หรือเราจะเดินทางมาถึงตอนจบที่แท้จริงของแอพพลิเคชั่นเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างอย่าง Uber Moto และ Grab Bike จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกตัวแทนมาพูดคุยเรื่องกฏหมายไปแล้วหนึ่งครั้งแต่ก็ยังไม่มีใครปฏิบัติตาม มาคราวนี้กรมการขนส่งฯ เอาจริงสั่งยุติการให้บริการของทั้งสองเจ้าทันที
โดยนายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการจนส่งทางบกได้เคยเรียกทั้ง Uber Moto และ Grab Bike มาหารือไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับการรับบุคคลสาธารณะที่มีรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการรับจ้างนั้นผิดกฏหมาย เพราะกฏหมายระบุไว้ชัดเจนว่า
“รถจักรยานยนต์ที่จะนำมารับส่งผู้โดยสารได้ต้องจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ และผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ”
เรียกง่ายๆ ก็วินมอไซต์ที่มีคิววิน มีบัตรประจำตัวและหมายเลขที่ตรงกับกรมขนส่ง มีเสื้อวินที่ถูกกฏหมายเป็นของตัวเองนั่นแหละ ซึ่งการที่บุคคลทั่วไปมาให้บริการรับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่นแบบนี้ก็อาจจะเป็นการแย่งรายได้จากวินจักรยานยนต์ที่ถูกกฏหมายนั่นเอง
โดยล่าสุดรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝ่ายเทศกิจเขตปทุมวัน ได้ออกมาแถลงข่าวให้ทั้ง Uber Moto และ Grab Bike ยุติการให้ริการในทันที โดยมีข้อความดังนี้
“แต่ที่ผ่านมายังพบพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย โดยทั้ง 2 บริษัท ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และเปิดรับสมัครผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาเป็นสมาชิกเพื่อให้บริการรับจ้างอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีพฤติกรรมแก่งแย่งผู้โดยสารจากวินจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้อง การเข้ามาของ Uber Moto และ Grab Bike ได้สร้างความไม่เสมอภาคและความไม่เป็นธรรมให้กับรถจักรยานยนต์สาธารณะที่เข้าสู่ระบบการจัดระเบียบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก่อให้เกิดความแตกแยกและมีผู้ได้รับผลกระทบซึ่งสร้างความไม่สงบในสังคม และอาจเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บผลประโยชน์จากการให้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะ ดังนั้น ขอให้ทั้ง 2บริษัทยุติการให้บริการโดยทันที หากยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง จะดำเนินการตามระเบียบของ คสช.ต่อไป”
หากยังเพิกเฉย ฝ่าฝืน หรือ ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย จะถูกดำเนินการตามระเบียบของ คสช. โดยจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยตรวจตราความถูกต้องทั้ง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่เทศกิจ และ เจ้าหน้าที่กรมขนส่ง คอยลงพื้นที่ตรวจตราจับกุมผู้กระทำความผิด หากยังพบผู้กระทำผิดซ้ำอาจจะต้องพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถกันไปเลย
เริ่มเอาจริงซะทีสินะ
แล้วพวกที่ถูกกฎหมาย แต่ทำผิดกฎหมายละ เอาไงดี
ถ้ากรมการขนส่งฯ เอาจริงเหมือนไล่บี้กลุ่มในข่าวจะดีมากครับ 😀
"มีพฤติกรรมแก่งแย่งผู้โดยสาร" ผมก็เข้าใจว่าผู้โดยสารเป็นคนเรียกมาตลอดเลยน่ะ…
สรุปว่า กรมการขนส่งฯ เสียผลประโยชน์ในเรื่องนี้หรอครับ ?
