Pixel 6 และ Pixel 6 Pro เปิดตัวไปแล้วอย่างสวยงาม สินค้าเริ่มทยอยหมดหลังจากเปิดให้พรีออร์เดอร์เพียงไม่กี่นาที ได้รับความสนใจเยอะจนถึงขนาดที่ทำเอาหน้าเว็บ Google Store ล่มในหลาย ๆ ประเทศเป็นชั่วโมง ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะรอบนี้ Google ทำออกมาได้น่าสนใจมาก มีการอัปเกรดครั้งสำคัญทั้งภาคฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชิป Tensor และระบบปฏิบัติการ Android 12 ภาพรวมของทั้งคู่จะคล้าย ๆ กัน ส่วนจุดแตกต่างจะอยู่ตรงที่ สี จอ กล้อง แบต และตัวเลือกความจุ
เปรียบเทียบ สเปค Pixel 6 และ Pixel 6 Pro
Pixel 6 | Pixel 6 Pro | |
จอภาพ | OLED ขนาด 6.4 นิ้ว | OLED แบบ LTPO ขนาด 6.7 นิ้ว |
ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล | ความละเอียด 1440 x 3120 พิกเซล | |
ความหนาแน่น 441 พิกเซลต่อนิ้ว | ความหนาแน่น 512 พิกเซลต่อนิ้ว | |
สัดส่วนภาพ 20:9 | สัดส่วนภาพ 19.5:9 | |
อัตรารีเฟรช 60 – 90Hz | อัตรารีเฟรช 10 – 120Hz | |
คอนทราสต์เรโช 1,000,000:1 | คอนทราสต์เรโช 1,000,000:1 | |
รองรับ HDR | รองรับ HDR | |
ความลึกสี 8-bit | ความลึกสี 8-bit | |
ชิป | Google Tensor | Google Tensor |
หน่วยความจำ | RAM 8GB LPDDR5 | RAM 12GB LPDDR5 |
ความจุ | ROM 128 ; 256GB UFS 3.1 | ROM 128 ; 256 ; 512GB UFS 3.1 |
กล้องหลัง | กล้องหลัก : 50MP (ƒ/1.85) เลเซอร์ช่วยออโตโฟกัส LDAF ระบบกันสั่น OIS ขนาดพิกเซล 1.2μm | กล้องหลัก : 50MP (ƒ/1.85) เลเซอร์ช่วยออโตโฟกัส LDAF ระบบกันสั่น OIS ขนาดพิกเซล 1.2μm |
กล้องอัลตราไวด์ : 12MP (ƒ/2.2) มุมมอง 114 องศา ขนาดพิกซล 1.25μm | กล้องอัลตราไวด์ : 12MP (ƒ/2.2) มุมกว้าง 114 องศา ขนาดพิกซล 1.25μm | |
กล้องเทเลโฟโต : 48MP (ƒ/3.5) มุมมอง 23.5 องศา ขนาดพิกเซล 0.8μm | ||
กล้องหน้า | กล้องไวด์ : 8MP (ƒ/2.0) มุมมอง 84 องศา ขนาดพิกเซล 1.12μm | กล้องอัลตราไวด์ : 11.1MP (ƒ/2.2) มุมมอง 94MP ขนาดพิกเซล 1.22μm |
เสียง | ลำโพงสเตอรีโอ | ลำโพงสเตอรีโอ |
ไมโครโฟน 3 ตัว | ไมโครโฟน 3 ตัว | |
เครือข่าย | 5G | 5G |
ซิม | nano-SIM (1) + eSIM (2) | nano-SIM (1) + eSIM (2) |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6E (802.11ax) | Wi-Fi 6E (802.11ax) |
Bluetooth 5.2 | Bluetooth 5.2 | |
NFC | UWB | |
Dual Band GNSS | NFC | |
GPS, GLONASS, Galileo, QZSS, BeiDou | Dual Band GNSS | |
GPS, GLONASS, Galileo, QZSS | ||
พอร์ต | USB Type-C 3.1 Gen 1 | USB Type-C 3.1 Gen 1 |
เซนเซอร์ | สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ | สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ |
