Counterpoint ได้ออกรายงานวิเคราะห์ตลาดสมาร์ทโฟน โดยชี้ให้เห็นว่ายอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกในปีนี้อาจหดตัวลง 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จาก 1,225 ล้านเครื่อง เหลือ 1,147 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบทศวรรษ โดยมีสองประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีน ร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในโซนเอเชียเป็นสาเหตุสำคัญในการฉุดรั้งตลาด — คาดว่า Apple จะเป็นแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากสถานการณ์ในปีนี้

รายงานระบุว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีไม่ได้เป็นไปทางที่หวังเท่าไหร่นัก ผู้คนในประเทศจึงระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น โดย Karn Chauhan จาก Counterpoint ได้ให้ข้อมูลกับ CNBC ว่า ครั้งหนึ่งจีนเคยมียอดขายสมาร์ทโฟนสูงถึง 450 ล้านเครื่องต่อปี แต่ตอนนี้ลดเหลือเพียง 270 ล้านเครื่องต่อปีเท่านั้น จึงไม่แปลกที่การสะดุดใด ๆ ของจีนจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ถึงกระนั้น หากนับเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียมที่มีราคาสูงในจีนกลับเติบโตอย่างสวนทาง โดย Canalys วิเคราะห์ว่าจะส่งผลดีต่อ Apple ที่กำลังจะเปิดตัว iPhone 15 ในเดือนกันยายน เหตุเพราะ Apple มีฐานลูกค้าเดิมจากระบบนิเวศน์ของตน คนที่ผูกติดกับ iOS ไปแล้ว จะเปลี่ยนระบบทีหนึ่งก็ยุ่งยาก ทางเลือกที่ง่ายที่สุดคือซื้อเครื่องรุ่นใหม่ยี่ห้อเดิม ซึ่งมีตัวเลือกเพียงแบรนด์เดียว ในจุดนี้แตกต่างจากฝั่ง Android ที่แต่ละค่ายต่างต้องรบพุ่งชิงดีชิงเด่นกันเองอย่างดุเดือด

ในกรณีของสหรัฐฯ แม้จะทยอยฟื้นตัวจากสภาวะเงินเฟ้อได้เป็นลำดับ แต่สื่อต่างประเทศให้ความเห็นว่ายังอยู่ในระดับ ‘น่าผิดหวัง’ เช่นกัน ทั้งยังมีรายงานอีกฉบับหนึ่งที่น่าสนใจคือ ยอดสั่งซื้ออะไหล่มือถือในอเมริกาและทั่วโลกพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ว่าผู้ใช้งานเลือกที่จะใช้มือถือเครื่องเดิมต่อโดยไม่อัปเกรดรุ่น และหากมีชิ้นส่วนใดเสียหาย ก็เลือกที่จะซ่อมแทนการซื้อใหม่เพื่อประหยัดเงิน

 

ที่มา : CNBC | Bloomberg | Counterpoint