หรือ องค์กรไหนเสียผลประโยชน์ในเรื่องนี้ ? เพราะเท่าที่เข้าใจ คนได้ประโยชน์คือ ประชาชนผู้ที่ถือเป็นผู้บริโภค คือมีตัวเลือก (ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่) มากขึ้นในการเดินทาง
ถูกแล้ว เพระาก่อนหน้านี้ก็มีข่าวแบบ นี้ถึงขนาดนั้น วินขยะบอก อย่ามากดแอพเรียกรถแถวนี้ ขรรม หุหุ รอบที่แล้วก็ Uber ดีกว่าแท็กซี่ขยะจากไทยเยอะ โดนอีกแล้ว หุหุ ขรรม
เขาคงทำตามกฎหมายนะ
หลาย ๆคนอาจเกิดคำถามในใจ "เลือกปฏิบัติหรือเปล่า ?" ทำไมบางพวกทำผิดถึงไม่ลงโทษละ
ผมว่าน่าจะมีการขัดผลประโยชน์กันด้วยครับ
เสื้อวินก็มีราคานะครับ
ตั้งแต่ 10,000 บ.ไปถึง 500,000 บ.ตามแหล่งขี่
ทับซ้อนเขตที่ขี่กันไม่ได้(เคยอ่านบทความมา)
เหมือน Grab กับ Uber จะมาทำลายกฏมาเฟีย
หัวหน้าใหญ่มาเฟียจึงสั่งการกำจัดทิ้ง
รอดูต่อไป อนาคตประเทศไทยครับ
วินดีๆเดี๋ยวนี้หายาก
อย่างผมนั่งวินจากบิ๊กซีพระราม 4 ไปริชม่อนวินมองหน้าแล้วถามก่อนเลยนะ
"ทำไมไม่ขึ้นฝั่งนู้น เขาคิดคนละราคากันนะ รู้มั๊ยผมต้องเสียเวลากลับรถบลาๆๆๆๆ"
วินเป็นวัยรุ่น+ไม่ใส่เสื้อวิน ใส่เสื้อกันลมเฉยๆ
พอจ่ายบอกไม่มีทอน พอให้เหรียญก็มองหน้าอีก
ถูกกฏ แต่ไม่ถูกใจ ประชาชน ถูกใจประชาชน แต่ไม่ถูกใจผู้เสียผลประโยชน์ อิอิอิ
รายต่อไปก็ Line Man สินะ
ตามที่เข้าใจ
uber รถยนต์ แค่มีรถป้ายเหลือง ใบขับขี่สาธารณะ ก็ไม่มีปัญหาแล้ว (แต่ไม่ยอมทำ)
ส่วนมอไซค์ พวกวิน เขาจะระบุเป็นเขตๆ ถึงมีใบขับขี่สาธารณะ ก็วิ่งแบบไม่มีวินไม่ได้
ปัญหาหลักๆ คือ คนขับ uber ไม่ได้สอบใบขับขี่สาธารณะ และรถไม่จดทะเบียนสาธารณะ
เพราะขั้นตอนยุ่งยาก และอาจจะเสียภาษีต่างๆเพิ่ม จึงไม่ทำกัน
บริการดีกว่าจริง แต่ก็ยังผิดกฎหมายอยู่ดี
หลักการของ uber ถ้าจำไม่ผิด มันคือให้เอารถส่วนตัว คนทั่วไปมาบริการ
แต่กฎหมายบ้านเรายังไม่รองรับ ก็เลยมีปัญหา
ก็อยู่ที่ว่าจะอัพเดทดฎหมายให้ทันยุค IT หรือจะใช้แบบเดิมต่อไป
หวังจะเปลี่ยนกฎหมาย คงยากครับ
หลายประเทศ เขาก็ต้องสอบใบขับขี่สาธารณะ ขึ้นทะเบียนรถสาธารณะ ถึงจะขับรับผู้โดยสารได้
ญี่ปุ่น กว่าจะได้ขับแท๊กซี่ ยากมหาโหด
แต่ uber ในญี่ปุ่น เป็นรถแท๊กซี่จริงๆ ไม่ใช่รถบ้าน เพราะรถบ้านผิดกฎหมาย
เขายังทำให้ถูกกฎหมายได้
ทำไมไม่ทำให้ถูกอย่างเขา
ไม่ได้จะแย้งว่า ให้ทำผิดต่อไป…
แค่ชี้จุดเริ่มต้นในการเติบโตของเขานะ
ถ้าเริ่มต้นจากการเอารถไปจดทะเบียน คนเข้าร่วมคงน้อยกว่านี้
ก็คงต้องดูว่าต่อจากนี้จะเอายังไง
จดแบบแทคซี่ อันนี้ต้องทำสีรถใหม่ด้วย
แบบรับจ่างไม่ประจำทาง..
