หลังจากในงาน Google I/O 2023 ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Google Maps ได้นำระบบแผนที่เสมือนจริงอย่าง Immersive View for Routes ออกมาโชว์ ล่าสุดตอนนี้ฟีเจอร์ที่ว่าก็ได้ถูกอัปเดตให้เปิดใช้งานในบางประเทศเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังพ่วงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ใช้ Google Lens ร่วมกับ Maps ดูข้อมูลสถานที่, ข้อมูลในแผนที่ละเอียดขึ้น อีกทั้งยังหาจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้นด้วย

Immersive View ดูเส้นทางเสมือนจริงก่อนออกจากบ้าน

Immersive View for Routes บน Google Maps จะทำงานโดยใช้ AI ในการรวมภาพถ่าย Street View และภาพถ่ายทางอากาศจาก Google Earth เข้าด้วยกันเพื่อสร้างโมเดลแผนที่โลกแบบสามมิติที่ให้ภาพแบบคมชัดสูง

เมื่อผู้ใช้งานตั้งหมุดจุดหมาย พร้อมกดปุ่มนำทาง ฟีเจอร์ที่ว่านี้จะจำลองข้อมูลเส้นทาง การจราจรต่าง ๆ ในรูปแบบแอนิเมชั่นสามมิติเหมือนถนนจริงครบทุกมุม ไม่ว่าจะทางจักรยาน ทางเดินฟุตบาท ทางแยก หรือพื้นที่จอดรถก็โชว์ให้ดูหมด เหมือนเราไปอยู่ในสถานที่จริง ๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทาง

นอกจากนี้ด้วยพลังของ AI ทำงานร่วมกับข้อมูลประวัติการวิ่งของรถยนต์บนถนน ทำให้ฟีเจอร์ที่ว่านี้สามารถจำลองสภาพการจราจรว่า ณ เวลาที่ใช้งานมีรถวิ่งอยู่บนถนนกี่คัน ทำให้เราตัดสินใจว่าควรเลี่ยงเส้นทางนั้น ๆ รึเปล่า อีกทั้งยังทำงานร่วมกับข้อมูลพยากรณ์อากาศ เพียงผู้ใช้งานเลื่อนปรับเวลา ตัวแอปก็จะจำลองให้ดูคร่าว ๆ ว่าช่วงเวลานั้นถนนจะมีสภาพเป็นยังไง มีฝนตก หรือฝุ่นมลพิษบดบังทัศนียภาพหรือไม่ ช่วยให้เราวางแผนช่วงเวลาในการเดินทางได้ดีกว่าเดิมนั่นเอง

โดยฟีเจอร์ Immersive View for Routes ได้เปิดให้ใช้งานใน 15 เมืองดังต่อไปนี้ อัมสเตอร์ดัม, เบอร์ลิน, ดับลิน, ฟลอเรนซ์, ลาสเวกัส, ลอนดอน, ลอสแอนเจลิส, นิวยอร์ก, ไมอามี, ปารีส, ซีแอตเทิล, ซานฟรานซิสโก, ซานโฮเซ, โตเกียว และเวนิส เป็นที่เรียบร้อยทั้งในระบบ iOS และ Android นอกจากนี้ Google ยังได้เตรียมปล่อยเครื่องมือ API Photorealistic 3D Tiles ให้นักพัฒนาได้นำฟีเจอร์นี้ไปสร้างแผนที่แบบ Immersive ให้กับพื้นที่ของตัวเองได้ด้วย

Lens in Maps ใช้กล้องส่องดูข้อมูลสถานที่ได้

Lens in Maps (เดิม Search with Live View) เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่จับ Google Lens มายัดไว้ในแอป Maps โดยผู้ใช้งานสามารถกดที่ปุ่ม Lens ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อใช้งาน โดยระบบจะใช้เทคโนโลยี AR ในการส่องดูข้อมูลร้านรวงต่าง ๆ เพียงยกมือถือขึ้นมา และส่องไปรอบ ๆ เท่านั้น ข้อมูลร้านค้า และสถานที่ต่าง ๆ ก็จะแสดงผลทันที

