จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ทางกรมขนส่งฯ ได้ทำการแบนทั้ง Grab Bike และ Uber MOTO ด้วยเหตุผลว่าผิดกฎหมาย พร้อมให้หยุดให้บริการทันที มาวันนี้เหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิ้นบังเอิญที่ทางสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ก็ผุดแอพพลิเคชั่น GoBike ออกมาแทบจะทันทีพร้อมการันตีว่าถูกกฎหมาย และได้รับการรับรองจากทางกรมขนส่งฯ เรียบร้อย
มาดูรายละเอียดของแอพ GoBike กันสักเล็กน้อย
ฟีเจอร์ของแอพ GoBike
เลือกตำแหน่งรับ-ส่ง ให้มารับจากหน้าประตูบ้านได้เลย
แจ้งราคาค่าโดยสารได้ชัดเจน ไม่มีการโก่งหรือต้องต่อราคา
ติดตามตำแหน่งของวินคนขับที่ให้บริการ พร้อมประมาณเวลาถึงที่หมายได้
ติดตามประวัติการเดินทางและและระบุตัวคนขับได้
การใช้งาน
ต้องมีการลงทะเบียนก่อน และยืนยันตัวตนด้วยเบอร์โทรศัพท์
ไม่มีให้เลือกช่องทางชำระเงิน จ่ายตรงกับพี่วินเป็นเงินสดเท่านั้น
อัตราค่าบริการ GoBike
ตัวแอพ GoBike ไม่มีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งเท่าที่สอบถามทางจนท. เห็นว่าเป็นไปตามกฎหมายที่ได้เขียนเอาไว้ ซึ่งทางผมได้ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้มาประมาณนี้นะครับ
อัตราค่าโดยสารรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
ระยะทาง | ค่าโดยสาร | หมายเหตุ |
น้อยกว่า 2 กม. | ไม่เกิน 25 บาท | จะคิด 5 บาท 10 บาท ก็ได้ ตามแต่ที่วินจะเรียก แต่ห้ามเกิน 25 บาท ภายในระยะทาง 2 กม. |
2-5 กม. | กม. ละ 5 บาท | ภายในระยะทาง 5 กม. วินจะเรียกค่าโดยสารได้สูงสุดไม่เกิน 25 + 15 = 40 บาท |
5-15 กม. | คิดได้สูงสุด กม.ละ 10 บาท ตั้งแต่กิโลเมตรแรก | เมื่อโดยสารระยะทางราว 7 กม. คนขับเรียกได้สูงสุด 70 บาท หรือน้อยกว่า |
มากกว่า 15 กม. | แล้วแต่ตกลงระหว่างผดส. กับคนขับ หากไม่ได้ตกลงเอาไว้ก่อน คิดได้ไม่เกิน กม.ละ 10 บาท | เดินทางไกลๆ คนขับสามารถต่อรองราคาได้ตามต้องการ จะเกินกม.ละ 10 บาทก็ทำได้ เอาที่พอใจทั้งสองฝ่าย แต่กรณีที่ไม่ได้ตกลงไว้ก่อน คนขับคิดค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน กม.ละ 10 บาทเท่านั้น |
อ่านแบบเต็มๆได้จาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มีนาคม 2559 นี้เอง
จากการทดสอบลองเรียก GoBike จาก ซอยอ่อนนุช ไปยัง MRT สามย่าน ระยะทางประมาณ 10-11 กม. ก็พบว่า ระบบได้ทำการชาร์จเงินที่ 100 บาท ซึ่งก็เป็นเรตที่เป็นไปตามที่กฎกระทรวงได้กำหนดเอาไว้แล้วนั่นเอง
เปรียบเทียบกับค่าบริการของ GoBike vs Grab Bike vs Uber MOTO
GoBike | Uber MOTO | Grab Bike | |
ค่าบริการเริ่มต้น | 20 บาท | 10 บาท | 10 บาท |
ค่าโดยสาร กม.ละ | 5-10 บาท | 3.5 บาท | 5 บาท (ตั้งแต่กม.แรก) |
