ในตอนนี้มีแอปที่วางขายอยู่ใน Play Store เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน และแน่นอนว่าภายในเหล่าบรรดาแอพที่เราดาวน์โหลดมาลองใช้จะมีแอพบางตัวที่ไม่ถูกใจเรา ซึ่งถ้าหากมันเป็นแอพที่ดาวนโหลดฟรีอยู่แล้วก็คงไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้าเกิดมันเป็นแอพที่จ่ายเงินซื้อมาแล้วไม่ชอบก็คงต้องการที่จะขอเงินคืน โดยผู้ใช้ Android ก็คงจะรู้กันว่าเราสามารถกด refund เพื่อขอเงินคืนใน Play Store ได้ ซึ่งทาง Google เองก็ได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการคืนเงินมาเรื่อยๆ ล่าสุดก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง แต่ว่าเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจยุโรป (EEA) เท่านั้นนะ

ในปัจจุบันผู้ใช้สามารถที่จะกดปุ่ม refund ใน Google Play ได้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากที่กดซื้อแอปหรือเกม จากนั้นทาง Google จะดำเนินการคืนเงินให้ อย่างไรก็ตามถ้าเลย 48 ชั่วโมงนี้ไปแล้วผู้ใช้ก็จะต้องไปติดต่อขอคืนเงินจากทางผู้พัฒนาแอปเอง ซึ่งฟังดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและมีโอกาสสูงที่ผู้พัฒนาไม่คิดที่จะคืนเงินเลยด้วย

แต่สำหรับผู้ใช้ที่อาศัยใน EEA ทาง Play Store มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ที่เริ่มมีผลไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน โดยปุ่ม refund ในสโตร์จะกลับไปขึ้นเหลือระยะเวลา 2 ชั่วโมงเหมือนกับเมื่อหลายปีก่อน และตามกฏของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับช่วงเวลา 14 วันหลังการซื้อที่ลูกค้าสามารถขอเงินคืนได้ แต่ว่ากลับมีข้อยกเว้นซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นสินค้าเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ทั้งที่ขายแบบเป็นกล่องและแบบดาวน์โหลด Google มีการระบุไว้ชัดเจนตามรูปด้านล่างว่า จะไม่สามารถขอคืนเงินได้ถ้าหากเปิดใช้งานไปแล้ว, สินค้าไม่มีข้อบกพร่อง, หรือไม่สามารถใช้งานได้ตามที่ระบุไว้ นั่นแปลว่าถ้าหากผ่าน 2 ชั่วโมงแรกที่ซื้อไปแล้วและแอพที่เราซื้อไม่มีความผิดปกติใดๆ ก็จะไม่สามารถขอคืนเงินจากทาง Google ได้นั่นเอง ฟังดูแล้วระบบคืนเงินแบบ 48 ชั่วโมงยังดูน่าใช้กว่า

ข้อตกลงนี้นอกจากจะใช้กับซอฟต์แวร์แล้วยังใช้กับการ subscription หรือก็คือบริการต่างๆ เช่นดูหนัง ฟังเพลงแบบจ่ายรายเดือนเช่นกัน แต่ไม่ใช่กับสินค้าบริการต่างๆที่ไม่ใช่ซอฟต์แวร์อย่างการซื้อพื้นที่จัดเก็บบน cloud ที่สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวนภายใน 14 วัน เข้าไปอ่านรายละเอียดแบบเต็มๆกันได้ในหน้าแถลงการณ์ของ Google

 

ที่มา: Google via Android Police