพื่อนก็สามารถเพิ่มเบอร์ที่เป็น SIP Address โดยสามารถเอาไปผูกกับ contact ได้ทันที

8. Near-field Communication รองรับการอ่านและตอบสนองต่อ NFC tags โดยในประเทศที่เจริญๆเช่น ญี่ปุ่น อเมริกา เริ่มมีเทคโนโลยีเหล่านี้ใช้กันแล้ว โดยคุณจะสามารถเดิมไปแตะหรือปัดที่ป้ายโฆษณา โปสเตอร์ หรืออื่นๆที่มี tag นี้มันก็จะอ่านค่าที่เก็บไว้มาทันที เรียกว่ามาแทน QR code นั่นเองแหละครับ อย่างไรก็ดีความสามารถนี้จะขึ้นกับ HW ของเครื่องเราด้วยนะครับ ว่าทางผู้ผลิตมีการ built-in มาให้ด้วยหรือเปล่า 🙂

9. download manager ใหม่ที่จะสามารถเรียกใช้จากทุก applications ไม่ต้องมานั่งเขียนกันเองอีกต่อไป และช่วยในเรื่องการจัดการไฟล์ที่ download มาได้ทั้งหมด รวมถึงการโหลดไฟล์ใหญ่ๆได้อีกด้วย

10. รองรับการมีกล้องมากกว่าหนึ่งตัว ก็แน่นอนว่าออกมาสำหรับการทำ video call …น่าจะมีใครเขียนให้สามารถต่อเพิ่ม เอากล้อง dslr ต่อพ่วงเข้าไปได้นะ 😛

นอกเหนือจากที่ได้ทาง google ได้ประกาศมาอย่างเป็นทางการแล้ว เราก็จะได้เห็นจากที่ท่านเนยเขียนไว้ก่อนหน้าว่า มีการรองรับการใช้งานได้ในหลากหลายประเทศมากขึ้น สามารถตัดคำไทยได้ถูกต้องและน่าจะมีคีย์บอร์ดไทยให้เราๆได้ใช้กันแล้ว(มั้ง) 😀 และเห็นว่ามีการปรับปรุงเรื่องของ calendar ด้วยโดยมี UI ที่สวยขึ้นบ้างอะไรบ้าง แต่ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไร คาดว่าต้องรอ Gingerbread ถึงมือชาวเราก่อนถึงจะได้ลองกันแบบเต็มๆอีกทีครับ

ข้อมูลสำหรับนักพัฒนาก็จะมีการพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติมให้ตัว OS เองมีประสิทธิภาพมากขึ้นเยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นด้านการเขียนเกม การติดต่อสื่อสาร แล้วก็การรองรับพัฒนาภาพเสียงได้ดีขึ้น ซึ่งผมขอข้ามไม่เขียนรายละเอียดอะไรมากมายเพราะมันจะเยอะเกิน ขอสรุปที่น่าสนใจไว้สักเล็กน้อย เช่น

1. มีการเพิ่ม KeyEvent ปุ่ม L1, L2, R1, R2, และอื่นๆสำหรับ support การเรียกใช้งาน
– หมายความว่ามีโอกาสจะได้เห็น android ทำเป็นเครื่องเล่นเกมเพียวๆแบบ PSP ได้เลยสินะ 😀
2. มีการเพิ่ม API ในการเรียกใช้พวก gyroscope หรือ censor อื่นๆในอนาคต
– ต่อไปอาจจะได้เห็น android ในหลากหลายจุดประสงค์การใช้งานมากกว่าเป็นแค่โทรศัพท์
3. Concurrent Garbage Collector เทคโนโลยีใหม่จาก Dalvik VM ที่ช่วยลดปัญหาเครื่องการหยุดค้างในเกมหรือบาง application ลงได้

ส่วนในเรื่อง Honeycomb ที่ได้เห็นจากที่เฮีย Andy Rubin เอามาปล่อยหลุดเองซะงั้น มีที่น่าสังเกตหลายอย่างคือ
1. ท่าทางจะชัวร์แล้วว่า Android 3.0 หรือ Honeycomb นี้เตรียมมีการ redesign UI ทั้งหมดใหม่แน่นอน เห็นได้จากมี unlock screen ที่เจ๋งขึ้น drawer สุดสวย และอีกหลายๆอย่างที่กำลังจะเปลี่ยนไป เพราะนี่ยังเป็นเพียงตัว prototype แบบสุดๆนันเอง

2. รองรับ Tablet ซะทีโดยสัมปทานเจ้าแรกที่ออกมาและทำร่วมกับ Google ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Motorola ที่ทาง Andy เอามาใช้โชว์นั่นแหละ โดยที่น่าจะใช้ชื่อว่า Motopad

3. Button less บอกลาปุ่ม back home search menu กันได้ไม่ต้องมีปุ่มบนเครื่องกันแล้ว จะได้สามารถหมุนไปทางไหนก็ยังมีให้กดใช้ได้ง่ายๆ

4. มี API สำหรับการแสดงผลแบบ Tablet ซึ่งสามารถเพิ่ม column ขึ้นมาให้แสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้พื้นที่บนหน้าจออย่างคุ้มค่า (นึกภาพไม่ออกก็ดูตัวอย่างจาก iPad ละกัน :P)

5. Honeycomb จะสร้าง fragmentation แน่นอนเพราะมันจะแยกการใช้งานระหว่าง โทรศัพท์ และ tablet หลายๆฟีเจอร์บน tablet จะไม่สามารถเรียกใช้ได้จากมือถือ

ที่มา androidandme, developer.android.com, www.wikipedia.com