+เวลา นาทีละ | – | 0.85 บาท | – |
รับส่งพัสดุ-เอกสาร ฝากซื้อของ | – | – | 20 บาท |
ค่าโดยสาร กม.ละ | – | – | 9 บาท / กม. |
ประมาณการค่าโดยสาร แบบคร่าวๆ | |||
ค่าโดยสารระยะ 1 กม. | 20 บาท | 14.35 บาท | 15 บาท |
ค่าโดยสารระยะ 2 กม. | 25 บาท | 18.70 บาท | 20 บาท |
ค่าโดยสารระยะ 3 กม. | 30 บาท | 23.05 บาท | 25 บาท |
ค่าโดยสารระยะ 4 กม. | 35 บาท | 27.40 บาท | 30 บาท |
ค่าโดยสารระยะ 5 กม. | 40 บาท | 31.75 บาท | 35 บาท |
จะเห็นได้ว่า GoBike ที่ทำการคิดค่าบริการแบบถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะยังแพงกว่าของ Uber MOTO ที่ราว 20.63% และ Grab Bike ที่ราว 25.98% ไม่นับรวมกับเหล่ามอไซด์รับจ้างบางแห่งที่โก่งราคาขึ้นไปเหนือจากกฎหมายกำหนด ก็น่าจะยิ่งทำให้ส่วนต่างมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ซึ่งจากการสาเหตุข้างต้นนี้ ก็น่าจะเป็นตัวที่บอกได้ว่าทำไมคนถึงเลือกใช้ Uber และ Grab มากกว่า และเหล่าพี่วิน พี่สุชาติ ที่มีต้นทุนแพงกว่าหลายเท่า จากทั้งค่าเสื้อวินที่บางแห่งมีมูลค่าขึ้นไปถึงหลักแสน ค่าเหมาจ่ายใบสั่ง ค่ามาเฟียคุ้มครอง ถึงต้องเดือดร้อนและพยายามหาทางหยุด Grab และ Uber ลงให้ได้นั่นเอง
ปล. ข้อมูลข้างบนไม่ได้มโนขึ้นมาเองนะ เอาจากข่าวเก่าของ คมชัดลึก และ thaiinfonet มาครับ
ก่อนที่จะออกทะเลไปไกล กลับมาที่เรื่องของแอพกันต่อดีกว่า
ประสบการณ์ใช้งานเบื้องต้น และปัญหาที่พบจากแอพ GoBike
ตัวแอพยังไม่สมบูรณ์ไหร่ มีฟีเจอร์มาให้ไม่มาก
หารถไม่ได้ในหลายๆที่ ที่เจอตอนนี้คือแถวๆอ่อนนุช
มีมอไซด์แสดงบนหน้าจอ แต่กดเรียกไปก็ไม่รับผู้โดยสารอยู่ดี
ลงทะเบียนแล้วไม่สามารถเปลี่ยนชื่อ หรือว่าอีเมล์ได้ (น่าจะมีอัพเดทแก้ไข)
- ไม่มีฟีเจอร์ให้กด report คนขับได้ กรณีพบการโก่งเงิน ขับไม่มีมารยาท ขับขึ้นฟุตบาท ขับย้อนศร ฯลฯ
ไม่มีให้ระบุประเภทของงานว่าต้องการให้คนขับทำอะไรบ้าง
ภาพจากเว็บ gobike.asia ทำให้เข้าใจว่าต่อไปน่าจะมีบริการรับส่ง-ซื้อของได้ในอนาคต
สิ่งที่แอพไม่ได้บอก
ยังเรียกไม่ได้ทุกเขตขณะนี้ได้อยู่ระหว่างการอัปเดตข้อมูลพื้นที่และราคาให้สอดคล้องกับพื้นที่การให้บริการ
กดดูช่วงนี้จะขึ้นแบบนี้ซะมากรอความเห็นชอบจากผู้บริหารกระทรวงคมนาคม
คนให้บริการเป็นเหล่าพี่วินมอไซด์รับจ้าง ไม่ใช่ใครๆก็สมัครได้
ยังคงกฎเกณ์เรื่องของการห้ามวิ่งข้ามเขตอยู่
ไม่ใช่ใครๆก็สามารถสมัครเป็น Biker ได้ ณ ตอนนี้ต้องเป็นวินที่มีสังกัด มีเสื้อวินใส่เท่านั้น
GoBike เป็นของใคร