แบตเตอรี่ | ความจุ 4614mAh | ความจุ 5003mAh |
ชาร์จไว 30W (รองรับ USB-PD 3.0) | ชาร์จไว 30W (รองรับ USB-PD 3.0) | |
ชาร์จไร้สายไว้ 21W (รองรับ Qi) | ชาร์จไร้สายไว้ 23W (รองรับ Qi) | |
ระบบปฏิบัติการ | Android 12 | Android 12 |
ขนาด | 158.6 x 74.8 x 8.9 มม. | 163.9 x 75.9 x 8.9 มม. |
น้ำหนัก | 207 กรัม | 210 กรัม |
วัสดุ | กระจกหน้า Corning Gorilla Glass Victus | กระจกหน้า Corning Gorilla Glass Victus |
กระจกหลัง Corning Gorilla Glass 6 | กระจกหลัง Corning Gorilla Glass 6 | |
เฟรมอะลูมิเนียม | เฟรมอะลูมิเนียม | |
ความทนทาน | ทนน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 | ทนน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 |
สี | ◉ Sorta Seafoam | ◉ Cloudy White |
◉ Kinda Coral | ◉ Sorta Sunny | |
◉ Stormy Black | ◉ Stormy Black |
สีไม่เหมือนกัน น่าจะเป็นหนึ่งปัจจัยหลักในการเลือกซื้อ
ความแตกต่างที่สังเกตได้ทันที่ตั้งแต่ภายนอก คือ Pixel 6 จะมีหน้าจอแบน ส่วน Pixel 6 Pro จะมีหน้าจอโค้ง วัสดุที่ใช้จะเหมือนกัน เป็นกระจก Gorilla Glass Victus และ Gorilla Glass 6 ประกบเข้ากับเฟรมอะลูมิเนียม แต่เฟรมของฝ่ายหลังจะขัดเงา ให้ความรู้สึกพรีเมียมมากกว่า นอกจากนี้ สีที่มีให้เลือกก็ไม่ซ้ำกัน ยกเว้น Stormy Black ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการเลือกซื้อ
หน้าจอ Pixel 6 ลื่นแล้ว แต่ Pixel 6 Pro ลื่นกว่า
Pixel 6 มากับหน้าจอ OLED ขนาด 6.4 บนความละเอียด FHD+ รองรับการแสดงผลด้วยอัตรารีเฟรช 60 – 90Hz ในขณะที่ Pixel 6 Pro อัปเกรดขึ้นมาเป็นหน้าจอ OLED แบบ LTPO ขนาด 6.7 นิ้ว บนความละเอียด QHD+ รองรับการแสดงผลตั้งแต่ 10 – 120Hz ทำให้มีความคมชัด ประหยัดพลังงาน และลื่นไหลมากกว่า
ถ้าอยากได้กล้องเทเลโฟโต ต้องไป Pixel 6 Pro
ตามที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า ปีนี้ Pixel 6 ได้ยกเครื่องกล้องหลังมาทั้งแผง จากที่ใช้กล้องหลัก 12MP มานานถึง 5 ปีเต็มตั้งแต่ Pixel รุ่นดั้งเดิม ตอนนี้กลายเป็น 50MP แล้ว เพิ่มขึ้นทั้งความละเอียดและขนาดเซนเซอร์ เสริมด้วยกล้องอัลตราไวด์ 12MP มุมกว้าง 114 องศา และมีหมัดเด็ดที่มีเฉพาะใน Pixel 6 Pro คือ กล้องเทเลโฟโตแบบ periscope ความละเอียด 48MP กับข้อได้เปรียบอีกเล็กน้อยตรงกล้องเซลฟี่ที่มีมุมมองและความละเอียดมากกว่า
แบตไม่เท่ากัน แต่ความอึดต้องดูจากการใช้งานจริง
