สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อัยการจาก 36 รัฐในสหรัฐอเมริกา รวมถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้ยื่นฟ้อง Google บริษัทในเครือของ Alphabet ว่ามีพฤติกรรมผูกขาดตลาดบน Play Store แพลตฟอร์มดาวน์โหลดแอปของตนเอง โดยล่าสุดตอนนี้ทางจำเลยอย่าง Google ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย Google ถูกกล่าวหาว่าผูกขาดตลาด หลังจากพวกเขามีนโยบายหักส่วนแบ่งเป็นจำนวนทั้งหมด 30% จากนักพัฒนาแอป ซึ่งแม้ว่าภายหลัง บริษัทฯ จะออกมาลดค่าส่วนแบ่งลงไปเหลือ 15% สำหรับรายได้ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แรก (มากกว่านั้นยังคิด 30% เหมือนเดิม) เริ่มมีผลเมื่อ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ ทางบริษัทยักษ์ใหญ่นี้ก็ไม่รอดที่จะโดนอัยการจากรัฐต่าง ๆ ทั่วสหรัฐฯ ยื่นฟ้องต่อศาลอยู่ดี

Google ออกมาโต้แย้งข้อกล่าวหา

ล่าสุดทาง Google ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทฯ เผยว่า นอกจากต้องแข่งขันกับแบรนด์ Android อื่น ๆ แล้ว พวกเขายังต้องแข่งขันกับอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในตลาดอย่าง Apple ที่มีแพลตฟอร์มดาวน์โหลดแอป App Store เป็นของตัวเอง ซึ่งตรงนี้ Google เผยว่า หากผู้ใช้งานไม่ได้รับประสบการณ์ใช้งานที่พอใจ พวกเขาก็มีตัวเลือกอื่นให้เลือกสรรใช้งาน

โดยบริษัทฯ เชื่อว่าอีกว่า Play Store จริง ๆ แล้ว ทำให้มีการแข่งขันเพิ่มขึ้นในตลาดอีกด้วย เนื่องจาก Play Store ไม่ถือเป็นแพลตฟอร์มเดียวโดด ๆ ที่ผู้ใช้งาน Android สามารถเลือกติดตั้งแอปได้ เพราะเหล่าผู้บริโภคยังคงสามารถหาไฟล์ APK ดาวน์โหลดติดตั้งได้จากที่อื่น ๆ แถมบางแบรนด์ ยังมีสโตร์ของตัวเองติดตั้งมาในสมาร์ทโฟน Android นั้น ๆ

นักพัฒนาบน Play Store กว่า 97% ยังมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องจ่ายส่วนแบ่ง Google จำนวน 15%

นอกจากนี้ Google ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันมีนักพัฒนาที่ทำแอปลง Play Store บน Android กว่า 97% ที่ไม่ได้จ่ายค่าเปอร์เซ็นต์ส่วนต่าง เนื่องจากรายได้ยังไม่แตะหลักหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะมีเพียงแค่ 3% เท่านั้นที่เข้าข่าย ซึ่งในจำนวนดังกล่าว ก็มีน้อยกว่า 0.1% เท่านั้น ที่มีรายได้เกินล้านเหรียญ ทำให้นักพัฒนาจำนวนที่ว่า ต้องเสียค่าบริการแบบขั้นบันไดจำนวน 30% ให้กับ Google นั่นเอง

สำหรับกรณีของ Epic ทาง Google ได้เผยว่า พวกเขาอยากได้เรทที่พิเศษกว่าปกติ หรือพูดง่าย ๆ คือมีอภิสิทธิ์เหนือกว่านักพัฒนารายย่อยคนอื่น ๆ และต้องการจะใช้ระบบจ่ายเงินในแอปของตัวเอง ซึ่งขัดต่อหลักของ Google และจะส่งผลเสียให้กับระบบ Ecosystem โดยรวมแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

แถม Google ยังเปิดเผยอีกว่า ค่าบริการส่วนต่างที่พวกเขาเรียกเก็บในจำนวน 15 – 30% นั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ในตลาด อาทิ Amazon Appstore, Galaxy Store หรือ App Store ไม่ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงแต่อย่างใด แถมในบางกรณี พวกเขายังได้เลือกเก็บน้อยกว่าเจ้าอื่น ๆ อีกด้วย

Google ตอกกลับ การฟ้องครั้งนี้ไม่ได้ช่วยรายย่อย แต่เกื้อหนุนรายใหญ่ต่างหาก

สุดท้ายนี้ Google ได้บอกว่า พวกเขาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับผู้ควบคุมและบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่ถึงอย่างไร ทางบริษัทฯ ก็ยังเชื่อมั่นว่า Android และ Google Play เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้เกิดการแข่งขันและมอบตัวเลือกให้กับผู้บริโภค ในขณะที่คู่แข่งรายอื่น ๆ ไม่มีตัวเลือกแบบนี้ให้

อีกทั้ง Google ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า การยื่นฟ้องในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการช่วยเหลือนักพัฒนารายย่อยเลย แต่เป็นการเกื้อหนุนกับนักพัฒนานายทุนเจ้าใหญ่ ๆ ที่ต้องการจะแสวงหาผลประโยชน์ โดยที่ตัวเองไม่ต้องควักกระเป๋าเงินเสียต่างหาก 

 

ที่มา: Google via Android Authority (1) (2) |