ทางเรายังไม่พบข้อมูลที่ชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของหรือว่าพัฒนาแอพนี้ แต่เท่าที่ทราบก็คือ แอพนี้เป็นของบริษัท GoBike Co.,Ltd ซึ่งตั้งอยู่ที่ 1108/31 ถ.สุขุมวิท, พระโขนง, คลองเตย, กรุงเทพนี้เอง เพิ่งจดทะเบียนบริษัทไปเมื่อ 18 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา และจดโดเมนต่อในวันที่ 23 ธันวาคม ทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท โดยมีกรรมการบริษัท คือนายเลียน วา เซง คาดเป็นชาวมาเลเซีย จากที่อยู่ในการจดโดเมนเนม
สรุป
แอพ GoBike จัดว่าเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการโดยสารด้วยบริการมอเตอร์ไซด์รับจ้าง แต่น่าจะต้องรอให้ตัวแอพมีการพัฒนาให้สมบูรณ์ขึ้นจากตอนนี้อีกสักพัก ยังขาดฟีเจอร์จำเป็นๆ โดยเฉพาะส่วนที่มาคอยควบคุมคุณภาพและบริการ เช่น การร้องเรียน การติดตามผล พร้อมบทลงโทษชัดเจน ซึ่งนั่นเป็นจุดแข็งของ Grab Bike และ Uber MOTO ที่ถูกแบนไป ถ้าไม่มีฟีเจอร์นี้แล้วไซร้ แอพและผู้ให้บริการจะถูกกฎหมายยังไงก็คงไม่ได้ช่วย
ใครที่เป็นเป็นแฟนของทั้ง 2 แอพนี้ ก็ช่วยกันลุ้นให้เค้าเปิดบริการได้อีกครั้งแบบถูกต้องตามกฎหมาย จะได้หมดข้อครหาไปนะ (แต่เป็นไปได้แค่ไหนนี่ไม่รู้)
สนใจไปดาวน์โหลดแอพกันได้ที่
ปล. เป็นเรื่องน่ายินดีที่นายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย ที่เป็นคนมาเปิดตัวแอพ GoBike นี้ ได้บอกว่า
“อนาคตกรมการขนส่งทางบกจะอนุญาตให้เอกชนเข้ามาร่วมทำหน้าที่เหมือนรถจักรยานยนต์รับจ้างนั้น ส่วนตัวมีความเห็นด้วย เพราะมองว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน แต่อยากให้ดำเนินการภายใต้กฎหมายที่ถูกต้อง”
เป็นสัญญานที่ดีต่อแอพทางเลือกอื่นๆ ว่าเหล่าพี่วินเค้าเปิดใจยอมรับนะ แต่ไม่รู้ว่าที่พี่พูดแบบนี้ ปรึกษากับกลุ่มผลประโยชน์รอบด้านหรือยังนะ อิอิ
ที่มา INN News, โทรสอบถามทางจนท.ของ GoBike
มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ถ้าเป็นของขนส่งเองจบ ไม่ต้องคุยต่อ
ถ้าเป็นของเอกชน แปลว่ามีการ ใต้โต๊ะกับขนส่ง
ควรได้รับการตรวจสอบ เพราะมีการผูกขาด ไม่ได้รับการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
ถ้าเป็นอย่างหลัง ไม่ควรใช้งาน ควรจะร่วมกันแบน ไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีในสังคม
เห่อๆๆๆๆ ไม่อยากจะพูดเลย
วันไหนสังสรรค์จนแอลกอล์ฮอล์เกินค่าที่ตำรวจกำหนด จำเป็นต้องเรียกใช้บริการแท็กซี่
ขาไปหัวค่ำพอเรียกได้ ขากลับมันลำบ๊ากกกกกกลำบาก uber ก็ไม่มีแล้ว กราบแท็กซี่(grab taxi)ก็ไม่มีแล้ว
พี่แท็กซี่เค้าก็ไม่ค่อยเติมแก๊สวิ่งกัน โบกทีไรแก๊สหมด แก๊สหมด อู่แท็กซี่ก็ใจร้ายให้เช่าไม่กี่นาทีก็จะให้แท็กซี่รีบเอารถไปคืนอู่ บางคันเห็นเราเป็นผู้ชายที่น่ากลัวโบกตอนกลางคืนก็ไม่รับ รับแต่ผู้หญิง
พอจะขับรถไปเองก็ต้องคอยหลบหลีกพี่ตำรวจ ไม่เจอก็ดีไปแต่ถ้าเจอพี่เค้าก็จะพาไปเลี้ยงข้าวแดงฟรี
