เปิดตัวกันซักที กับมือถือ Android พันธุ์แท้ Pixel 4 และ Pixel 4 XL ที่ก่อนหน้านี้มีทั้งสเปคและฟีเจอร์บางอย่าง รวมถึงตัวเครื่องแบบเป็นๆ หลุดออกมาให้ว่อนไปหมด แต่ถึงยังไงฟีเจอร์เด็ดๆ ทั้งหมดของมือถือซีรีส์นี้ ก็ต้องเก็บไว้เพื่อเผยโฉมในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการคราวนี้อยู่ดี…ว่าแล้วก็มาดูกันเลยครับว่าคราวนี้มือถือซีรีส์ Pixel 4 จะมีอะไรเจ๋งๆ ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกันบ้าง

ดีไซน์ใหม่

Pixel 4 ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ที่ดูผิดหูผิดตาไปจากเดิม ด้วยกล้องหลัง 2 ตัว และแฟลชที่วางเอาไว้บนโมดูลสี่เหลี่ยมตรงด้านมุมซ้ายบนของเครื่อง มาพร้อมกับสีใหม่ คือ สีดำ Just Black, สีขาว Clearly White และสีพิเศษ สีส้ม Oh So Orange

มือถือรุ่นแรกของโลกที่มีเรดาร์ในตัว

Pixel 4 ใส่เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว Motion Sense ที่ติดตั้งอยู่ที่ขอบจอด้านบน เพื่อตรวจจับสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้ามือถือเครื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการโบกมือเพื่อเปลี่ยนเพลงในแอป Spotify

โบกมือเพื่อหยุด / Snooze นาฬิกาปลุก หรือจะปิดเสียง Ringtone เมื่อมีสายเข้าก็ยังได้

นอกจากนี้เซ็นเซอร์ Motion Sense ยังใช้ในการปลดล็อคเครื่องด้วยการตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ ได้อย่างรวดเร็วสุดๆ โดยที่เราแค่ยกมือถือขึ้นมาปุ๊บ มันก็จะตรวจเจอหน้าเราปั๊บ และปลดล็อคเครื่องให้พร้อมใช้ได้ทันที

หน้าจอระดับ A+

Pixel 4 มากับหน้าจอระดับ A+ ความละเอียด FHD+ และ QHD+ ที่มีค่ารีเฟรชเรทสูง 90Hz

Google Assistant ที่ฉลาดกว่าเดิมและเร็วกว่าเดิม

ผู้ช่วยอัจฉริยะเจ้าประจำอย่าง Google Assistant ที่คราวนี้ได้รับการอัพเดทให้ตอบสนองต่อคำสั่งต่างๆ ได้เร็วกว่าเดิม (มาก) จนแทบจะสั่งปุ๊บทำปั๊บได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้หารูปที่ต้องการ > แชร์รูปพร้อมเขียนข้อความให้กับคนที่เราต้องการแชร์ ซึ่งทั้งหมดเราแทบจะไม่ต้องสัมผัสหน้าจอเลย เพราะสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ทั้งหมด นอกจากนี้เรายังไม่ต้องคอยพูด Hey Google หรือ OK Google ทุกครั้งที่สั่งการอีกด้วย

เรายังสามารถสั่งงานที่มีความซับซ้อนกว่าเดิมแบบต่อเนื่องได้ อย่างเช่นเรากำลังแชทกับเพื่อน แล้วเพื่อนถามว่าเครื่องบินที่เรานั่งจะลงจอดกี่โมง ก็แค่เรียก Assistant ขึ้นมาเพื่อถามเวลาลงจอด จากนั้นก็สั่งให้พิมพ์ตอบด้วยเสียงได้เลย โดยเจ้า Assistant จะสามารถแยกแยะได้ด้วยว่าคำสั่งที่เราพูดออกไปเป็นการสั่งงาน หรือเป็นการพิมพ์ด้วยเสียง