โดยฟีเจอร์นี้ได้เริ่มเปิดให้ใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งเมืองออสติน, ลาสเวกัส, โรม, เซาเปาโล, ไทเป และอีกกว่า 50 เมืองทั่วโลก และในอนาคตก็ยังมีแผนขยายไปยังเมืองต่าง ๆ เพิ่มเติมด้วย

หาจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

ในเมื่อเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV กำลังมาแรง Google ก็ต้องอัปเดตให้ทันตามกระแส ภายในสัปดาห์หน้ารถยนต์ที่มาพร้อมกับระบบ Google Bulit-in หรือ Android Auto จะสามารถดูข้อมูลจุดชาร์จรถยนต์ EV ได้ละเอียดมากขึ้น สามารถกรองได้ว่าจุดชาร์จไหนรองรับกับรุ่นรถยนต์ของเรา สามารถดูได้ว่าจุดชาร์จไหนเป็นจุดชาร์จช้า หรือชาร์จเร็ว รวมถึงสามารถดูได้ว่าจุดชาร์จไหนชำรุดอยู่ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปจุดชาร์จที่ใช้งานไม่ได้นั่นเอง

ยกเครื่องหน้าตาแผนที่ใหม่ ดูง่ายขึ้นไม่สับสน

แผนที่ในเวอรชั่นใหม่ จะมาพร้อมกับหน้าตาที่ดูง่ายยิ่งขึ้น ใช้สีที่ตัดกันชัดเจน รวมถึงบอกการเปลี่ยนเลนถนนได้ล่วงหน้ากว่าเดิม หมดปัญหาสับสนเปลี่ยนเลนกะทันหันหรือเข้าเลนผิด อีกทั้งยังแสดงผลตึกต่าง ๆ เป็นรูปร่าง 3D แบบคร่าว ๆ ช่วยให้ดูพื้นที่ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยแนะนำเส้นทางที่ประหยัดพลังงานมากกว่า โดยแผนที่ดีไซน์ใหม่จะเริ่มใช้ใน 12 ประเทศก่อน ได้แก่ อเมริกา, แคนาดา, ฝรั่งเศส และเยอรมัน

นอกจากนี้ในอีก 20 ประเทศในแถบยุโรปยังได้เพิ่มฟีเจอร์ AI ที่สามารถบอกได้ว่าถนนเส้นไหนจำกัดความเร็วเท่าไหร่ เพื่อป้องกันการทำผิดกฎจราจร ซึ่งจะเพิ่มเข้ามาในระบบ Android, iOS และรถยนต์ Google Built-in ในเร็ว ๆ นี้

เสิร์ชฉลาดขึ้นด้วยพลัง AI

ต่อไปนี้แถบค้นหาของ Google Maps จะเปรียบเสมือนแถบเสิร์ชของ Google เลย เมื่อเราไปเที่ยวที่ไหน แล้วคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี เราก็สามารถเสิร์ชแค่คำว่า “มีกิจกรรมอะไรน่าทำ” ระบบก็จะขึ้นสถานที่เที่ยวใกล้เคียง พร้อมแนบรูปกิจกรรมน่าทำในสถานที่นั้น ๆ ให้เลย โดยฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้งาน Android และ iOS ทั่วโลกได้อัปเดตในช่วงสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ถ้าเรามีกิจกรรมที่อยากทำให้ใจ แต่ไม่รู้ว่าสถานที่ไหนมีให้ทำ เราก็สามารถเสิร์ชกิจกรรมที่เราต้องการทำ Maps ก็จะใช้ AI กรองรูปภาพจากรีวิวของผู้ใช้งานที่เคยไปเยือนสถานที่ต่าง ๆ และทำกิจกรรมที่เราสนใจอยู่ขึ้นมาบนหน้าจอให้ทันที แต่ในช่วงแรกฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะในอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และญี่ปุ่นเท่านั้น

ที่มา: Google