Pixel 6 มีแบตเตอรี่ 4614mAh ส่วน Pixel 6 Pro มีแบตเตอรี่ 5003mAh ความจุมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันความละเอียดกับอัตรารีเฟรชที่ส่งผลต่ออัตราบริโภคพลังงานโดยตรงก็สูงกว่าเช่นกัน จึงต้องมาดูในการใช้งานจริงอีกทีว่า เทคโนโลยี LTPO จะช่วยได้มากหรือน้อยแค่ไหน ตรงนี้จึงยังสรุปไม่ได้ว่า รุ่นไหนแบตอึดกว่ากัน
แตกต่างกันที่ สี จอ กล้อง แบต ตัวเลือกความจุ และราคา
สรุปแล้ว Pixel 6 กับ Pixel 6 Pro ต่างกันหลัก ๆ 4 อย่าง ได้แก่ สีตัวเครื่อง หน้าจอ กล้อง และแบตเตอรี่ ส่วนอื่น ๆ ที่เหลือนั้นเหมือนหรือใกล้เคียงกัน อาจมีข้อพิจารณาเพิ่มเติมนิดหน่อยตรงที่ Pixel 6 ให้หน่วยความจำมา 12GB และมีตัวเลือกสตอเรจ 512GB ส่วน Pixel 6 อั้นอยู่ที่ 8GB และ 256GB ตามลำดับ ซึ่งต้องไม่ลืมว่า ทั้งคู่ไม่สามารถใส่ microSD card ได้นะครับ ดังนั้นสำหรับใครที่กลัวจะเก็บข้อมูลไม่พอ คงต้องเลือกตัวท็อปสุดอย่างเลี่ยงไม่ได้
ราคา Pixel 6
- สี : ◉ Sorta Seafoam ; ◉ Kinda Coral ; ◉ Stormy Black
- ความจุ 128GB : ราคา 599 ดอลลาร์ (ประมาณ 19,990 บาท)
- ความจุ 256GB : ราคา 699 ดอลลาร์ (ประมาณ 23,390 บาท)
ราคา Pixel 6 Pro
- สี : ◉ Cloudy White ; ◉ Sorta Sunny ; ◉ Stormy Black
- ความจุ 128GB : ราคา 899 ดอลลาร์ (ประมาณ 29,990 บาท)
- ความจุ 256GB : ราคา 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,390 บาท)
- ความจุ 512GB : ราคา 1,099 ดอลลาร์ (ประมาณ 36,690 บาท)
*ราคาข้างต้นไม่รวมภาษี
ปล. ส่วนตัวแล้วค่อนข้างแปลกใจกับน้ำหนัก ทั้งที่ Pixel 6 มีตัวเครื่องเล็กกว่า แบตเตอรี่น้อยกว่า และไม่มีกล้องเทเลโฟโต ซึ่งปกติแล้วจะถือเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมาก แต่ไหงทำออกมามีน้ำหนัก 207 กรัม เบากว่า Pixel 6 Pro แค่ 3 กรัมเอง แปลกดีเหมือนกัน…
เปิดตัว Pixel 6 และ Pixel 6 Pro การกลับมาอีกครั้งของมือถือระดับเรือธงจาก Google
ถ้าซื้อมาสามารถใช้ 5G บ้านเราได้เลยไหมครับหรือต้องรออัพเดทก่อน
ยังไม่ยืนยัน แต่แนวโน้มใช้ไม่ได้ค่อนข้างสูงครับ เพราะไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย เหมือนกรณี Xperia 1 III เครื่องนอก (และอีกหลาย ๆ รุ่น) ก็ใช้ 5G กันไม่ได้ ยกเว้นแฟลชมารอม SEA
ถ้ามีข้อมูลชัวร์ ๆ เดี๋ยวผมอัปเดตให้อีกทีครับ
แบบนี้ เดาได้เลยว่า ปีหน้า iPhone ต้องดันขึ้นมา ใช้ Sensor 48 – 50 Mp
สามารถใช้ Dual sim กับ VoLTE, VoWifi ในไทยได้ไหมครับ
อ้างอิงจาก Pixel รุ่นที่ผ่าน ๆ มา eSIM ได้ทั้ง 3 ค่ายหลักครับ ผ่าน QR code ได้ตามปกติเลย ส่วน VoLTE คำตอบเดียวกับที่ผมตอบคุณ tearing ด้านบนครับ แนวโน้มใช้ไม่ได้มีสูง เช่นเดียวกับ 5G 🥲
ตราบใดที่ยังไม่มีขายในไทยอย่างเป็นทางการ ก็คงปล่อยไว้อย่างนั้น