โปรแกรมรณรงค์ให้ประชาชนไม่ดื่มเหล้าของ"สสส"ช่างแยบยลจริงๆ นับถือนับถือ
ดูดีๆ ครับ ที่ไม่มีน่ะ มันคือส่วนของมอเตอร์ไซค์ไต่ถัง ไม่มีแล้ว uberMoto เนี่ยหายไปแล้ว
แต่ grabTaxi นี่ยังมีแน่ๆ เพราะเขาเอาป้ายเหลืองมาวิ่งรับคนผ่าน app ไม่ใช่รถสาธารณะแบบ uber ยังไงก็ไม่ผิดครับ ส่วนของ grab Bike ถามว่ามีไหม จริงๆ คนที่ขับ grab Bike ด้วยรถป้ายเหลือง (มอไซค์รับจ้าง) ก็มีนะ ไม่ใช่ไม่มี เหล่านี้น่าจะวิ่งได้ไม่ผิดกฏหมาย (แต่ผิดกฏมาเฟียหรือเปล่าอันนี้ผมไม่รู้) เคยคุยกับคนขับ grab Bike ตอนที่กรมขนส่งออกมาฮึ่มๆ รอบแรก เขาบอกเขาไม่กลัว เพราะของเขาเป็นป้ายเหลือง แค่ไม่ได้วิ่งที่วินเฉยๆ
ลองกดเรียกดูก่อนเองแล้วค่อยบ่นน่าจะดีครับ
ช่วงเวลาเร่งด่วน ปกติก็มีลูกค้าเยอะอยู่แล้ว บางพื้นที่ก็โก้งราคาได้อีก
ไหนจะมีระบบคิวของแต่ละวินอีก
ต่อไป นอกจากค่าเสื้อแล้ว คงต้องมีค่า Member ของ App อีกมั้งเนี่ย 555
แต่หน้าสนใจตรงระบบบุฟเฟ่ต์ใบสั่งนี่แหละ
200 บาทต่อเดือน แถมไม่มี FUB อีก
ไม่รู้ว่าครบคลุมทั่วประเทศหรือเปล่า
เฉพาะในเขตครับ ข้ามเขตไปตำรวจนอกเขตไม่รู้จักคุณ
ถุยครับ
มอเตอร์ไซค์ธรรมดา 2.8 กิโลเมตรวัดจาก google map ตามเส้นทางวิ่งจริง
2.8 กิโลเมตร โดนไป 40บาทครับ
แจ้งใครได้ที่ไหน
อยู่ได้อยู่ไปครับ ประเทศนี้
คำเดียวเลย "เอาที่สบายใจ"
ตรงรายละเอียด app
ปลอดภัยด้วยระบบ GPRS บอกตำแหน่งผู้ขับขี่และรายงานสถานะผลการรับ-ส่ง
ค่าเสื้อ วิน ไปอยู่ที่ใครว๊าาา thailand only ชาตินี้กินได้ทุกอย่างงงงง
อยู่ที่คนที่ไปขอจดทะเบียนวินกับกรมขนส่งครับ แล้วแต่จะเรียกว่าเสื้อตัวนึงเท่าไหร่
หรือ มีพวกที่ไปซื้อมา แล้วปล่อยเช่าก็มี กินยาวกันไป
แทนที่จะเรียกเอกชนมาคุย ดันทำเองซะงั้น แล้วก็มาบ่นว่าไม่ค่อยมีต่างชาติมาลงทุน
เอาที่ท่านสบายใจเลยจ้า
เขาทำคู่กันมาก่อนหน้านั้นหลายเดือนแล้วครับ ตั้งแต่กุมภาโน่น แต่ไม่มีงบโปรโมทอะไรเลย คนเลยไม่รู้จัก ไม่ใช้กัน ประกอบกับบั๊กเพียบ และเอกชนราคาถูกกว่า เลยต้องกำจัดเอกชนไปก่อน
คนคิดสคริปต์นี่ก็..มาก คิดว่าคนเรานอนตื่นมาแล้วจะลืมเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อนหรือไง ทำแบบนี้นี่ดูจงใจแบบทุเรศมาก
อันนี้เหมือนเป็นของสมาคมหรือชมรม วินมอเตอร์ไซท์เค้าทำเองนะ ยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากกรมขนส่ง พอดีดูทีวีเมื่อตอนค่ำเห็นมาสัมภาษณ์
ว่าแต่เอาเข้าจริงๆ ผมว่าก็ให้สองเจ้านั้นไปปรับราคาอัตราค่าโดยสารให้เป็นไปตามข้อกำหนดแล้วบวกเพิ่มค่าธรรมเนียมเอาแล้วก็ให้พี่วินทั้งหลายไปสมัครวิ่งรถด้วย มันก็น่าจะเพียงพอนะ
รัฐบาลให้ทุนด้วยสองแสน สำหรับการทำ app ตัวนี้ครับ พอจะเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นไหมครับว่าทำไมต้องเอาเอกชนออก
ฮาซะ