เปิดตัวไปเมื่อคืนนี้สดๆ ร้อนๆ ภายในงานเปิดตัว Pixel 2 อีกทีนึง กับหูฟังไร้สาย Pixel Buds ซึ่งเป็นหูฟังรุ่นแรกที่ผลิตโดย Google เอง โดยมีฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นต่างจากหูฟังไร้สายทั่วๆไปคือเราสามารถเรียกใช้และสั่งการ Google Assistant ได้ด้วยการกดที่ตัวหูฟังเลย และแน่นอนว่าเราสามารถใช้ฟังค์ชั่นแปลภาษา Google Translate ผ่าน Pixel Buds ได้เลยด้วย
ก่อนหน้านี้เทคโนโลยีหูฟังไร้สายที่มีโค้ดเนมว่า Bisto ได้เปิดตัวไปรุ่นนึงแล้วนั่นก็คือ Bose QuietComfort 35 II ซึ่งหูฟังที่ใช้เทคโนโลยี Bisto นี้ จะสามารถเรียก Google Assistant และสั่งงานได้จากตัวหูฟังโดยที่เราไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเลย และตอนนี้ Google ก็ได้เปิดตัวหูฟัง Bisto ออกมาอีก 1 รุ่น นั่นก็คือ Google Pixel Buds ที่เป็นหูฟังแบบ In-ear ขนาดเล็ก มีสายเชื่อมตัวหูฟังทั้ง 2 ข้างเอาไว้ สำหรับคล้องคอด้านหลัง
ส่วนการใช้งานพื้นฐานของ Pixel Buds คือเราสามารถเปลี่ยนเพลง หรือปรับเสียงได้ด้วยการใช้นิ้วแตะหรือปัดที่ตัวหูฟัง แต่ฟีเจอร์สุดเทพของ Pixel Buds ที่เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมากก็คือการแปลภาษาแบบ Real time นั่นเอง แค่เราหยิบมือถือขึ้นมา และกดที่ตัวหูฟังค้างเอาไว้พร้อมกับพูดประโยคที่ต้องการ ใช้เวลาแค่ 1 – 2 วินาที ประโยคที่เราพูดไปก็จะดังออกมาจากลำโพงมือถือเป็นภาษาที่เราเลือกเอาไว้
และกลับกันหากชาวต่างชาติที่เราคุยด้วยตอบกลับมา คำแปลของประโยคนั้นก็จะดังเข้ามาที่หูฟังภายในเวลา 1 – 2 วินาที เช่นกัน ซึ่งในตอนนี้ Pixel Buds สามารถแปลภาษาได้ทั้งหมด 40 ภาษา (คาดว่าในอนาคตจะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ) แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์แปลภาษาในตอนนี้สามารถใช้ได้เฉพาะ Pixel Buds และ Pixel 2 / Pixel 2 XL เท่านั้น ยังไม่มีข้อมูลว่า Google จะปล่อยอัพเดทให้สามารถใช้งานกับหูฟัง Bisto รุ่นอื่นและมือถือรุ่นอื่นได้รึเปล่า
แบตเตอรี่ของ Pixel Buds สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 5 ชม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และ Pixel Buds ยังมาพร้อมกับเคสที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อีก 24 ชม.
Pixel Buds จะมีวางจำหน่าย 3 สีด้วยกัน คือสีขาว สีดำ และสีฟ้า ในราคา 159 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,300 บาท) โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะเริ่มวางจำหน่ายภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
สเปค Google Pixel Buds
ที่มา : Theverge, Techcrunch
สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ยังงี้ ก็ จีบสาวต่างชาติได้เเล้วดิ
ว้าวตรงแปลภาษาได้นี่แหละ แต่ก็นะจะแปลเป็นภาษาไทยได้ดีแค่ไหน ขนาดแปลเป็นตัวหนังสือบางทียังอ่านแล้ว งง ๆ อยู่เลย (แต่ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว)
ส่วนที่ใส่เข้าในรูหูน่าจะเป็นแบบ in ear มากกว่านะ เพราะจะตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ เสียงที่ได้ยินจะดังกว่าแบบที่เป็นอยู่
อาจจะไม่ปลอดภัยในบางกรณีที่เราต้องได้ยินเสียงเตือนนะครับ
แปลประโยคยังงงๆอยู่เลยนะ
เร้าใจมากแต่กลัวมันแปลผิด โดนชาวต่างชาติ กระทืบ 555
แสดงว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ว่า Google translate ในโทรศัพท์
สามารถกดแปล แล้วคุยแบบ Realtime ได้
เราฟังชัดเพราะได้ยินจากหูฟัง
แต่คนที่เราคุยด้วยยังต้องฟังจากเสียงโทรศัพท์ ซึ่งก็มีปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อมอีก
โลกไร้พรมแดนที่แท้จริง ใกล้เข้ามาแล้วครับ…..เยี่ยมมากๆ google
จริงๆ จุดสำคัญน่าจะอยู่ที่ตัวแอพ มากกว่าหูฟัง เพียงแต่ แอพ ไม่รองรับหูฟัง bt อื่นๆเสียมากกว่า
เพราะหลักการก็หู bt ที่สั่งการได้ ด้วยการสัมผัส รองรับ ok goole , google assit. ส่งไปยังมือถือ เพื่อประมวลผลหรือเรียกข้อมูล offline online แล้วส่งกลับ
ฉนั้น ai ที่ว่า น่าจะเป็น software มากกว่า และเขียน lock ไว้ให้ใช้ได้กับ ของ google เท่านั้น
ถ้ามองรูปนี้ แสดงว่า google เริ่มเดินแผนธุรกิจผิดไปจากเดิมมากขึ้น
ถ้าระบบการทำงานเป็นอย่างที่ผมคิด ผมจะรอดูจีนทำของถูกแต่ใช้ได้ ออกมาดู คงมีฮา