http://samutsakhon.dlt.go.th/D1_02_00.html
ถ้าเคสของ Uber ผมก็อยากให้คนขับมีใบขับขี่สาธารณะ กับรถป้ายเหลืองนะครับ
ทำตามกฎหมายไป ก็น่าจะไม่ยากอะไร ไม่ต้องเป็นสังคมสีเทาๆ ด้วย
เข้าใจว่าคุณไม่มี "ความรู้" เลยยังไม่หายโง่ ชะโงกมองทั่วโ,กว่าเขามอง uber กันยังไง มองแต่ในไทยยังบอกทำแค่เสื้อ เอาป้ายมาติด แค่นั้น สิ่งดีๆ ผู้บริโภคเขาเลือกเอง ไม่ต้องยัดเยียดเอา แท๊กซี่ กับวินกากๆ แดกเยอะๆ มายัดให้ เม้นแบบ ไร้สมอง แหกตามองทั่วโลกเขาละกัน บริการยังไงก็ได้ขอแค่มันบริการได้ ไม่ใช่เอาของโง่ๆมายัด
แล้วทุกวันที่ตูนั่งวินไปทำงานนี่รับรองหมดเลยจริงป่าววะ ราคาก็โคดแพง ระยะไม่ถึง 2km โดนเก็บ 40 บาท ไม่ขึ้นก็ไปทำงานสายอีก เพราะรถเมล์มีสายเดียวที่ผ่าน office ชาตินึงมาที
วันนี้มันก็พาตัดหน้ารถไฟที่กำลังวิ่งมาจอดสถานีอีก
พอจะเข้าใจนะครับว่ามันขัดใจ แต่ลองมองหลายๆมุมนะครับ ไม่ใช่นึกจะทำอะไรก็ทำ เราเองหลายๆคนเรียกร้องนั่นนี่กัน (ระวังจะมีการทำผิดกฎหมายอื่นๆแล้วอ้างถึงเรื่องนี้ว่าทำไมทำได้ แล้วเราจะพูดไม่ออก เพราะเราเป็นผู้สนับสนุนให้การทำผิดเป็นสิ่งที่ยอมรับ)
สองรายนี้แค่ให้ผู้เข้าร่วมโครงการจดทะเบียนและสอบใบขับขี่ให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ได้แล้วมิใช่หรือ ไม่ต้องเสียค่าวินด้วย เดี๋ยวก็มีพวกที่ตามๆกันต่อมาเอง(ยุคแรกของการหักดิบทำให้ taxi ยอมติดมิเตอร์ก็ต้องอาศัยคนกล้ามาหนนึงแล้ว)
ถ้าไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะก็ผิดจริงๆแหละครับ เพราะจุดมุ่งหมายของการตั้งกฎตรงนี้คือ การขับขี่รถรับจ้าง คุณต้องมีความชัวร์มากกว่าการขับขี่รถส่วนตัว เพราะคุณต้องรับผิดชอบชีวิตของผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
นี่คือโดยหลักการนะครับ ซึ่งหลักการมันถูก และไม่ควรถูกใครบิดเบือน ส่วนที่บ่นๆกัน คือ มารยาทและ sundan ส่วนบุคคลของคนขับ(แท็กซี่, มอเตอร์ไซค์วิน, รถตู้ ฯลฯ) ครับ ถ้าจะแก้ก็ตรงแก้ที่ตรงนี้ จับปรับ ยึดใบขับขี่ อะไรก็ว่าไป ส่วนuber ถ้าจะขับ ก็ควรไปสอบเป็นเรื่องเป็นราว