ฟีเจอร์เครื่องอัดเสียงอัจฉริยะที่สามารถแปลคำพูดออกมาให้เป็นตัวหนังสือได้แบบ Real-Time ทำให้เราสามารถอัดเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประชุม การเลคเชอร์ในห้องเรียน หรืออื่นๆ ให้ออกมาเป็นตัวหนังสือเพื่อตามอ่านได้ง่ายๆ ทีหลัง แถมมันยังจัดเรียงประโยคต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ให้หาได้ง่ายๆ อีกด้วย…และที่พิเศษสุดๆ ก็คือ ฟีเจอร์นี้ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก็สามารถใช้งานได้ เพราะทุกอย่างจะทำงานอยู่ภายในมือถือ Pixel 4 นั่นเอง

กล้องหลังคู่

คราวนี้ Google เลิกอินดี้ ด้วยการใส่กล้องหลังมาให้เป็น 2 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพให้ออกมาดีกว่าเดิม ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 12MP และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 16MP สำหรับการซูมภาพ โดยมากับฟีเจอร์ใหม่คือโหมด Super Res ที่ผสมผสานทั้งการซูมด้วยเลนส์แบบออพติคอลเข้ากับการซูมแบบดิจิตอล และปรับปรุงภาพด้วยซอฟท์แวร์อีกทีนึง จนภาพที่ซูมไกลลิบๆ ออกมาชัดเจน และคมกริบ

โหมด Live HDR+ ที่จะจัดการกับภาพย้อนแสงให้ออกมาสว่างชัดเจน ได้แบบ Real-Time ก่อนที่เราจะลั่นชัตเตอร์ ไม่ต้องมานั่งลุ้นหลังจากถ่ายแล้ว ว่าภาพจะออกมาดีรึเปล่า

โหมดหน้าชัดหลังเบลอซึ่ง Pixel รุ่นเก่าๆ ที่มีกล้องแค่ตัวเดียวยังถ่ายออกมาได้สุดยอดแล้ว มารุ่น Pixel 4 ที่มีกล้องมาให้ 2 ตัว ยิ่งทำได้สุดยอดกว่าเดิม จนแทบจะเทียบเท่ากับกล้องระดับ DSLR เลยทีเดียว

โหมดถ่ายกลางคืน Night Sight ที่เจ๋งกว่าเดิม โหดกว่าเดิม เพราะถ่ายภาพในที่มืดมิดออกมาได้อย่างชัดเจนจนน่าแปลกใจ เพราะจากภาพตัวอย่างที่นำมาโชว์ โหมดนี้สามารถเก็บรายละเอียดของท้องฟ้าและดวงดาว หรือแม้แต่ถ่ายทางช้างเผือกก็ยังได้ แถมยังมีซอฟท์แวร์สำหรับจัดการ Noise ได้เนียนกริบอีกด้วย

ราคา

สำหรับราคาของ Pixel 4 และ Pixel 4 XL ที่จะวางจำหน่ายในอเมริกา จะแบ่งออกตามหน่วยความจำดังนี้

  • Pixel 4 (64GB) : ราคา 799 ดอลลาร์ หรือประมาณ 24,300 บาท
  • Pixel 4 (128GB) : ราคา 899 ดอลลาร์ หรือประมาณ 27,300 บาท
  • Pixel 4 XL (64GB) : ราคา 899 ดอลลาร์ หรือประมาณ 27,300 บาท
  • Pixel 4 XL (128GB) : ราคา 999 ดอลลาร์ หรือประมาณ 30,400 บาท

Pixel 4 ทั้ง 4 รุ่นเริ่มเปิดให้สั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ในอเมริกา และคาดว่าจะเริ่มส่งของได้ในวันที่ 22 ตุลาคมเป็นต้นไป ส่วนประเทศอื่นๆ จะเริ่มทะยอยวางขายเมื่อไหร่ ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมกันอีกทีครับ