ทุกคนน่าจะรู้จักแอปนำทางและแผนที่อย่าง Google Maps กันดี เพราะติดมากับสมาร์ทโฟนทุกเครื่องอยู่แล้ว โดยการใช้งานปกติของมันก็คือใช้ดูเส้นทาง ดูวิธีการเดินทาง ดูการจราจร ฯลฯ ซึ่งทุกคนน่าจะเคยใช้กันมาบ้างแล้ว.. และล่าสุด Google Maps ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาให้อีก 3 อย่าง เพื่อให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งบางฟีเจอร์ก็สามารถใช้ได้ในบ้านเราแล้วด้วย

ฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อ Taxi พาออกนอกเส้นทาง

Google Maps เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการใช้บริการรถแท็กซี่ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และยังสามารถช่วยเราได้มากเมื่อต้องเดินทางไปต่างถิ่นด้วยรถแท็กซี่ เมื่อเขาพาเราออกนอกเส้นทางแบบตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็เถอะ ฟีเจอร์นี้ก็จะแจ้งเตือนเราทันที

วิธีการเปิดใช้งานก็ง่ายๆ เปิดแอป Google Maps พิมพ์จุดหมายปลายทางที่คุณต้องการจะไป แล้วเลือกที่ “Stay Safer” จากนั้นให้เลือกการแจ้งเตือนเมื่อออกนอกเส้นทาง “Get off-route alerts” หากแท็กซี่ไม่ขับตามเส้นทางที่ Google Maps แนะนำไว้เกินกว่า 500 เมตร แอปก็จะแจ้งเตือนทันที นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ live location ไปให้ครอบครัว หรือเพื่อนๆ ให้รู้ตำแหน่งของเราในขณะนั้นได้อีก เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแบบคูณสองคูณสามไปเลย และเรายังสามารถนำฟีเจอร์นี้มาใช้กับการเดินางของเราเองได้ด้วย หากเราขับออกนอกเส้นทางจากเป้าหมายที่เราจะไป แอปก็จะแจ้งเตือนทันทีเหมือนกัน แต่ฟีเจอร์นี้ยังไม่ได้เปิดให้ใช้ทั่วไป โดยในตอนนี้ยังมีให้ใช้งานเฉพาะประเทศอินเดียเท่านั้น 

 

ฟีเจอร์แสดงความเร็วของรถขณะขับขี่

อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ก็คือ ตัวเลขบอกความเร็วแบบ Real-time นั่นเอง ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งาน Google Maps หลายๆ คนเรียกร้องกันมานานแล้ว (ได้ใช้กันซักที) โดยตัวเลขบอกความเร็วจะแสดงขึ้นมาเมื่อเราเริ่มใช้โหมดนำทาง และอีกฟีเจอร์ก็คือ Speedometer จะมีการแจ้งเตือนอีกด้วยหากว่าเราใช้ความเร็วที่มากเกินไป

ซึ่งข่าวดีก็คือตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้งานได้ในประเทศไทยได้แล้ว ส่วนวิธีเปิดใช้งานก็แค่เข้าไปที่ Settings > Navigation settings > เลื่อนลงมาด้านล่างสุดและเลือกที่ Speedometer ก็เป็นอันเรียบร้อย

 

ฟีเจอร์แจ้งเตือนภัยพิบัติ

สุดท้ายกับฟีเจอร์ที่คงไม่ค่อยมีใครอยากใช้บ่อยๆ นั่นก็คือ SOS alerts ฟีเจอร์แจ้งเตือนภัยพิบัติ ที่จะช่วยให้คุณดูเหตุการณ์ต่างๆ ได้แบบ Real-time ซึ่งคุณสามารถดูได้เลยว่าตอนนี้มีเกิดภัยพิบัติขึ้นที่ไหน และถ้าคุณต้องไปบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เราจะสามารถเลี่ยงเส้นทางนั้นได้อย่างไร

ตัวอย่างการแจ้งเตือนพายุและทิศทางของพายุ / การแจ้งเตือนแผ่นดินไหว / การแจ้งเตือนน้ำท่วม

การแจ้งเตือนภัยพิบัติที่สามารถดูได้ในตอนนี้คือ พายุเฮอริเคน, แผ่นดินไหว และน้ำท่วม ซึ่งถ้าเกิดมีพายุเฮอริเคนเข้ามาเมื่อไหร่ เราก็จะเห็นการแจ้งเตือนวิกฤตขึ้นมาบน Google Maps โดยมันจะแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติหากคุณอยู่ใกล้กับบริเวณที่จะได้รับผลกระทบจากพายุ และถ้าเรากดเข้าไปดู มันก็จะแสดงผลการคาดคะเนเส้นทางการเคลื่อนที่ของพายุ พร้อมบอกข้อมูลเวลาการไปถึงของพายุเพื่อให้เรามีเวลาเตรียมตัวรับมือได้ทันเวลา

แจ้งเตือนเส้นทางพายุที่อาจกระทบกับเส้นทางเดืนทางของเรา

ส่วนการแจ้งเตือนแผ่นดินไหว หลังจากที่เกิดเหตุ Google Maps จะแสดงภาพจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวขึ้นมา พร้อมกับมีการใช้สีในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อระบุถึงความสั่นสะเทือนว่ารุนแรงแค่ไหน และสุดท้ายคือภัยพิบัติน้ำท่วม ที่ Google Maps จะแสดงเส้นทางและความรุนแรงที่มีการคาดการณ์ไว้ในพื้นที่ต่างๆ นอกจากนี้เมื่อเราอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดภัยพิบัติ Google Maps จะช่วยหาเส้นทางที่ปลอดภัยให้เรา และยังสามารถแชร์ตำแหน่งที่ที่เกิดเหตุให้ครอบครัวหรือเพื่อนๆ ได้ เหมือนเป็นการกระจายข่าวสารให้คนอื่นได้รู้เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการเกิดภัยพิบัติต่างๆ

ทั้ง 3 ฟีเจอร์ดังกล่าว นับว่ามีประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวันมากเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังมีแค่ฟีเจอร์บอกความเร็วเท่านั้นที่ใช้ได้แล้วในประเทศไทย ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็คงต้องรอกันอีกซักพักกว่าที่จะมาถึงบ้านเราให้ได้ใช้กันบ้าง

 

ที่มา : 9to5google, androidpolice, google