ใส่เสื้อเลอะ แล้วไปยืนใกล้คนเสื้อเลอะกว่า ก็ไม่ได้ทำให้เสื้อที่เราใส่ มันสะอาดขึ้นหรอกครับ
ฟังข่าวช่องนึงแต่จำไม่ได้ว่าช่องไหน
ขนส่งบอกว่าถ้าไม่หยุดจะใช้กฏ คสช + แจ้ง Block APP ทันที
ทาง Uber ถามเลยนะว่า คสช เลยหรอ
ผมนี่แอบขำเลย 55
ยาว
ดูเหมือนเมืองไทยจะผูกขาดทุกอย่างเลย อย่างรถ taxi ในสนามบินก้อกินหัวคิว รถจักรยานยนต์รับจ้างก้อกินหัวคิว ขับรถย้อนศร จอดรถบนฟุตบาท ตำรวจไม่จับแฮะ เจ๋งดีอ่ะ นี่หรือคือสิ่งที่มองว่า ถูกต้องตามกฎหมาย
มันควรแยก รถสาธารณะประจำทาง กับไม่ประจำทางนะ
วิน แท็กซี่ ก็แยกป้ายเหลืองไป
พวก Grab Uber ก็ป้ายปกติไป
แข่งกันด้วยการบริการ คุณภาพมันก็จะดีขึ้น
ขนส่งก็โบราณเกิ๊น
แท็กซี่ แบ่งได้ 5 แบบอีก น่าจับแยกสีไปเลย 555
– แท็กซี่ไม่ประจำทาง: ไปไหนไปกัน
– แท็กซี่ประทาง: ไปแค่ตรงนั้น….ไปไม่ถึง…ส่งรถ…
– แท็กซี่วิน/วอ: บวกหัวคิว
– แท็กซี่ Inter: รับแต่ฝรั่ง
– แท็กซี่ App: ไม่ต้องโบก
มันคือ civil war แหละคับ ฝ่ายนึงต้องการขึ้นทะเบียน อีกฝ่ายคิดว่าการขึ้นทะเบียน ไม่ใช่แนวทางที่ถูก
แล้วแต่คุณเลือกว่าอยู่ทีมไหน แล้วเราก็เลือก และก็ไปแก้กฏหมายผ่านการเลือกตั้ง ถ้ามี ถ้าไม่มี ก็ถือว่าซวยไป
ส่วนผม อยู่ทีม CAP
จากที่ใช้ Uber black ก็ประทับใจดีนะครับ ไม่ต้องเสียเวลายืนโบกเรียกแบบ taxi แล้วต้องลุ้นอีกว่าจะไปไหม
ส่วน bike ยังไม่เคยใช้ แต่คงจะดัดหลังพวกโขกค่ารถแพงๆตอนวิกฤต เช่น รถไฟฟ้าเสีย ได้ดี
แต่ในแง่กฎหมายก็ผิดแหละครับ ซึ่งดูท่าทางจะไม่แก้หรือปรับให้เข้ากับยุคสมัยด้วย
น่าจะแก้ไขโดยการทำให้ถูกกฎหมายมากกว่าครับ แบบนี้กลายเป็นผูกขาดทางด้านบริการรถสาธารณะไปเลยไม่มีการแข่งขัน กำหนดราคามาจากส่วนกลางอยากขึ้นก็ขึ้น เพราะไม่ต้องแข่งกับผู้ให้บริการรายใดๆ มาตราฐานการให้บริการถึงได้เป็นแบบทุกวันนี้ไง เรียกแล้วไม่ไปบ้าง โก่งราคาบ้าง ฯลฯ
ล่าสุด uberMOTO ประกาศหยุดให้บริการแล้วนะครับ
รอดูต่อไปว่า grab จะเอายังไง