ตอนนี้ดูท่าจะแย่ซะแล้ว สำหรับบริษัท Action Cam ชื่อดังอย่าง GoPro ผู้ปลุกกระแสกล้องถ่ายวิดีโอรุ่นจิ๋วเน้นใช้งานแบบสมบุกสมบันตั้งแต่ปี 2006 กับ Action Cam ซีรีส์ GoPro HERO ที่ดูเหมือนจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทั้งๆ ที่ราคาของแต่ละรุ่นก็โหดพอตัว แต่สถานการณ์ล่าสุดของ GoPro ดูเหมือนว่าจะอยู่ในช่วงขาลงซะแล้ว หลังจากที่ต้องปลดพนักงานออกกว่า 300 คน แถมยังต้องยุบแผนก Drone ทิ้งไปอีก

CEO ของ GoPro ออกมาแถลงว่า ตอนนี้บริษัทอยากหาโอกาสที่จะเข้าร่วมหุ้นกับบริษัทที่ใหญ่กว่า เนื่องจากตอนนี้ผลกำไรของบริษัทตกฮวบลงกว่า 40% เทียบจากผลกำไรเมื่อช่วงเดียวกันเมื่อปี 2016 โดยเหลือเพียง 340 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2017

เหตุผลหนึ่งของการขาดทุนมาจาก GoPro พยายามจะขยายตลาดเข้ามาในส่วนของ Drone นั่นเอง จากที่ยุคแรกๆ เหล่า Drone ทั้งหลายยังต้องใช้งานคู่กับกล้อง Action Cam และ GoPro น่าจะเห็นโอกาสว่ากล้องของตัวเองมีคนนิยมเอาไปติดกับ Drone เยอะแยะ ก็เลยเข้าไปเจรจากับบริษัท Drone ยักษ์ใหญ่เจ้าตลาดจากจีนอย่าง DJI เพื่อผลิต drone สำหรับ GoPro โดยเฉพาะ

GoPro KARMA

แต่สุดท้ายการเจรจาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ GoPro ก็เลยลงทุนผลิต Drone เองซะเลยในชื่อ GoPro KARMA เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี 2016 แต่ประสบปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ทำให้ต้องเรียกคืน Drone ทั้งหมดจากตลาด และคืนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้า จากนั้นก็ทำการแก้ปัญหาและวางจำหน่ายใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถตีตลาดจากเจ้าประจำอย่าง DJI ที่เปิดตัวสุดยอด Drone พกพาอย่าง Mavic Pro ที่เหนือกว่า KARMA แทบจะทุกด้านในราคาที่พอๆ กัน

Mavic Pro ของ DJI

ส่วนในด้าน Action Cam ที่ช่วงนี้ GoPro ก็มีคู่แข่งมากมายหลายเจ้าเหลือเกิน แถมกล้องบางแบรนด์จากจีนก็ยังมีราคาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว ในขณะที่สเปคและการใช้งานหลักๆ ก็ไม่ได้หนีจาก GoPro HERO ไปซักเท่าไหร่เลย ทำให้เมื่อช่วงเทศกาลช่วงปลายปีที่ผ่านมา GoPro ต้องหั่นราคากล้องกันแบบสุดๆ เพื่อช่วยทำยอดนั่นเอง

ตอนนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าบริษัทไหนจะเข้ามาซื้อ GoPro ให้ชื่อแบรนด์ยังคงอยู่ต่อไป หาก GoPro จะประกาศขายบริษัทขึ้นมาจริงๆ

 

ที่มา : Androidauthority, BBC